เร่งสอบปมวางเพลิง ไฟไหม้โกดังภาชี - ‘พิมพ์ภัทรา’ จี้ถามปลัด ไม่รายงานปมอธิบดีกรมโรงงานฯ ลาออก

กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บกากสารเคมี 4,000 ตัน 5 โกดัง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงได้ไหม้โกดังหลังที่ 3-4-5 โกดังที่อายัดกากสารเคมีของกลางกรดเข้มข้นไว้จำนวนมาก จำพวกกรดซัลฟูริก น้ำมันเครื่องเก่า กากสีและปลอกสายไฟ  ซึ่งเคยถูกวางเพลิงเมื่อ 29 ก.พ.67 เร่งตรวจสอบเหตุครั้งนี้วางเพลิงหรือไม่ ถูกประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะหายไปราว 2 พันตันแล้ว จากเหตุเพลิงไหม้ 2 ครั้งที่ผ่านมา

หลังจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้โฟมเข้าฉีดควบคุมการปะทุ ของกากสารเคมี ที่โกดัง 4 ที่เหลืออีกไม่มากนัก ปรากฏว่า กากสารเคมียังคงทำปฏิกิริยา ส่งกลิ่นเหม็นอบอวนอย่างต่อเนื่อง

วานนี้ (3 พ.ค.) จังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัด ได้ประสานงาน ขอความร่วมมือไปยัง บริษัท สุรินทร์ออมย่า ที่ลพบุรี ขอสนับสนุน นำแคลเซียมคาร์บอเนต จำนวน 30 ตัน เข้ามาฉีดพ่น จุดกากสารเคมีปะทุ ที่โกดัง 4 และ และโกดัง 5 โดยจุดที่ยังมีการปะทุ พบว่า แคลเซียมคาร์บอเนต ที่นำไปพ่นปรับสภาพกรดซัลฟูริก จับวัสดุเมาส์บรรจุจากสารเคมีพิษเป็นสีขาว ลดกลุ่มควัน ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีลงทันที

จากนั้น ได้ฉีดแคลเซียมคาร์บอเนตไปทั่วบริเวณพื้นของโกดัง หลังคาโกดัง ผนังโกดัง รอบบริเวณทั้งหมด ของโกดัง 4 และโกดัง 5 โดยทันทีที่แคลเซียมคาร์บอเนตถูกฉีกพ่น ลงไปกระทบน้ำที่ชะล้างจากการดับเพลิง กลายเป็นคราบสีขาว คลุมผิวน้ำทันที

นายวินัย มาริสา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ขับรถบรรทุกแคลเซียมคาร์บอเนต 30 ตัน และควบคุมการฉีดพ่น บอกว่า กรดซัลฟูริก กากสารเคมีพิษ ที่มีส่วนผสมของกำมะถัน เมื่อถูกฉีดด้วย แคลเซียมคาร์บอเนต จะไปทำปฏิกิริยากลายเป็นยิปซั่ม แล้วเจ้ายิปซั่มไปผสมกับคาร์บอนไดออกไซด์ ผสมกับน้ำจะเข้าไปยับยั้งทำลายกรดนั่นเอง ซึ่งนายวินัยรับว่าตัวเอง ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี แต่ด้วยประสบการณ์เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญมาการใช้โฟมเข้าไปฉีด เป็นเพียงการยับยั้งช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อโฟม จางหายไป กรดก็จะกลับมาปฏิกิริยาปะทุเกิดขึ้นอีก

ด้านนายสเกน จันทร์ผดุงสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดมคนงานของเทศบาล นำรถกระเช้า ติดตั้งระบบไฟส่องแสงสว่างรอบโกดังเก็บสารเคมีพิษ และยังระดมคนงาน ถางป่า ตัดหญ้า รอบโกดัง บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ทั้งหมด พร้อมจัดจุดเฝ้าระวังป้องกันคนร้ายแอบเข้ามาลักลอบวางเพลิงทำลายของกลางหลักฐานกากสารเคมีพิษเจ้าปัญหา ที่มีผู้พยายามแอบเข้ามาวางเพลิงทำลายกากสารพิษเพื่อหลีกเลี่ยงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำลายตามกระบวนการที่ถูกวิธี

------------------------------

พิมพ์ภัทรา จี้ถามปลัด ปมอธิบดีกรมโรงงานฯ ลาออก รับรู้ก่อนหรือไม่

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือสอบถามปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล เพื่อขอทราบเหตุผลในกรณีที่ไม่รายงานการลาออกจากราชการของอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ความว่า

จากกรณีที่ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ยื่นใบลาออกราชการต่อปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ ที่ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมต้องทราบ เนื่องจากอธิบดี กรอ.เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวง ซึ่งปลัดได้ทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.แต่ก็ไม่ได้รายงานให้ รมว.อุตสาหกรรมรับทราบ จึงต้องทำหนังสือเพื่อสอบถามความจริงว่า เรื่องนี้เป็นจริงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ และหากจริง ขอทราบเหตุผลทำไมจึงไม่รายงานเรื่องนี้ให้ อุตสาหกรรมรับทราบ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/kOLnXLWnBOA