‘หมอล็อต’ ชี้ศึกช้างชนช้าง เชียร์ได้แต่อย่าส่งเสริม เพราะถ้าไม่มีงาจะทำให้เกิดอันตราย

หมอล็อตชี้ศึกช้างชนช้าง เชียร์ได้แต่อย่าส่งเสริม พร้อมกางข้อเสียช้างไม่มีงา ทำให้เกิดอันตรายอย่างไร

วันที่ 21 พ.ย. 2565 นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ภัทรพล ล็อต มณีอ่อน ถึงเรื่องศึกชนช้างที่ทำให้ช้างป่างาหัก จึงออกมาบอกถึงผลเสียของการไม่มีงาว่า ช้างป่าไม่มีงา แล้วไง?

1. ไม่หล่อ ไม่เท่ห์ อันนี้แน่นอน กระทบต่อความรู้สึกต่อผู้เคยพบเห็น

2. เสียการทรงตัว กรณีที่ช้างงาเหลือข้างเดียว ช้างที่งายาวจะหนักมาก หัวช้างก็จะรับน้ำหนักงาข้างเดียว เดินคอเอียงหรือสะบัดหัวไปมา หงุดหงิด บางตัวพยายามงัดงาที่เหลือให้หัก เพื่อความสมดุล ยิ่งตัวไหนที่โครงสร้างงาไม่แข็งแรง โภชณาการไม่เหมาะสม ยิ่งหักง่าย

3. กินพืชอาหารลำบาก ฉีก แกะ เปลือกไม้ เถาวัลย์ที่แข็ง ขุดกินโป่งลำบาก ส่งผลต่อเก้ง กวาง กระทิง และสัตว์อื่นๆ ที่จะตามมากิน

4. เสี่ยงติดเชื้อ โดยเฉพาะแบคทีเรีย เมื่อเชื้อโรคเข้าไป มีไข้ อักเสบ ปวด หงุดหงิดง่าย ก็ฟาดงวงฟาดงา

5. เสียเปรียบตัวอื่น สู้ตัวมีงาไม่ได้ ก็เลี่ยงการเผชิญหน้า ออกนอกพื้นที่ เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า เช่น บุญช่วย บุญมี พวกนี้เคยมีงามาก่อนทั้งนั้น ส่วนตัวไหนที่งายังเหลือ ก็ถวิลหาแร่ธาตุ ตามกลิ่นเกลือ รื้อครัวชาวบ้าน ถ้าอยู่ในอุทยานฯ ก็เข้าลุยลานกางเต็นท์ตากกลิ่นเค็ม หนักหน่อยก็รื้อขยะกิน ติดเชื้อโรค ขยะอุดตันในลำไส้ ปัญหาตามมาอีกเยอะ

6. ปรับยุทธวิธีในการต่อสู้ พอไม่มีงา เสียเปรียบ ก็มาสู้ระยะประชิด เอาโหนกหัวชนหรือกระแทกหน้าอกหรือท้อง ทำให้เลือดตกในช่องอกและตายจากการหายใจไม่ออก หนักกว่าใช้งาแทงกันอีก เชื่อไหมครับว่า ช้างที่ต่อสู้กันและเสียชีวิต เกิดจากการการกระแทกด้วยกำลังมหาศาลที่ช่องอกมากกว่าการใช้งาแทงกัน ตัวไหนมีเชิงดี ปรับกลยุทธ์เก่ง ก็เข้าข้างหลัง เลี่ยงถูกงาแทง แล้วกัดหางขาด ก็ทำให้ตัวถูกกัดหางติดเชื้อและตายได้ เกิดขึ้นให้เห็นแล้ว ปีนี้จะมีช้างป่าถูกกัดหางขาดอีก ก็วนลูปไปที่ข้อ 5

“ศึกช้างชนช้าง ดูได้ เชียร์ได้ แต่อย่าไปเป็นโปรโมเตอร์ (คนส่งเสริม)” วิธีคิดของหมอสัตว์ป่าในถิ่นอาศัย หากจะยื่นมือเข้าไปช่วย ต้องคิดถึงผลที่จะตามมา รับผิดชอบผลที่จะตามมาโดยที่สังคมไม่รับรู้ได้หรือไม่ จุกในใจ