สังคม

จำนนด้วยหลักฐาน! จับปลัด อ.สัตหีบ เรียกค่าออกใบรับรองพูลวิลลา ภาพชัดหยิบเงินจากตู้บริจาค

โดย panwilai_c

7 พ.ย. 2565

337 views

กรณีที่เจ้าหน้าที่ปปท.ร่วมกับตำรวจปปป. ตรวจสอบหลังผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตเปิดบริการที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมหรือพลูวิลล่า ร้องเรียนว่า ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เรียกรับเงิน ด้วยการให้นำเงินใส่ซองจดหมายแล้วไปหย่อนไว้ในตู้รับบริจาคของสภากาชาด โดยตำรวจได้สืบสวนและตรวจสอบจนพบหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นขณะผู้ถูกกล่าวหาไปหยิบเงินและนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคาร ล่าสุดจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คน



ศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้ออกหมายจับ พัทธวัจน์ ดาวัลย์ อายุ 41 ปี ปลัดอำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี หลังพบหลักฐานการทุจริตเรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์เพื่อตนเองโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันเรียกรับประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองโดยมิชอบ โดยนายพัทธวัจน์ได้ติดต่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา



และก่อนหน้านี้ ตำรวจ ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้บุกเข้าจับนายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ อายุ 40 ปี ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ และพวก หลังพบพฤติกรรมเรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองจากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพัก Poolvilla ในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการให้นําเงินใส่ซองจดหมายแล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคของสภากาชาด โดยค่าดําเนินการ คิดอัตราหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่าย ก็จะไม่ได้รับการออกใบรับรองให้ หรือยื้อเวลา จนกว่าจะนําเงินมาจ่าย



โดยพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีนายพัทธวัจน์ ปลัดอำเภอสัตหีบ ผู้ต้องหาที่เพิ่งติดต่อมอบตัว มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย กระทั่งบ่ายวันนี้นายพัทธวัจน์ ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจต่อหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี



นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังมีการจับกุมตัวนายกัณฑ์พงษ์ ปลัดอาวุโส ที่รักษาราชการนายอำเภอสัตหีบ และพวก หลังเกิดเรื่องทางจังหวัด ก็มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับมีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ปกครองจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังรายงานให้ทราบว่า ยังมีฝ่ายปกครองอีกรายเกี่ยวข้องด้วย



วันนี้ทางเจ้าตัวจึงประสานติดต่อเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ส่วนกรณีผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมาย แล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคฯ ก็ได้รับประสานจากทางสภากาชาดไทย ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สัตหีบ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสภากาชาดยกเลิกการใช้ตู้บริจาคดังกล่าวไปตั้งแต่ปี 2560 หลังจากนี้ก็จะแจ้งไปยังกิ่งกาชาดอำเภอแต่ละแห่งให้ทราบว่ามีการยกเลิกตู้บริจาคไปแล้ว



ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการกลั่นแกล้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยจะสอบปากคำอย่างละเอียด



แต่จากการสอบสวน เบื้องต้น นายพัทธวัจน์ ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะแกะซอง และนำเงินไปโอนเข้าบัญชีธนาคาร

คุณอาจสนใจ

Related News