สังคม

อธิบดีกรมอุทยานฯ ปฏิเสธเรียกรับผลประโยชน์ ยันไม่รู้เห็นเงิน 5 ล้านในห้องทำงาน

โดย panisa_p

27 ธ.ค. 2565

206 views

หลังจากที่ตำรวจ เข้าจับกุมและตรวจค้นห้องทำงานของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้ต้องหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และละเล่นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาสอบปากคำที่กองปราบปรามและมีการแถลงข่างผลการปฏิบัติการดังกล่าว



โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้บอกว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าผู้ต้องหามีการเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่ง หรือการรักษาตำแหน่ง โดยเรียกรับเงินกับหัวหน้าหน่วยงานย่อยภายในกรมฯ ที่มีอยู่ประมาณ 15 หน่วยงาน ประมาณ 2-3 แสนต่อครั้ง รวมถึงยังมีการเรียกรับเงินแบบรายเดือนอีกด้วย และหากไม่จ่ายก็จะถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา



สำหรับอัตราการเรียกรับเงินรายเดือน จะคิดเป็นเปอร์เซนต์ ขึ้นอยู่กับงบประมาณโครงการของแต่ละหน่วยงาน ที่ได้รับแตกต่างกัน หน่วยงานใหญ่เปอร์เซนต์ก็จะสูง เช่น อุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 % จากหมวด งบดำเนินงานและค่าใช้สอย หน่วยป้องกันไฟป่า 3% จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย



ส่วนการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้วางแผนให้ผู้เสียหาย นำเงินสดจำนวน 9 หมื่น 8 พันบาทใส่ซอง แล้วเข้าไปพบกับอธิบดีภายในห้องทำงานที่กรมอุทยานฯ โดยมีการบันทึกภาพและเสียงขณะเจรจาต่อรองเปอร์เซ็นต์ในการเรียกรับผลประโยชน์ ไปจนถึงการส่งมอบเงิน และหลังจจากที่ส่งมอบเงินแล้ว อธิบดีได้รับซองธนบัตรและนำไปเก็บไว้ในลิ้นชัก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าดำเนินการเข้าจับกุมทันที และจากการตรวจค้นภายในห้องทำงานยังพบเงินสด ภายในตู้เซฟ และโต๊ะทำงาน รวมแล้วเกือบ 5 ล้านบาท



พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ระบุว่า จากการสอบปากคำนายรัชฏา เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ บอกว่า "ตนเองรับซองมาจริง แต่ไม่ทราบว่าข้างในซองเป็นอะไร เพราะไม่ได้เปิดดู และเมื่อได้มาก็เก็บไว้ในลิ้นชัก"  แต่ตำรวจยืนยันว่า มีพยานและหลักฐานชัดเจนถึงพฤติการณ์เพียงพอที่จะมัดตัวผู้ต้องหา ส่วนเงินสดที่ตรวจค้นได้ เชื่อว่าได้มาการกระทำผิด



อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินสดกว่า 5 ล้านบาทที่ตรวจค้นเจอในห้องทำงานนี้ ผู้ต้องหายังไม่บอกว่าได้เงินมาอย่างไร ซึ่งจะต้องมีการขยายผลต่อไป ส่วนจะอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่ ขอพิจารณาจากคำให้การก่อนว่าผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หรือไม่



นอกจากนี้ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ยังฝากถึงข้าราชการทุกคน ว่าอย่าไปทนและยอมปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ โดยข้าราชการที่ออกมาร้องเรียนในวันนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี หากพบหรือเบาะแสสามารถร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชันต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/IPmk3uI3k2c

คุณอาจสนใจ

Related News