ข่าวโซเชียล

หมอหนุ่มวัย 28 เล่าวางแผนชีวิตอย่างดี สุดท้าย ‘ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย’ ชาวเน็ตส่งกำลังใจ

โดย paweena_c

11 พ.ย. 2565

368 views

คุณหมอหนุ่มวัย 28 ปี สร้างเพจชื่อว่า "สู้ดิวะ" บอกเล่าเรื่องราวตนเอง ที่เป็นคนดูแลสุขภาพ เพิ่งบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ได้ 2 เดือน วางแผนชีวิตมาอย่างดี กำลังจะแต่งงานและซื้อบ้าน แต่สุดท้ายตรวจพบว่าป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และลุกลามไปที่สมองถึง 6 ก้อน ทำให้เรื่องนี้ เป็นที่พูดถึงในโซเชียลอย่างมาก ทุกคนต่างร่วมกันส่งกำลังใจให้คุณหมอ


เรื่องราวของคุณหมอวัย 28 ปี ถูกถ่ายทอดอยู่เพจเฟซบุ๊กชื่อว่า "สู้ดิวะ" เจ้าของเพจคือ นายแพทย์กฤตไท ธนสมบัติกุล และเพื่อน ๆ คุณหมอโพสต์เล่าเรื่องราวของตนเอง ผ่านข้อความจาก 3 โพสต์ด้วยกัน ประเด็นสำคัญก็คือ


คุณหมอเรียนจบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จากนั้นสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คุณหมอเองเป็นนักบาสเกตบอลของคณะแพทย์ฯ ชอบออกกำลังกาย เข้ายิม ดูแลสุขภาพดีมาก ให้ความสำคัญกับอาหารและการนอนหลับ ชอบอ่านหนังสือ ฟัง podcast ลงทุน


หลังเรียนจบแพทย์ คุณหมอเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง 2 แห่งพร้อมกัน คือแพทย์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว และแพทย์ระบาดวิทยาคลินิก ขณะเดียวกัน คุณหมอก็ไปเรียนปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มอีก 1 ใบด้วย


หลังเรียนจบแพทย์เฉพาะทาง และปริญญาโท ปัจจุบันคุณหมอบรรจุเป็นอาจารย์ประจำ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำงานมาได้ 2 เดือน


คุณหมอบอกว่า ชีวิตวัย 28 ปี ผ่านการลงทุนในตัวเองมาอย่างหนัก วิ่งตามความฝันตัวเองเต็มที่ เดินตามแผนที่วางไว้อย่างงดงาม คุณหมอกำลังจะแต่งงาน กำลังจะซื้อบ้าน แต่แล้วตรวจพบว่า... "ตนเองป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย"


ผลเอ็กซเรย์ปอด ปี 2022 เปรียบเทียบกับปี 2019 พบว่า ปอดด้านขวาของคุณหมอหายไปครึ่งหนึ่ง มีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่ 8 เซนติเมตร ก้อนเล็กหลายก้อนด้านบน มีน้ำในปอด ส่วนปอดด้านซ้ายมีก้อนเล็กๆหลายก้อน ในฐานะหมอ ทราบดีว่าไม่ใช่การติดเชื้อ ไม่ใช่โรคธรรมดา ถึงจะอายุน้อยและไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่มันคือมะเร็งปอดระยะลุกลาม ไม่สามารถผ่าตัดเอาก้อนออก แล้วหายขาดได้อย่างแน่นอน


คุณหมอโพสต์ข้อความติดตลกว่า "กำลังบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ได้ 2 เดือน ก็ได้ตั๋วเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ใหญ่เฉยเลย สงสัยใช่มั้ยครับ ผมก็สงสัยเหมือนกัน"


คุณหมอเล่าอาการป่วย เริ่มจากไอ มีเสมหะบ้าง ไอแห้ง ตอนแรกไปรักษากรดไหลย้อนก่อน ผ่านไป 2 เดือน เล่นกีฬาได้ปกติ แต่เรื่องไอยังไม่หาย จึงตัดสินใจไปตรวจสุขภาพจริงๆจังๆ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ผลพบว่าปอดข้างขวาเหลือครึ่งเดียว ผลตรวจละเอียดพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย


กระจายไปเยื่อหุ้มปอด และปอดข้างซ้ายหลายจุด ที่สำคัญมะเร็งกระจายไปที่สมองถึง 6 ก้อน โชคดีที่ยังไม่มีอาการทางสมองอะไร ทั้งทีตำแหน่งมะเร็ง ทำให้แขนขาอ่อนแรง ชา เดินไม่ตรง ทรงตัวไม่ได้ หรือแม้แต่เสียการมองเห็น


คุณหมอระบุว่า ตลอดชีวิต เชื่อว่าถ้าเรามีเป้าหมายและวางแผน พยายามทุ่มเท อดทน มันจะได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการได้ ผมเชื่อว่าเราสามารถควบคุมชีวิตได้ พัฒนาตัวเอง ดูแลสุขภาพ อ่านหนังสือ ลงทุน ใช้ชีวิตยอดเยี่ยมมาเสมอ


ผมมีสุขภาพที่โคตรแข็งแรง มีการงานที่โคตรมั่นคง อนาคตสดใส มีสังคมที่อบอุ่น มีคนรักมากกว่ามีคนเกลียด เดินตามแผนเกษียณอย่างสบายๆ ผมกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด กำลังจะสร้างบ้านในฝันของเรา


เมื่อตรวจพบมะเร็งระยะสุดท้าย เหมือนโลกทั้งใบแตกสลาย แผนชีวิตที่วางมาทั้งหมดพังลงต่อหน้าต่อหน้า ไม่รู้ว่า ตอนได้คีโม ยา หรือฉายแสงที่หัวด้วยรังสี จะเกิดผลข้างเคียงอะไร ผมกลายเป็นคนที่มีเวลาชีวิตจำกัดขึ้นมาทันที อาจจะหลักเดือน หกเดือน หนึ่งปี สองปี โชคดีหน่อยก็อาจจะห้าปี


สุดท้ายคุณหมอ สรุปว่า คุณหมอไม่เสียดายชีวิตที่ผ่านมา เพราะเป็นชีวิตที่ดี ไม่มีอะไรเสียใจ ได้อยากมีอะไรมากกว่าชีวิตตอนนี้ เพราะมีชีวิตที่ดีมากแล้วจริงๆ 28 ปีที่ผ่านมา มันยอดเยี่ยมและมีคุณค่ามากพอที่จะเรียกว่าชีวิตที่มีความหมายแล้ว


การถ่ายทอดสิ่งที่ตกตะกอนมาตลอดชีวิต มุมมองการใช้ชีวิต ความเชื่อ ความฝัน ความประทับใจ คือเรื่องราวที่ คุณหมออยากฝากไว้กับโลกใบนี้ ทั้งช่วงอารมณอ่อนไหว และเข้มแข็ง เผื่อถ้าวันหนึ่งที่ผมไม่อยู่แล้ว ตัวตนของผม จะยังอยู่ตลอดไป...มันจะดีมาก ๆ ถ้าการที่ชีวิตที่สั้นลงของผม สามารถเป็นกำลังใจ เป็นพลังให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อ


หลังจากข้อความดังกล่าว ถูกโพสต์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็น และให้กำลังใจคุณหมอเป็นจำนวนมาก




คุณอาจสนใจ

Related News