สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' ยันล้างบาง ตม. หากเอี่ยวแปลงวีซ่าทุนจีนสีเทา- 'ชูวิทย์' จ่องัดหลักฐานเด็ดแฉ 'ตู้ห่าว' พุธนี้

โดย chiwatthanai_t

12 ธ.ค. 2565

219 views

ความคืบหน้า หลังจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฏหมายในประเทศไทย ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตั้งเเต่ชั้นประทวนไปจนถึงระดับนายพล หากพบว่าเอื้อประโยชน์ โดยการเปลี่ยนวีซ่าให้กลุ่มทุนจีนเข้าประเทศ ขณะที่นายชูวิทย์ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจ เเละกังวลว่านายตู้ห่าวอาจหลุดคดี เเละเตรียมจะเปิดข้อมูลสำคัญอีกครั้งในวันพุธนี้


พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจงความคืบหน้าคดีกลุ่มธุรกิจคนจีนผิดกฎหมายในไทย กับ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า คดีนี้ใกล้ที่จะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ในบางคดีเเล้ว พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ ยังรอหลักฐานเส้นทางการเงินจากธนาคาร เพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับนายตู้ห่าว ฐานฟอกเงิน


ส่วนคดีความผิดนอกราชอาณาจักรนั้น ตอนนี้ยังไม่ปรากฏหลักฐาน เพราะคดีนี้จะต้องมีการทำความผิดทั้งในและต่างประเทศชัดเจน โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ เช่นเดียวกับคดียาเสพติด ที่กลุ่มนี้เรียกว่า 'แฮปปี้วอเตอร์' พบเป็นยาเสพติดที่ผสมกันขึ้นมาเองอย่างง่ายๆ ในประเทศ โดยไม่ได้นำเข้าจึงยังถือว่าเป็นความผิดในราชอาณาจักรเท่านั้น


ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาระบุว่า ไม่มั่นใจการทำงานของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ รองผบ.ตร. ก็ยืนยันว่าไม่คิดน้อยใจและไม่โกรธนายชูวิทย์ เพราะคดีนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยความรู้สึก แต่จะต้องทำไปตามพยานหลักฐานที่สืบสวนได้ ขณะที่การสอบสวน หัวหน้าสถานีตรวจคนเข้าเมือง 27 แห่ง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า มีเจ้าหน้าที่บางนายร้องไห้ขณะถูกสอบสวน เพราะจำนนต่อหลักฐาน ที่ออกใบอนุญาตให้คนจีนอยู่ในไทย หลังจากนี้จะเอาผิดนายพล ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นด้วย หลังพบว่าเป็นคนลงลายมือชื่อ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นใจการทำงานของตำรวจ


ขณะที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 โดยกล่าวหาว่า "จินหลิง" ไม่ได้เป็นเเค่สถานบริการที่ให้นักเที่ยวเข้ามาเสพยา แต่เป็นสถานที่ที่เปิดมาเพื่อบริการขายยาเสพติด ให้นักเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ และผู้ต้องหาที่ถูกจับในขบวนการนี้มีแต่คนจีน แล้วเมื่อตรวจสอบขยายผลก็พบว่า เป็นเครือข่ายใหญ่ที่กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์มากมายในไทย เพื่อทำธุรกิจสถานบันเทิงสีเทาที่มียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง เเละยังเกี่ยวโยงกับขบวนการทำวีซ่าโดยมิชอบ ซึ่งนายชูวิทย์ตั้งคำถามว่า "พฤติการณ์เเบบนี้ ทำไมถึงยังไม่เข้าข่ายเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ"


นายชูวิทย์ บอกว่า จากนี้เตรียมเดินหน้าร้องอัยการสูงสุดทั้งคณะ เพื่อให้พิจารณาคดีนี้เป็นคอีอาชญากรรมข้ามชาติให้ได้ เเละจะแถลงเปิดโปงคดีทุนจีนสีเทาเเบบล้มกระดาน เป็นครั้งสุดท้ายในวันพุธนี้

คุณอาจสนใจ

Related News