ญาติผู้สูญหาย 30 นาย ยังรอด้วยความหวัง จนท.เพิ่มพื้นที่การค้นหา 30 ไมล์

เวลา 8.40 น. เรือหลวงกระบุรีพร้อมกำลังพลออกจากท่าเรือบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อเริ่มปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ กำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยที่ประสบเหตุอับปางและสูญหายกลางทะเลอีก 30 นาย โดยนาวาเอกไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะผู้บังคับการเรือหลวงกระบุรี เปิดเผยก่อนนำเรือออกปฏิบัติว่า ภารกิจการค้นหาในวันนี้ กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือหลวงอ่างทองเป็นเรือบัญชาการ โดยมีเรือหลวงภูมิพล เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนเรศวร ที่เดินทางมาถึงแล้ว เข้าร่วมปฏิบัติการ และยังมีอากาศยานปราบเรือดำน้ำที่อยู่กับเรือหลวงอ่างทอง และเครื่องบินดอร์เนียร์

โดยแผนการค้นหาจะยังใช้รัศมี 30 คูณ 30 ตารางไมล์ จากจุดที่เรือจม (จุดเรือจมห่างจากฝั่ง 20 ไมล์ทะเลหรือ 32 กิโลเมตร ) และวันนี้จะมีการขยับศูนย์กลางการค้นหาตามกระแสน้ำและกระแสลม มาอยู่บริเวณด้านล่างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากจุดที่เรือจมประมาณ 10-20 ไมล์ เพราะหากประเมินจากสภาพคลื่นลม ทำให้กระแสน้ำและกระแสลมมีอัตราการลอยเฉียงไปทางด้านล่างของตะวันออกเฉียงใต้ดังกล่าว พื้นที่ค้นหาจึงต้องเฉียงลงไปด้วย ซึ่งพื้นที่ค้นหาวันนี้ ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ตอนบน

ขณะที่เมื่อช่วงเช้า น.อ.ไกรพิชญ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจดูสภาพเรือและใบจักร รวมถึงหางเสือของเรือหลวงกระบุรี หลังจากเมื่อวานพบว่ามีน้ำเข้าไปในห้องอุปกรณ์ จึงได้ประสานกรมอู่ทหารเรือมาช่วยตรวจสอบ รวมถึงตรวจสอบความชื้นของอุปกรณ์ที่ผิดพลาดและได้แก้ไขซ่อมแซมแล้ว ทั้งนี้ยังได้ลำเลียงเสบียงอาหาร น้ำดื่ม ขึ้นเรือเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า เรือหลวงกระบุรี ไม่มีปัญหาในการปฏิบัติภารกิจอย่างแน่นอน



ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญ ยังคงเป็นเรื่องจากคลื่นลม แต่จากการประเมินคลื่นลมในวันนี้กับ 2 วันที่ผ่านมา วันนีัถือว่าเบาลง ทำให้ยังคงมีหวังที่จะเจอผู้สูญหาย เพราะตามสถิติผู้ที่ผ่านมาฝึกสามารถลอยคอในน้ำได้ 3 วันแบบไม่ใส่ชูชีพและจากการประเมินน้ำตอนนี้ เป็นน้ำอุ่น ไม่ได้เย็นมาก ถ้ายังมีแรงและมีสติก็ยังสามารถประคองตัวอยู่ได้

เมื่อถามว่ามีโอกาสมากกว่า 3 วันไหม นาวาโทไกรพิชญ์ บอกว่า ไม่สามารถตอบได้ , ผู้บังคับการเรือหลวงกระบุรี ยืนยันด้วยว่า ขณะนี้ผู้สูญหายยังคงอยู่ที่ 30 นาย ยังค้นหาไม่พบตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้

ด้าน น.ส.มาลิณี น้าสาวของ จ.ท.สหรัฐ อีสา จ่าเรือ เรือหลวงสุโขทัยที่ยังศูนย์หายอยู่ขณะนี้ เปิดเผยถึงความรู้สึกร้อนใจ เพราะมาเฝ้าติดตามการค้นหาและรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่เมื่อวานนี้ ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางกองทัพอย่างชัดเจน , พอถามกับทางเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ให้เบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกคนเพื่อสอบถาม แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบและยังไม่รู้ชะตากรรมของหลานที่อยู่กลางทะเล



ซึ่งน้าสาวบอกว่า หากการสูญหายบนบกในป่าในเขาทางครอบครัวและญาติพี่น้องยังช่วยกันออกตามหาได้ แต่นี่เป็นกลางทะเลไม่สามารถทำได้ จึงอยากวอนขอให้ทางกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชี้แจงและอธิบายกับทางญาติผู้สูญหายอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา



พร้อมเปิดเผยอีกว่า การติดต่อครั้งสุดท้ายกับ จ่าโทสหรัฐ หลานชาย บอกว่า สถานการณ์ตอนนี้น้ำเข้าถึงท้ายเรือและเรือกำลังจะจมต้องโดดลงทะเลเพื่อสละเรือ , ตัวเองกับลูกเรืออีกประมาณ 20 - 30 คนไม่มีเสื้อชูชีพ ต้องใช้เกาะห่วงยาง 1 ห่วงเกาะด้วยกันประมาณ 3-4 คน หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อ ซึ่งทางครอบครัวยังมีความหวังว่า จ.ท.สหรัฐ จะรอดชีวิต เพราะเจ้าตัวเป็นนีกกีฬาด้วย และเป็นทหารเรือมานานถึง 4 ปีผ่านการฝึกมามากพอสมควร หวังว่าจะมีกำลังและเรียวแรงพอที่จะเกาะห่วงยางรอการช่วยเหลือ