เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 29 ธ.ค.65 ฉายาสภา 3 วันหนี 4 วันล่ม-แฉแผนเคาะกะลาเรียกรับส่วย-ยืนยันพบร่างหมอแชมป์

-ผู้บังคับการ ปปป.จ่อส่งหนังสือเรียก 21 หน่วยงาน ที่ปรากฏชื่อบนซองเงินที่พบในห้องอธิบดีกรมอุทยานฯ มาแจงข้อมูลฐานะพยาน ส่วนผลสอบปากคำ “รัชฎา” ยังไม่ยอมรับให้การใด ๆ อ้างโกรธเคืองส่วนตัวกับ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ยันมีหลักฐานแน่น ไม่มีมวยล้ม เพราะมีข้าราชการหลายคนแค้นใจ ถูกรีดเงินส่งส่วย แม้แต่หน่วยที่ได้เงินน้อยยังต้องเจียดมาให้เดือนละ 2 พันบาท

-แหล่งข่าวในกรมอุทยานฯ แฉแผน “เคาะกะลา” เรียกรับส่วย ใช้วิธีประกาศว่าจะมีคนมาแทน เหมือนการส่งสัญญาณให้รู้ว่าต้องมาพบ ชี้คนในกรมถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม มีทั้ง ทนไม่ไหวก็ลาออก ไม่ยอมจ่าย ก็ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนคนยอมจ่าย ก็จะได้ตำแหน่งที่ต้องการ การบุกจับอธิบดีครั้งนี้ ในมุมเจ้าหน้าที่ก็ดีใจ

ด้านรองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ประสานขอข้อมูล ปปป. – ป.ป.ช. แล้วยังไม่พบความเชื่อมโยงเรื่องส่วยกับผู้บริหารคนอื่น ย้ำต้องให้ความเป็นธรรม เพราะเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุในข้าราชการระดับสูงในส่วนของผู้บริหารระดับกรม

-ชูวิทย์ มอบข้อมูลใหม่ให้ อัยการสูงสุด แฉ "ตู้ห่าว" นำเข้ายาเสพติดในราชอาณาจักร พร้อมแอบอ้างนำภาพบุคคลระดับสูง ถึง “หม่อมราชวงศ์” ขึ้นป้ายบิลบอร์ดกลางมณฑลซานซี เรียกร้อง “บิ๊กตู่” โยก ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คดี “จินหลิง” ออกจากตำแหน่ง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทิ้งของกลางไว้ในที่เกิดเหตุเป็นระยะเวลาถึง 2 เดือนโดยไม่ตรวจสอบ

-“บิ๊กจ้าว” แถลงโต้ทำสำนวนคดี “ผับจินหลิง” โปร่งใส ไม่ล่าช้า ไม่มีนอกมีใน วอนสังคมติดตามคดีนี้ใกล้ชิด ขอให้รอดูผลทางคดีวันที่อัยการสั่งฟ้อง จะทราบว่าหลักฐานของนครบาลอ่อนจริงหรือไม่

-ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 เผยผลการพิสูจน์จากทันตกรรมและรอยสักบนร่างกาย ยืนยัน ร่างที่พบบริเวณเกาะง่ามใหญ่ คือ หมอแชมป์ พ.จ.อ.คุณากร ตอนนี้ยังรอการยืนยันเอกลักษณ์บุคคลอีก 2 นาย รวมเสียชีวิต 24นาย ยืนยันแล้ว 22 นาย และเร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 5 นาย

-โฆษกกองทัพเรือ แจงกรณีเพจ CSI LA แฉ 27 ปัญหา เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ยินดีนำไปประกอบการสอบสวน ย้ำ ผบ.ทร. กำชับให้คณะกรรมการลุยการตรวจสอบเร่งด่วน รอบคอบ และตรงไปตรงมา

-รวบโจรชิงทรัพย์จาก จ.นนทบุรี หนีมาไหว้หลวงพ่อโสธรที่ฉะเชิงเทรา หวังขอพรให้แคล้วคลาด ดันเผลอหลับถูกตำรวจบุกจับคาวัด เพราะตามสืบจากกล้องหน้ารถผู้เสียหายที่บันทึกภาพไว้ได้ ตำรวจชี้คนร้ายก่อเหตุแบบมืออาชีพ ใช้รถ 2 คันสลับกันก่อเหตุ ประวัติโชกโชน ลงมือมาแล้ว 17 จังหวัดในภาคกลาง และ อีสาน



เรื่องเล่าการเมือง

-ส่วนการเมือง ก่อนหน้านี้ได้เห็นฉายารัฐบาลไปแล้ว เมื่อวานนี้มีการเปิดฉายาสภา ปี 2565 กันบ้าง โดยปีนี้ ส.ส.ได้ฉายา "3 วันหนี 4 วันล่ม" ขณะที่ ส.ว. ได้ฉายา "ตรา ป."

เป็นธรรมเนียมทุกปี ของผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา กับการตั้งฉายาการทำงานของฝ่ายนิติบัญัตติ ปี 2565 โดยปีนี้ สภาผู้แทนราษฎร ได้ฉายา "3 วันหนี 4 วันล่ม" ก็มาจากปัญหาสภาล่มซ้ำซาก ตลอดปี 2565 มิหนำซ้ำช่วงท้ายวาระ ส.ส.ต่างหนีลงพื้นที่ หาเสียงก่อนเลือกตั้ง ละเลยการประชุม ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญ ด้วยเหตุเหล่านี้จึงเป็นที่มาของฉายาดังกล่าว

ขณะที่ "วุฒิสภา" ได้ฉายา "ตรา ป." ก็สะท้อนภาพการลงมติพิจารณาเรื่องสำคัญแต่ละครั้ง ก็ไม่มีแตกแถว เพื่อประโยชน์ของ 2ป. คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ฉายา "ชวน ซวนเซ" มาจากการทำหน้าที่ของนายชวน จากที่เคยได้รับความเคารพ แต่ในปีนี้ ถูกลดความยำเกรง ไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการประสานงานของวิปรัฐบาลที่ไม่ดีพอ จนทำให้นายชวน ซวนเซ เสียหลักไปด้วย

ส่วน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้ฉายา "พรเพชร พักก่อน" ซึ่งคำอธิบายชี้ถึงการทำหน้าที่ของนายพรเพชร ที่ไม่สามารถควบคุมการประชุมได้ และมักถูก ส.ส.ประท้วงว่า ทำหน้าที่สนับสนุนรัฐบาล เหมือนสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มากกว่าทำหน้าที่ตรวจสอบ จึงทำให้เกิดคำถามว่า นายพรเพชร ควรพักก่อนหรือไม่?

นอกจากนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ฉายา "หมอ(ง) ชลน่าน"

มีคำอธิบายว่า แม้นายแพทย์ชลน่าน จะมีความโดดเด่นในการทำหน้าที่จนได้รับฉายาดาวเด่นเมื่อปี 2564 แต่เมื่อได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ จริง กลับหมอง การอภิปรายในสภาไม่โดดเด่นเหมือนอดีต ได้ทำหน้าที่ในนามหัวหน้าพรรคฯ เท่านั้น ขาดอิสระ

สำหรับ ดาวเด่น 65 ในปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา เห็นว่า "ไม่มีผู้ใดเหมาะสม" และโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว

"ดาวดับ’65" คือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ โหนกระแสสังคม พยายามหาแสงให้ตัวเอง แต่สุดท้ายเป็นเพียง "ดาวดับ" และตัวตลกสีสันการเมืองเท่านั้น

ส่วน "วาทะแห่งปี’65" ได้แก่ "เรื่องปฏิวัติผมไม่ได้เกี่ยวข้อง นี่ครับคนปฏิวัติ..ท่านนายกฯ คนเดียว" ของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เกิดขึ้นระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อ 20 กรกฎาคม 2565 และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่นั่งอยู่ข้างกัน ได้ยกมือ ยิ้ม ยอมรับอย่างเต็มภาคภูมิ ท่ามกลางเสียงปรบมือของ ส.ส.อย่างชอบใจ ทั้งที่ตัวเองก็มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น การพูด และกระทำเช่นนี้ จึงไม่ควรเกิดขึ้นในองค์กรนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และการปฏิวัติ-รัฐประหาร ยังเป็นการกระทำที่ผิดครรลอง และทำลายระบอบประชาธิปไตยด้วย

เหตุการณ์แห่งปี คือ "เกมพลิกสูตรหาร 100" โดยมีความพยายามของ ส.ส. และ ส.ว.ทำให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ทันกำหนดเวลา เพื่อพลิกสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากหาร 500 กลับไปเป็นสูตรหาร 100 ตามเดิม เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง โดยไม่ได้คำนึงว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์ใด ๆ

คู่กัดแห่งปี ยกให้ "นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" สมาชิกวุฒิสภา และ "นายรังสิมันต์ โรม" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่ทั้งคู่ได้มาประชุมร่วมกัน หลายครั้งเกิดวิวาทะแบบไม่ลดลาวาศอก ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ โดยเฉพาะประเด็นการกู้ยืมเงินกองทุน กยศ. ที่เริ่มต้นจากการอภิปรายของนายรังสิมันต์ มักพาดพิงที่มาของ ส.ว.บ่อย ๆ จนทำให้นายกิตติศักดิ์ ประท้วง และดึงเรื่องหนี้ กยศ. มาตอบโต้นายรังสิมันต์ ให้สำเหนียกตัวเอง เพราะไม่ยอมชำระหนี้ จนนายรังสิมันต์ โต้แย้งกลับว่า ได้ชำระหนี้ กยศ.จนครบถ้วนแล้ว

ส่วน "คนดีศรีสภา 65" ยังไม่มีใครเหมาะสม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4



-หลังฉายาสภาออกมา ก็มีปฏิกิริยาของคนที่เกี่ยวข้อง โดยประธานชวน หลีกภัย ได้หัวเราะ แถมหยอกกลับผู้สื่อข่าวว่า "ไม่เซ เพราะไม่เมา" ก็ยอมรับว่าอาจไม่ถูกใจสมาชิกบ้าง แต่ต้องยึดมั่นหลักการ

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พูดถึง ฉายา "ชวน ซวนเซ" ก็บอกว่า มีคนโทรมาบอกแล้ว ยืนยัน ไม่เซเพราะไม่เมา และย้ำเรื่องหลักการต้องมั่นคง แต่อาจเป็นไปได้ที่สมาชิกไม่ค่อยเห็นด้วยในบางเรื่อง เช่น เรื่องการลงมติ ที่บางคนอาจไม่เห็นด้วย และคัดค้าน แต่ประธานต้องยึดหลักการ ไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ เพราะเรื่องหลักการจะซวนเซไม่ได้

ส่วนฉายาสภา "3 วันหนี 4 วันล่ม" นายชวน มองว่า ต้องให้ความเป็นธรรม และย้ำว่า สภาชุดนี้มีผลงานมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า ขอบคุณสื่อมวลชนสำหรับฉายาสภา ประจำปีนี้ และน้อมรับกับทุกฉายาที่ตั้งให้ ก็บอกว่า ฉายา " 3 วันหนี 4 วันล่ม" ถือเป็นเรื่องจริงของสภา ฉายานี้ เป็นคำตอบให้ประชาชนว่า รัฐบาลที่มาจากเสียงข้างน้อย ใช้กลไกกฎหมายของรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบ มาเป็นรัฐบาล จนเกิดปัญหาในสภา

พร้อมหัวเราะ ที่ได้ฉายา "หมอ(ง) ชลน่าน" ก็ขอบคุณผู้สื่อข่าว และบอก เข้าใจเหตุผลได้ พอมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว อาจจะไปทำหน้าที่เหมือนสมาชิกปกติทั่วไปไม่ได้ และพูดติดตลก ว่า ส่วนตัว สดชื่นตลอดเวลา ไม่มีหมอง



-ตลอดวานนี้ มีกระแสข่าวลือว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นั้นถอดใจ ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แม้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพียง 23 วัน จนสื่อหยิบเรื่องนี้ไปถามพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

หลังกระแสข่าวลือ ทำเอาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดนจับจ้องไปด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธตอบถึงกระแสข่าวดังกล่าว ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร มีท่าทีอารมณ์ดี และเดินยิ้มแย้ม โดยไม่มีท่าทางหงุดหงิด ทั้งที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นดังกล่าว แม้กระทั่งตอนนั่งอยู่ในรถก็ได้ยักคิ้ว และโบกมือลา ก่อนรถเคลื่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล

ก่อนที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 ว่านายมิ่งขวัญ ยังไม่ลาออก ทั้งนี้ไม่ทราบว่าใครปล่อยข่าว โดยตนได้โทรคุยโดยตรง ต่อสายต่อหน้าพล.อ.ประวิตร ซึ่งก็ได้ฟังการยืนยันชัดเจนไปด้วยกัน

เช่นเดียวกับ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ยืนยันว่า ตนได้พูดคุยโทรศัพท์กับนายมิ่งขวัญ เจ้าตัวยืนยันไม่ได้คิดลาออก และพร้อมเดินหน้าอยู่ช่วยงานด้านเศรษฐกิจของพรรค ถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าของพรรค ซึ่งนายมิ่งขวัญ ก็ไม่ได้ติดใจ แล้วแต่พรรคพิจารณาเรื่องแคนดิเดตนายกฯ เพราะสิ่งที่พูด ก็เพื่อเสนอตัว หากต้องไปออกรายการดีเบตต่างๆ ที่มักจะเชิญ แคนดิเดตนายกฯของพรรค



- เริ่มชัดเจนแล้วสำหรับ 2 พรรคตระกูลสร้าง อย่างพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะควบรวมกับพรรคสร้างอนาคตไทย ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ล่าสุดมีจดหมายเชิญสื่อ ฟังประเด็นหารือร่วมกันวันนี้ เวลา 10.00 น. ท่ามกลางการจับตาว่าจะมีการแถลงข่าวใหญ่

วันนี้มีรายงานข่าวว่า 2 พรรคตระกูลสร้าง อย่างพรรคไทยสร้างไทย และพรรคสร้างอนาคตไทย ได้ส่งหมายเชิญสื่อมวลชน ร่วมทำข่าวการหารือระหว่าง 2 พรรค ที่ร้านอาหาร Corner ย่านสุขุมวิท 26 วันนี้เวลา 10.00 น. โดยมีแกนนำจากทั้ง 2 พรรค ร่วมด้วย ทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายอุตตม สาวนายน นายโภคิน พลกุล และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "2ส."สมคิด"และ"สุดารัตน์" กับข่าวใหญ่ทางการเมือง" พร้อมลงภาพ ขณะเจ้าตัวมาตรวจสถานที่ ร้าน Corner ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่หารือของทั้ง 2 พรรคในวันนี้ ก่อนที่จะระบุทิ้งท้ายว่า น่าจะมีข่าวดีๆ ทางการเมืองส่งท้ายปี 2 ส. เขามีนัดพบกัน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZefrovHOqjE