สาวร้องเต็นท์รถมือ2 ย้อมแมวขาย ขับ 100 ม. ล้อหลุด-หลังคารั่ว ยันคืนเท่านั้น

ผู้เสียหาย ร้อง ถูกเต็นท์รถย้อมแมวหลอกขายรถกระบะ สภาพไม่พร้อมใช้งาน ขับออกจากเต็นท์เพียง 100 เมตร ล้อรถหลุดไปโดนร้านค้าริมถนนเสียหาย พยายามคืนรถ เต็นท์แต่ถูกปฏิเสธ



นางสาว วรรณพิชา จารุจินดา อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย และ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ (ทนายคลายทุกข์)​ ออกมาเปิดเผย กรณีถูกเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด ย้อมแมวหลอกขายรถกระบะมือสอง สภาพไม่พร้อมใช้งาน



เธอ เล่าว่า สามีเธอได้ติดต่อไปยังต็นท์รถดังกล่าวเพื่อจะซื้อรถยนต์มือสอง ตอนแรกก็มีการส่งรูปและพูดคุยกับตามปกติ และนัดไปดูรถกันซึ่งเป็นรถอีกรุุ่นกับคันที่เกิดเหตุ แต่วันนัดรับรถ ทางเต็นท์ กลับเสนอรถอีกรุ่นมาให้ ทางผู้เสียหายเห็นว่า ตอบโจทย์ที่จะนำมาขนของ อีกทั้งเซลล์ ยังบอกว่า รถคันที่เสนอ ไม่เคยผ่านอุบัติเหตุร้ายแรงมาก่อน เธอจึงยอมเปลี่ยน แต่ระหว่างนั้นก็ยังไม่เห็นรถของจริง เซลล์บอกว่า ให้ทำสัญญาก่อน อ้างว่าช่างกำลังทำรถให้เธออยู่ โดยราคารถอยู่ที่ 409,000 บาท โดยจ่ายค่าจองรถ ราคา 5,000 บาท



จากหลังทำสัญญาเสร็จ เซลล์ก็พาไปดูรถ เธอก็ไปเปิดประตูรถ ปรากฎว่า คอนโซลตรงประตูฝั่งคนขับ หลุด คามือของเธอ ทางร้านจัดการซ่อมให้ใหม่ทันที ซึ่งตอนนั้นเธอก็เอะใจแล้ว



เมื่อซ่อมเสร็จ เธอและสามีขับรถออกมาจากเต็นท์ ขับออกมาได้ประมาณ 100 เมตร ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายมีอะไรพัง จากนั้น เธอก็เห็นล้อรถด้านหน้าซ้าย หลุด ไหล วิ่งนำหน้ารถ ไปพุ่งชนร้านสเต็กริมทางเสียหาย นาทีนั้นเธอตกใจ เพราะตัวรถ ครูดไปกับผิวถนนจนเกิดประกายไฟ เธอจึงพยายามจอดรถ และลงมาดูความเสียหาย และโทรศัพท์กลับไปหาเซลล์ทันที ทางเต็นท์ก็ส่งรถลากมานำรถกลับไปที่เต็นท์ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่มาเจรจาค่าเสียหายกับร้านสเต็ก พร้อมรับปากจะชดใช้ค่าเสียหายกับร้านสเต็ก



เมื่อกลับไปที่เต็นท์รถ เธอได้บอกเซลล์ว่า ต้องการคืนรถ เพราะไม่กล้าขับแล้ว ห่วงความปลอดภัย เพราะสภาพรถไม่พร้อมใช้งาน จึงขอยกเลิกสัญญา และคืนรถ แต่เต็นท์รถ ปฏิเสธกลับมา บอกว่า "สัญญาเกิดขึ้นแล้ว ยกเลิกไม่ได้" และเซลล์ได้เสนอให้เธอเปลี่ยนประกันรถแทน จากประกันชั้นสองเป็นประกันชั้นหนึ่ง



จังหวะนั้นเธอไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ต้องจำใจต้องขับรถคันดังกล่าวกลับบ้าน ที่จังหวัดชลบุรี และระหว่างทางระหว่างทางฝนตก เธอและสามีเปียกฝน เพราะรถหลังคารั่ว



ระหว่างนั้นเธอก็ไม่ได้ใช้รถเลย และทางร้านสเต็กที่เสียหายได้โทรศัพท์มาทวงค่าเสียหาย กับเธอและสามี บอกว่า "หากไม่มาชดใช้ค่าเสียหาย จะไปแจ้งความดำเนินคดี ในฐานะคนขับรถและเจ้าของรถ" เธอก็ตกใจ เพราะตอนแรกทางเต็นท์บอกว่าจะรับผิดชอบให้แต่เมื่อกลับไปปสอบถาม ก็ตอบกลับมาว่า "รถมีประกันชั้น 1 แล้ว ก็ให้ประกันจัดการไป ทำไมต้องให้เต็นท์จ่าย"



และเมื่อเธอนำรถไปตรวจสภาพกับศูนย์ ก็พบว่า รถพังทั้งคัน โครงรถส่วนล่างเบี้ยวคต ช่างสันนิษฐานเกิดจาก รถเคยผ่านการถูกชนมาอย่างหนัก มีสนิมตามน็อตต่างๆภายในรถ คาดว่า รถอาจจะจมน้ำมาก่อน หลังคารั่ว / มีคราวกาวตามจุดต่างๆในรถ ปุ่มสัญญาณขอทางชำรุด บรรไดข้างรถ ชำรุด ล้อที่หลุด เกิดจาก ไม่มีน็อตยึดไว้



จากนั้นผู้เสียหายไปแจ้งความ ยัง สภ.ปากเกร็ด และตำรวจได้พาผู้เสียหายไปที่เต็นท์รถดังกล่าว เพื่อทำการเจรจากับทางเต็นท์ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้เสียหาย วันนี้ยังไม่สามารถทำการเจรจาได้ เนื่องจากเจ้าของเต็นท์รถไม่อยู่ และ มีท่าทีปฏิเสธ พูดจาไม่ดีกับเธอและมีท่าทีไม่พอใจ เธอยอมรับว่า รู้สึกเสียความรู้สึก เพราะรถคันนี้เป็นรถคันแรกที่ตั้งใจจะซื้อมาใช้หาเลี้ยงครอบครัวแต่กลับต้องมาเจอกับปัญหา



ซึ่งเธอ ยืนยันต้องการคืนรถและยกเลิกสัญญาการเช่าซื้อ แล้วไม่ขอรับการเปลี่ยนรถเป็นคันอื่นจากเต็นท์รถ เพราะไม่ไว้ใจแล้ว โดยหลังจากนี้จะ นัดหมายเจรจาอีกครั้งกับเจ้าของเต็นท์รถในวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน



ทนายเดชา บอกว่า กรณีดังกล่าว มีความผิด ฐานขายของโดยหลอกลวง คุณภาพของอันเป็นเท็จ และได้ยื่นข้อเสนอให้ทางเต้นท์ระต้องยกเลิกสัญญากับผู้เสียหาย และคืนเงินค่ามัดจำ และยังได้ตั้งข้อสังเกตุ เรื่องทะเบียนรถยนต์ ที่รถมีอายุการใช้งานมามากกว่า 10 ปี แต่ป้ายทะเบียนกลับเป็นหมวดป้ายทะเบียนใหม่ที่มีการจดทะเบียนในปี 2563 ซึ่งอาจจะเป็นการเลี่ยงการตรวจสอบ เพื่อนำมาขาย

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/dYF9EQ3M6AU