สังคม

เปิดเบื้องหลัง 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' แหกคุก สมุนพาหนี เผยช่วยด้วยใจ ไม่ได้ค่าตอบแทน

โดย panwilai_c

23 ธ.ค. 2565

209 views

ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มนาย สมประสงค์ คนสนิทนาย ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ซึ่งเป็นคนที่ช่วยเหลือเอาเสื้อผ้ามาให้นาย ประสิทธิ์ เปลี่ยนในห้องน้ำศาล ขณะที่ตำรวจเร่งล่าเลขาสาวอีก 1 คน ที่คาดว่าจะร่วมรู้เห็น



นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของศาลอาญารัชดา บริเวณชั้น 9 เวลา 10 โมง 11 นาที จะเห็นว่า นาย ประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ วิ่งออกมาจากห้องน้ำในสภาพ สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว และรองเท้าสีน้ำตาล โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สวมเสื้อคลุมสีดำวิ่งตามออกมาอย่างกระชั้นชิด



ต่อมากล้องวงจรปิดที่ชั้น 3 จับภาพ ขณะนาย ประสิทธิ์ เดินลงมาจากบันได ในสภาพที่เสื้อสีน้ำเงินที่ใส่ขาดที่แขนขวายาวไปถึงหลัง และเดินกะเผลกเพราะบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อพยายามหลบหนี ก่อนจะถูกตำรวจศาลจับเอาไว้ได้



เมื่อตำรวจย้อนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในลิฟต์ จะเห็นว่าตอน 10 โมง 6 นาที ชายเสื้อสีน้ำตาลคนนี้ คือ นาย สมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นคนสนิทของ นาย ประสิทธิ์ ถือถุงสีน้ำเงินห่อบางอย่างขึ้นลิฟต์มา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้น นาย ประสิทธิ์ก็เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ก่อนจะเดินออกไป



พันตำรวจเอก ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า นาย สมประสงค์ รับสารภาพว่า เป็นคนเตรียมเสื้อผ้ามาให้นาย ประสิทธิ์ เปลี่ยนเพื่อหลบหนีจริง โดยเสื้อผ้าที่นำมาให้เปลี่ยนก็เป็นเสื้อผ้าของเขาเอง หลังถูกจับ เจ้าหน้าที่ก็เจอชุดนักโทษของนาย ประสิทธิ์ กุญแจข้อเท้า และดอกกุญแจสำหรับไข อยู่ที่นาย สมประสงค์ด้วย เบื้องต้น นาย สมประสงค์ ไม่ได้ซัดทอดใคร ส่วนสาเหตุที่ช่วยเพราะนาย ประสิทธิ์ ร้องขอบอกให้เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนภายในห้องพิจารณาคดี ประกอบกับชื่นชอบตัวนาย ประสิทธิ์ อยู่แล้ว เลยเต็มใจช่วยโดยไม่มีค่าตอบแทน



ขณะที่เลขาสาวและแฟนหนุ่ม เมื่อคืนนี้ตำรวจ คุมตัวไปค้นห้องพักแถวสามย่าน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมแต่ยังไม่พบหลักฐานและความเชื่อมโยงว่ารู้เห็นหรือไม่ ประกอบกับทั้งคู่ให้การปฏิเสธ จึงไม่ได้ดำเนินคดีและปล่อยตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน



ขณะที่เลขาอีก 1 คน ของ นาย ประสิทธิ์ คาดว่าน่าจะรู้เห็นด้วยตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ



ทำให้ตอนนี้ตำรวจแจ้งข้อหา นาย สมประสงค์ เพียงคนเดียว ในความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้ต้องขังหลบหนีการควบคุมจากอำนาจศาล ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตำรวจคุมตัวไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือแล้ว แต่จากการสืบสวนพยานหลักฐาน ปรากฎข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ทำให้อัตราโทษสูงขึ้น และอาจจะเกินขอบเขตอำนาจของศาลแขวงพระนครเหนือ จึงพาตัวนาย สมประสงค์ กลับมาควบคุมตัว และสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.พหลโยธินอีกครั้ง



พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า นาย ประสิทธิ์ วาง แผนไว้ 2 ชั้น แผนแรก คือ นำชุดและกุญแจ ไปให้กับนาย ประสิทธิ์ ที่ศาล เมื่อออกมาได้ก็จะใช้แผนสอง คือ ไปเปลี่ยนชุดอีกครั้ง ไปเอาข้าวของที่จำเป็นที่ซ่อนไว้ รถยนต์ และบัตรประชาชนปลอม เพื่อหลบหนีต่อไป แต่มาถูกจับได้ก่อน ซึ่งของกลางที่ตรวจยึดจากรถยนต์ของเลขาฯและแฟนหนุ่มมากถึง 53 รายการ ทั้งเสื้อผ้า สบู่ ยาสระผม รองเท้า วิกผม เป็นต้น



เบื้องต้นถือว่าการกระทําดังกล่าวของนายประสิทธิ์ เป็นความผิดฐาน "หลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตาม อํานาจของศาล" มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ



ส่วนของผู้สมรู้ร่วมคิดในการช่วยเหลือนายประสิทธิ์ฯ เข้าข่ายเป็นความผิดฐาน "ช่วยให้ผู้ที่ถูกคุมขัง ตามอํานาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวนหลุดพ้นจากการคุมขัง" มีโทษจําคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ



นอกจากนี้ศาลอาญาพิจารณาตั้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดฐาน "ละเมิดอํานาจศาล" ด้วย ซึ่งมีโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน



สำหรับนาย ประสิทธิ์ ถูกกองบังคับการปราบปรามดำเนินคดีฉ้อโกงรวมแล้ว 6 คดี // สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ส่งมาให้กองบังคับการปราบปรามอีก 5 คดี // ยึดทรัพย์แล้ว 265 ล้านบาท และเตรียมอายัดทรัพย์เพิ่ม 261 ล้านบาท



เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยอมรับกุญแจข้อเท้า ซึ่งเป็นกุญแจชนิดพิเศษหายจากเรือนจำจริง คาดอมใส่ปากแล้วปิดหน้ากากออกมาจากในเรือนจำ ต้องสอบว่าเจ้าหน้าที่ภายในให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ขณะที่นาย ประสิทธิ์ โดนย้ายไป เรือนจำกลางบางขวางแล้ว



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงยุติธรรม เปิดภาพกุญแจความมั่นคงสูง ให้ทีมข่าวดู ปรากฏว่ากุญแจที่ใช้ไขมี 2 แบบคู่กัน ดอกแรก เป็นกุญแจแบนๆ ดอกใหญ่ คล้ายกับกุญแจบ้าน อีกดอกเป็นกุญแจเข็มที่ต้องแทงลงไปในกุญแจข้อเท้า เพื่อจะปลดล็อค ที่สำคัญต้องใช้กุญแจทั้ง 2 ดอก จึงจะปลดล็อคกุญแจข้อเท้าได้



เมื่อไปตรวจสอบดูที่กล่องใส่กุญแจที่ปกติจะมีอยู่ 5 ชุด ปรากฎว่าหายไป 1 ชุด ซึ่งเป็นชุดที่ นาย ประสิทธิ์ ใส่กุญแจข้อเท้าออกไป โดยวิธีที่ซ่อนกุญแจคาดว่าน่าจะอมกุญแจทั้ง 2 ดอกไว้ในปากแล้วใส่หน้ากากอนามัยทับอีกชั้น เมื่อเข้าห้องน้ำก็ใช้กุญแจที่ซุกซ่อนมาปลดกุญแจข้อเท้า ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา



เมื่อวานนี้ที่โฆษกศาลให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่ได้วิ่งติดตาม นาย ประสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่จริง เมื่อสอบถามแล้ว ทราบว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ



ส่วนเรื่องจดหมายที่มีการกล่าวอ้างถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำ ได้สอบถามแล้ว ยืนยันว่า ไม่เคยเจอหรือรู้จักกันมาก่อน เชื่อว่า นาย ประสิทธิ์ แอบอ้างไปเอง ส่วนจดหมายที่มีการเผยแพร่กันในขณะนี้


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xYua0_iYE4g

คุณอาจสนใจ

Related News