ไฟไหม้โรงงานรองเท้า 'แอโรซอฟต์' ใช้เวลากว่า 6 ชม. ถึงคุมเพลิงได้ในวงจำกัด ยังประเมินความเสียหายไม่ได้

วานนี้ (15 พ.ย. 65) เวลา 17.00 น. มีรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานแห่งหนึ่ง บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาออกระหว่าง กม.ที่ 15-16 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนทราบต่อมาว่า เป็นโรงงานผลิตรองเท้าของบริษัทแอโรซอฟต์  ซึ่งโรงงานมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2 ไร่

สำหรับที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ด้านหน้าเป็นโชว์รูมเอาท์เล็ต 7 ชั้น สำหรับขายรองเท้าและจัดทำเป็นออฟฟิศ ส่วนด้านหลังเป็นอาคาร 5 ชั้น สำหรับเก็บและสต็อกของ

ซึ่งตึกตรงนี้ที่เกิดเหตุ เป็นตึกแบบยาว ด้านหน้ากว้างประมาณ 20 เมตร ด้านหลังที่เป็นแนวยาวประมาณ 100 เมตร  ซึ่งพบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากตัวอาคารเป็นจำนวนมาก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนับร้อยนาย ลงพื้นที่พร้อมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน ระดมกำลังจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิปอเต็งตึ้ง / ร่วมกตัญญู / เจ้าหน้าดับเพลิงจาก อบต.ราชาเทวะ อบต.บางพลีใหญ่ ฯลฯ

ขณะเดียวกัน อีกจุดที่เห็นกลุ่มควันดำพวยพุ่งได้ชัดเจน คือทางด่วนบูรพาวิถีช่วง กม. 15-16 จนมีการแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวัง เพราะทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี

เวลาประมาณ 18.30 น. ขณะทีมข่าวลงพื้นที่ ถึงบริเวณถนนเทพรัตน์ หรือตรงช่วงบางนาตราด กม.15  เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรช่องทางคู่ขนาน ส่งผลให้การจราจรบนถนนบางนาตราดมุ่งหน้าไป กม.16 ไปยังจุดไฟไหม้ รถติดหนักสะสมระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร ถ้าหากรวมด้านหลังรถของทีมข่าว คาดว่ารถติดยาวเป็นระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตรได้

เวลา 19.00 น. โดยประมาณทีมข่าวลงพื้นที่ถึงจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ยังคงพบว่า มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกจากตัวอาคารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนั้นไฟไหม้กินพื้นที่ไปทั่วทั้งอาคารแล้ว

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ยังคงดับเพลิงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าตัวอาคารสูงถึง 5 และ 7 ชั้น และไม่สามารถขึ้นไปยังตัวอาคารได้ เจ้าหน้าที่ต้องขึ้นรถเครนฉีดน้ำ รวมทั้งรถดับเพลิงบางส่วนต้องระดมฉีดจากบนทางด่วน

คุณป้านางกัญจนพร อายุ 63 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงาน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุเกิดตอน 17.00 น. ช่วงเลิกงานพอดี ตนออกมาตรวจคนงาน ก่อนที่จะเห็นกลุ่มควันสีดำจากโซนตึกเอาท์เล็ต ก็เลยพยายามตะโกนต้อนคนงานบอกให้ออกมาเร็วๆ ไฟไหม้ๆ ตอนนั้นคนงานยังเยอะอยู่ พยายามวิ่งออกมาเรื่อยๆ อยู่ ต้อนคนออกจนหมด เพราะกลัวอันตราย และยืนยันไม่มีใครติดอยู่ในอาคาร

ต่อมาเวลา 21.00 น. ขณะที่เพลิงไหม้ไปแล้วเกือบ 4 ชม. ทีมข่าวได้พูดกับ นางอภิญญาภรณ์ อาสากู้ภัยปอเต๊งตึ้ง เผยว่า ได้รับแจ้งเหตุเวลาประมาณ 16.30-17.00 น. ว่ามีไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนลงพื้นที่

เมื่อมาถึงทราบว่า เป็นโรงงานผลิตรองเท้า ซึ่งล้วนมีแต่วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี เช่น ยาง น้ำมัน ทินเนอร์ โดย 4 ชั่วโมงแรก ใช้น้ำในการดับเพลิง ก่อนที่ต่อมาจะเริ่มใช้โฟมในการดับเพลิง เนื่องจากเกรงว่าตัวอาคารจะถล่มลงมา เพราะใช้น้ำในการดับไปกว่า 4 ชม. เพลิงยังไม่สงบ ประกอบกับตัวอาคารของโรงงานติดถนน ส่งผลให้รถดับเพลิงเข้ามาในพื้นที่ได้ช้า และไม่เต็มพื้นที่

ทั้งนี้ ภายในตัวตึกยังมีลักษณะเป็นจิ๊กซอว์ รวมทั้งเป็นตึกเก่า เมื่อฉีดน้ำเยอะจะอมน้ำ ทำให้ตัวอาคารโครงสร้างเสียหาย ซึ่งช่วงเวลา 21.00 น. ที่ฉีดน้ำมาเกือบ 4 ชม. อาคารเริ่มเปลี่ยนแปลง เริ่มทรุดตัว เหล็กต่างๆ ของอาคารเริ่มหักแล้ว จึงมีความเห็นกันว่า จะไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในตัวอาคารแล้ว แต่ว่าเพลิงอยู่ในวงจำกัดที่สามารถควบคุมได้ ไม่ลุกลามไปยังพื้นที่ต่างๆ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ / นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี / นายชะอุ่ม แตงโสภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางฉลง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์

โดยพล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นดับเพลิง 2 ราย ส่วนตัวอาคารจะควบคุมไม่ให้ใครเข้ามา ก่อนที่จะนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

ทั้งนี้ จากการสอบถามคนเห็นเหตุการณ์ ได้ข้อมูลว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงพนักงานพักพอดี จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบวัตถุพยาน รวมถึงพยานแวดล้อมประกอบ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือสาเหตุใด และหากพบว่ามีการกระทำผิดโดยประมาท ยืนยันว่าจะมีดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้

นายชะอุ่ม แตงโสภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางฉลง เผยว่า อาคารดังกล่าวมีอายุประมาณ 30 กว่าปี ก่อนหน้านี้มีวิศกรตรวจสภาพอาคารรายปีทุกปี และยังคงใช้ได้ดี แต่ครั้งนี้เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ ไม่เกี่ยวกับโครงสร้าง เมื่อไฟไหม้แล้วคาดว่าจากนี้อาคารคงไม่สามารถใช้งานได้ คงต้องระงับการใช้อาคาร

เมื่อถามว่า จะมีการปิดเส้นทางคู่ขนานหรือไม่ เนื่องจากหลายคนเป็นกังวลว่าอาคารจะถล่มลงมา และส่งผลต่อผู้คนขณะสัญจร นายชะอุ่ม ระบุว่า คงไม่ปิด เนื่องจากว่าหากถล่มลงมาคงไม่ถึงถนน เพราะยังคงมีช่องว่างอยู่ประมาณ 5-6 เมตร ยืนยันไม่ถึงถนนคู่ขนาน

ทีมข่าวลงพื้นที่จนถึงช่วงเวลา 23.30 น. พบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด ยังคงมีการระดมกำลังเจ้าหน้าดับเพลิงฉีดทั้งน้ำและโฟมอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพรวมกว่า 6 ชั่วโมง พบว่า สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้วงจำกัด

เวลา 23.30 น. ได้มีการถอนกำลังทั้งดานในและพื้นที่ใกล้ตัวอาคาร เพราะมีความเสี่ยงสูงว่าตัวอาคารจะถล่มลงมา 

เลขาธิการรัฐมนตรีวาการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.กฤชนนท์ อัยยปัญญา กล่าวว่า กำลังติดตามสถานการณือย่างใกล้ชิด ซึ่งส่วนที่ไฟไหม้เป็นส่วนของโชว์รูม และมีส่วนของสต็อกบ้าง ส่วนสาเหตุเท่าที่ได้ฟังจากผู้ประกอบการและคนในพื้นที่ คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร แต่เท่าที่ดูจากสายตา อาคารน่าจะทรุดตัวน้อย และในช่วงเช้าจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/RSM82BbxhSU