อาชญากรรม

แม่แห่ศพขอความเป็นธรรม ร้องหมอวินิจฉัยผิด ทำลูกสาว-หลานในครรภ์เสียชีวิต วอนหมอรับผิดชอบ

โดย paweena_c

8 ธ.ค. 2565

160 views

แม่ร้องขอความเป็นธรรม หลังหมอเจ้าของครรภ์วินิจฉัยโรคผิด ลูกสาวและหลานในครรภ์ต้องเสียชีวิต วอนหมอโรงพยาบาลอรัญฯรับผิดชอบ


โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กันจอมพลัง พาคุณแม่สายม่าน แม่ของผู้เสียชีวิต และสามีผู้เสียชีวิต เดินทางไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม กับว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากลูกสาววัย 19 ปี ท้อง 8 เดือน แต่ต้องมาเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าหมอวินิจฉัยโรคผิด


ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ต้องให้คุณแม่เข้าแจ้งความ กับพนักงานสอบสวนในท้องที่ก่อน และจะนำศพของลูกสาวและหลานไปผ่าพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง


ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้รับศพไปเก็บไว้ก่อนเพื่อที่จะรอเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ จะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขให้ลงไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าว ว่าวินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่ ส่วนขั้นตอนต่อไปก็จะคุ้มครองสิทธิการเยียวยาให้ผู้เสียหายต่อไป


นางสายม่าน ชาวจังหวัดสระแก้ว แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวชื่อน้องบีมวัย 19 ปี ท้อง 8 เดือน ได้ไปฝากครรภ์ไว้ที่คลินิกดังแห่งหนึ่งในอำเภออรัญฯ และมีกำหนดคลอดลูกวันที่ 12 เดือนธันวาคม 65 โดยวันที่ 4 เดือน พ.ย.65 ที่ผ่านมา ลูกสาวมีอาการเจ็บท้อง มีมูกใส ใหล บริเวณช่องคลอด มีไข้อ่อน ๆ ร่วมด้วย


และพอคลำดูที่อวัยวะเพศที่บริเวณกลีบมีก้อนแข็ง ๆ แต่ไม่เจ็บ จึงพาไปที่คลีนิคที่ฝากครรภ์ และแจ้งให้คุณหมอทราบถึงอาการดังกล่าว หลังจากนั้น หมอก็เรียกเข้าไปฟังการตรวจอุลตร้าซาวด์ พบว่าหลานในท้องดิ้นปกติ เริ่มกลับหัว เด็กมีน้ำหนักประมาณ 1.9 กิโลกรัม โดยหมอแจ้งให้ทราบว่า ยังไม่สามารถคลอดได้ตอนนี้ ยังไม่ครบกำหนดคลอด หลังจากนั้นหมอได้นำลูกสาวขึ้นไปบนขาหยั่ง และหมอสันนิษฐานว่า ก้อนที่แข็งอาจจะเป็นฝี และมีหนอง ต้องกรีดระบายหนองออก


หลังจากนั้น หมอเรียกเข้าไปดูลูกสาว และแจ้งว่าไม่พบมีหนอง จึงให้ลูกสาวลงจากขาหยั่ง เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำ ช่วงลุกลงเดิน มีเลือดไหลออกมาเป็นลิ่ม ๆ และก้อน ไหลไม่หยุด ไหลตลอดเวลา แต่หมอกลับไม่สนใจมาดูหรือทำอะไรให้


ลูกสาวเกิดภาวะช็อกจะเป็นลม ผู้ช่วยหมอในคลีนิคมาแจ้งคุณแม่ว่า หมอให้ส่งตัวไปโรงบาลอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งหมอเจ้าของไข้ก็ทำงานในโรงพยาบาลนี้ด้วย พอไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่พาลูกสาวเข้าห้องฉุกเฉิน เวลาประมาณ 20:00 น หมอเจ้าของไข้ ก็ตามมาที่โรงพยาบาลและแจ้งคุณแแม่ ต้องนำลูกสาวเข้าห้องผ่าตัดด่วน


ประมาณชั่วโมงหมอออกมาแจ้งว่าลูกสาวเสียเลือดมาก ประมาณ 800 ซีซี และไม่สามารถเย็บแผลได้เนื่องจากเลือดไหลไม่หยุด หมอจึงแพ็ค ห้ามเลือดไว้ หมอแจ้งว่าได้ตัดชิ้นเนื้อลูกสาวไปตรวจ ต่อมาหมอให้ลูกสาวแอดมิดนอนโรงพยาบาล


คุณแม่ เล่าอีกว่า เฝ้าดูแลและถามอาการลูกสาวตลอดเวลา ซึ่งตอนนั้นหลานในท้องดิ้นปกติ และต่อมาวันที่ 5 พ.ย.ประมาณตี 5 พยาบาลมาอัลตร้าซาวด์ ดูเด็กในท้อง และพยาบาลพูดกระซิบกันเบา ๆ ว่า ไม่ได้ยินหัวใจเด็กเต้นแล้ว แล้วก็เห็นเจ้าหน้าที่เข็นลูกสาวไปอีกห้องถัดไป ประมาณ 6 โมงเช้า ของอีกวัน หมอเจ้าของไข้ เรียกคุณแม่ไปพบแล้วบอกว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ซึ่งคุณแม่ถามหาสาเหตุ ได้คำตอบสั้น ๆ ว่าติดเชื้อ ไม่มีคำว่าขอโทษหรือแสดงความเสียใจใด ๆ จากปากหมอสักคำ


หลังจากนั้น หมอแจ้งว่า รอแผลแม่เด็กหายเจ็บก่อน ถึงจะผ่าเด็กออกได้ เรารอจนถึงวันที่ 6-7 พ.ย. และถามอาการลูกสาวตลอด แต่ก็มีอาการปวดท้องมากและสภาพจิตใจย่ำแย่ ตลอด 2 วัน คุณหมอไม่เคยมาดูแลอาการเลย ปล่อยให้ลูกสาวนอนเจ็บอยู่อย่างนั้น พยาบาลจ่ายให้แค่ยาแก้ปวด พอถามพยาบาลว่าเมื่อไหร่ผ่าเด็กออก พยาบาลก็บอกว่าให้รอหมอ ด้วยตวามเจ็บปวด จนลูกสาวพูดมาคำนึงว่าอยากตายตามลูกในท้อง


หลังจากนั้น คุณแม่ยัง เล่าอีกว่า เธอทนไม่ไหว จึงเข้าไปร้องเรียนกับ ผ.อ.โรงพยาบาล เพื่อขอเปลี่ยนหมอคนใหม่รักษาลูกสาว หลังจากนั้นหมอก็มาตรวจดู อาการ และแจ้งว่าอาการลูกสาวหนักมาก ติดเชื้อรุนเเรง ร่างกายย่ำแย่ ต้องส่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย


ต่อมา วันที่ 8 พ.ย. หมอโรงพยาบาลอรัญฯก็ทำเรื่องส่งตัวลูกสาวไปยังโรงบาลธรรมศาสตร์รังสิต หลังจากนั้นหมอได้ผ่าตัดนำเด็กออก และพบว่าลูกสาวมีอาการ เกล็ดเลือดต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง ไตวาย เลือดใหลออกทางปอดเรื่อย ๆ และมีสภาวะแทรกซ้อนหลายอย่าง และอุจจาระไม่ออก ท้องอืด และคืนวันที่ 10 พ.ย.จึงนำลูกสาวเข้าห้องผ่าตัดด่วน


หมอได้เจาะไขสันหลังตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ พบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และได้ลุกลามไปทั่วร่างกาย มีการติดเชื้อในกระแสเลือดตัวใหม่และเป็นเชื้อราเพิ่มรุนแรง อาการลูกสาวแย่มาก หมอบอกแม่ให้ทำใจเผื่อไว้ด้วย ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.หมอได้เริ่มให้ยานอนหลับลูกสาวมาตลอด ตามแนวทางการรักษา


และในวันที่ 2 ธ.ค.65 พยาบาลโทรมาแจ้งว่า ลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ศพหลานที่ผ่าออกฝากไว้ที่โรงบาลไม่มีกำหนดรับ ส่วนใบแจ้งตายของหลาน ได้โทรไปขอทางโรงบาลอรัญฯ เขาบอกให้ขอที่โรงบาลธรรมศาสตร์รังสิต ซึ่งทั้งสองโรงพยาบาลโยนกันไปมา และได้ผลสรุปว่าไม่มีใบรับรองการเสียชีวิต


จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีการติดต่อมาจากโรงพยาบาลแต่อย่างใด นอกจากนี้ขอใบผลการตัดชิ้นเนื้อจากทางโรงพยาบาลอรัญฯก็ได้รับคำตอบ จากพยาบาลว่า แม่อ่านผลตรวจออกเหรอ ซึ่งตอนนี้แม่มี แค่ใบรับรองแพทย์จากโรงบาลธรรมศาตร์ เท่านั้น


คุณแม่ บอกว่า อยากให้คุณหมอโรงพยาลอรัญฯ ออกมารับผิดชอบในทุกๆเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในความประมาท เลินเล่อ วินิจฉัยผิดพลาด จึงเกิดปัญหา และเกิดการสูญเสียเกิดขึ้น



แท็กที่เกี่ยวข้อง  หมอวินิจฉัยโรคผิด

คุณอาจสนใจ