สังคม

โดนอีกแล้ว! แชร์ลูกโซ่หลอกออมทอง ผู้เสียหายนับพันราย สูญหลายร้อยล้านบาท

โดย paranee_s

22 ธ.ค. 2565

1.3K views

วันนี้ (22 ธันวาคม 2565) เวลา 08.30 น. ชาวบ้านกว่า 50-60 คน พากันมารวมตัวที่บริเวณด้านหน้าร้านทองแห่งหนึ่ง ซึ่งปลูกเป็นอาคารชั้นเดียวติดกัน 5 ห้อง ติดกันมีการก่อสร้างเป็นคาเฟ่ ภายในตกแต่งหรูหราลักษณะเหมือนร้านจำหน่ายทองคำ หรือเพชรพลอย แต่ประตูกระจกด้านหน้าปิดล็อกไม่มีผู้ใดอยู่เฝ้าร้านแต่อย่างใด



ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มคนดังกล่าว ต่างพยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ทราบเพียงว่า พวกตนที่มากันในวันนี้ ต่างมาจากจังหวัดอื่น ๆ เช่น จังหวัดสระแก้ว, พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ เพราะทางร้านทอง ได้นัดให้มาเจรจากันเรื่องผลประโยชน์จากการติดต่อซื้อขายทองคำ และออมทองคำ ระหว่างกัน ซึ่งที่ผ่านมาทางร้านขาดการติดต่อกับลูกค้าไปหลายวันแล้ว



แต่เมื่อมาถึงตามที่นัดหมายกันไว้กับพบแต่ความว่างเปล่า (ร้านปิด) และทราบเมื่อวานนี้ (21 ธันวาคม 2565) ว่าได้มีกลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำกับทางร้าน บางคนที่ไม่ได้รับเงินปันผลมาตามนัด และได้พากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรีไว้บ้างแล้ว ส่วนพวกตนที่ทางร้านนัดให้มาพบในวันนี้ กลับไม่ได้พบผู้ใดตามที่แจ้งไว้ จึงตกลงกันว่าจะพากันเดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ให้ช่วยเหลือ



ทางด้านนายวิชัย (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย และเป็นเครือข่ายร้านทอง เผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ที่พวกตนรวมตัวกันมา เนื่องจากมีการนัดเจรจาตกลง กับเจ้าของร้านออมทอง เนื่องจากมีการนัดตกลงว่าจะจ่ายเงินคืนกันในวันนี้ ที่ร้านนี้



ซึ่งในกลุ่มของตนมีผู้เสียหายประมาณ 5 ล้านบาท และในส่วนของตนได้ลงออมไปเป็นเงิน 200,000 บาท ซึ่งการที่ตนมีเครือข่ายก็จะได้รายได้จากยอดบิล 100-200 ต่อบิล แต่มาวันนี้ ปรากฏว่าที่นี่ปิด และไม่พบเจ้าของ เจอแต่เครือข่ายต่าง ๆๆ มา เพื่อรอพบ ตามที่นัดตกลงกัน



ด้าน พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเรียกประชุมพนักงานสอบสวน ว่า ขณะนี้ สภ.เมืองสระบุรีได้จัดเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียหายในกรณีเข้าข่าย “แชร์ลูกโซ่” ที่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์แล้วจำนวนมาก



โดยในชั้นตอนแรก จัดตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ประจำวัน สิบเวร ร้อยเวร ที่อยู่เวรปกติเพื่อรองรับประชาชน และจะทำไลน์กลุ่มให้ผู้ให้สำหรับผู้ที่มารับแจ้งความเพื่อประสานข้อมูลกันระหว่างทีมงานตำรวจกับผู้เสียหาย



จากนั้นจะมีคิวอาร์โค้ตให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะนำผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวนที่ชั้น 4 ห้องประชุมใหญ่ที่จัดเป็น 2 ส่วนไว้รองรับ โซนที่ 1 รองรับประชาชนที่มานั่งพัก จัดพนักงานสอบสวนที่มีความชำนาญด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเข้าประกบเพื่อสอนวิธีการลงข้อมูลออนไลน์ หลังจากนั้นก็จะเข้าไปในห้องประชุมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ เมื่อเสร็จแล้วจะมีทีมงานพามาลงบันทึกประจำวันแล้วจะมีการแคปหน้าจอเลขโค้ด ไอดีต่าง ๆ เพื่อนำมารวมไว้เป็นข้อมูลของโรงพักด้วยเพื่อประสานงานกัน



สำหรับพฤติการณ์ของคดี พ.ต.อ.เชษฐชัย กล่าวเสริมว่า มาจากเป็นการรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกันมาก่อน แล้วบอกต่อ ๆ กันแล้วมีการลงเพจให้มีการ “ออมทอง” ซึ่งทอง 1 บาท โอนให้ 4 เดือน เดือนละ 2,500 บาท เมื่อครบ 4 เดือนจะเป็นเงินประมาณ 23,000 บาท ใครโอนครบจะได้ ทอง 1 บาท พร้อมโบนัสอีกครึ่งสลึงแรก ๆ ก็ทำได้



พอลูกข่ายนำเงินมาเยอะ ๆ ก็มีสายเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงแรกก็ได้ผลตอบแทนมาโดยตลอด พอนานไป เริ่มช้า มีการติดขัดจนทำให้ทุกคนสงสัย และเริ่มกลัวจึงมาแจ้งความ ซึ่งวันนี้เป็นวันนัด ที่เจ้าของร้านทองนัดมาเคลียร์ทั้งหมด แต่ปรากฏว่า เมื่อไปถึงกลับ “ปิดร้าน” ผู้เสียหายจึงพากันไปที่กองปราบ



ซึ่งการแจ้งความในคดีความผิดทางเทคโนโลยี ท่าน ผบ.ตร. ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.วิชิต บุญวิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้กำชับมา ว่าความผิดทางเทคโนโลยีนี้ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ทุกที่ที่สะดวก แล้วตำรวจก็จะสอบปากคำแล้วจะรวบรวมส่งไปที่ สอท.ก็จะดำเนินการทางคดีให้



ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้เสียหายที่มาแจ้งความส่วนใหญ่จะเป็น “หัวหน้าสาย” ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย ตอบว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหัวหน้าสายเองทั้งหมดนั่นแหละ ยกตัวอย่างทุกที่เป็นลูกค้า คนอยากได้ค่าคอมมิชชัน จึงไปหาลูกทีมต่อ ก็จะแตกออกไปเรื่อย ๆ ลักษณะเข้าข่าย “แชร์ลูกโซ่”



ส่วนกระแสข่าวที่ว่า มีการนำมิสแกรนด์สระบุรีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.เชษฐ์ชัย ตอบว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องโปรโมตมากกว่า แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ เห็นแต่เขาบอกว่ามูลค่าความเสียหายขณะนี้ ยังไม่ทราบ แต่จำนวนมากพอสมควร ที่เกิดผู้เสียหายอยู่ในหลายพื้นที่ บางคนหลักแสน บางคนหลักล้าน และจำนวนผู้เสียหาย คาดว่าเยอะ น่าจะหลัก “ร้อยล้าน”



ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ฝากเตือน ถึงกระบวนการหลอกลวง ขอให้ดูเยอะว่า การหลอกลวงมีหลายรูปแบบ ดูความจริงก่อนว่าราคาสิ่งของมูลค่าเท่าไหร่ แล้วผลตอบแทนได้เท่าไหร่ ซึ่งความจริงมันเป็นไปไม่ได้ ขอให้ไตร่ตรองกันให้ดี



และจากแหล่งข่าว จากเจ้าของสำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งมีผู้เสียหายบางรายติดต่อให้ดำเนินการทางคดีให้ แจ้งว่า เจ้าของร้านทอง เป็นหญิงสาวชื่อ วรรศมน อายุประมาณ 20 ปี ทราบว่ากิจการของร้านทองดังกล่าวเติบโตรวดเร็วมาก เพราะมีการนำมิสแกรนด์สระบุรีร่วมโปรโมต จัดโปรโมชันล่อใจต่าง ๆ อยู่ตลอด ปัจจุบันมีลูกค้าราว 1,500-2,000 ราย มูลค่ามีผู้เสียหายประมาณ 500- 700 ล้านบาทเลยทีเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News