สังคม

“นิวยอร์ก-สิงคโปร์” ครองแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกประจำปีนี้

โดย onjira_n

1 ธ.ค. 2565

643 views

ดัชนีวัดค่าครองชีพสากล (Worldwide Cost of Living Index) ที่จัดทำโดยหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ Economist Intelligence Unit หรือ EIU ประจำปี 2565 ระบุว่า มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา กับ สิงคโปร์ ร่วมกันครองอันดับ 1 เมืองที่มีค่าครองชัพแพงที่สุดในโลก โค่นแชมป์เก่า อย่างเมืองเทล อาวีฟ ของอิสราเอล ตกไปอยู่อันดับ 3



การสำรวจระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ 2 เมืองนี้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 มาจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากสงครามในยูเครน และ ข้อจำกัดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สร้างความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่องให้กับห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านพลังงานและอาหาร



รายงานยังระบุอีกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นิวยอร์กขึ้นมาครองอันดับ 1 นับตั้งแต่มีการสำรวจ ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพถูกที่สุดยังคงเป็นของ กรุงดามัสกัส ของซีเรีย และ กรุงตริโปลี ของลิเบีย



ส่วนเมืองที่มีการขยับอันดับขึ้นมามากที่สุด คือ กรุงมอสโก และ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ที่พุ่งขึ้นมา 88 และ 70 อันดับ ตามลำดับ เพราะค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และ ตลาดพลังงานเฟื่องฟูหนุนเงินรูเบิล



ผลการสำรวจของ EIU ระหว่างเดือนสิงหาคมและกันยายน ยังระบุว่า ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ ทั้งหมด 172 แห่ง ที่ได้รับการสำรวจจาก EIU ในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 8.1%



นอกจากนี้ ยังชี้ว่า การที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก็มีผลต่อการจัดอันดับในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากราคาสินค้าต่าง ๆ รวม 50,000 รายการทั่วโลกถูกเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินดอลลาร์



ทั้งนี้เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด 10 อันดับแรกของโลก ของปี 2565 นี้ ได้แก่



อันดับ 1 สิงคโปร์ และ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา



อันดับ 3 เทลอาวีฟ อิสราเอล



อันดับ 4 ฮ่องกง จีน และ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา



อันดับ 6 ซูริก สวิตเซอร์แลนด์



อันดับ 7 เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์



อันดับ 8 ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา



อันดับ 9 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส



อันดับ 10 โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก และ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

คุณอาจสนใจ

Related News