มหาเศรษฐีรัสเซีย ‘ทิงคอฟ’ ประกาศสละสัญชาติ ชี้ไม่อยากเกี่ยวข้องกับประเทศเผด็จการ

นายโอเล็ก ทิงคอฟ (Oleg Tingkov) มหาเศรษฐกีชาวรัสเซีย วัย 54 ปี ประกาศสละสัญชาติ เพราะไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามในยูเครน

นายทิงคอฟประกาศว่า เขาตัดสินใจที่จะละทิ้งสัญชาติรัสเซีย เพราะเขาไม่สามารถ และ ไม่อยากเกี่ยวข้องกับประเทศเผด็จการที่ทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านที่สงบสุข และ สังหารผู้คนบริสุทธิ์ในทุก ๆ วัน และหวังว่า นักธุรกิจคนอื่น ๆ จะทำตามเขา เพื่อทำให้เศรษฐกิจและรัฐบาลอ่อนแอลง และทำให้ประธานาธิบดีปูตินพ่ายแพ้ในที่สุด


นายทิงคอฟได้โพสต์รูปภาพลงบนอินสตาแกรมยืนยันว่า สัญชาติรัสเซียของเขาได้ “สิ้นสุด” ลงแล้ว พร้อมทั้งระบุว่า เขาเกลียดรัสเซียของปูติน แต่ยังคงรักชาวรัสเซียทุกคนที่ต่อต้านการทำสงครามบ้า ๆ นี้


ทั้งนี้ นายทิงคอฟถือเป็นมหาเศรษฐีชื่อดังในรัสเซีย และ เป็นผู้ก่อตั้งธนาคาร “ทิงคอฟฟ์ (Tinkoff Bank)” ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ให้ทุนกับรัฐบาลรัสเซียมากที่สุด รองลงมาจากธนาคาร Sberbank และ VTB ปัจจุบันมีลูกค้าราว 20 ล้านคน


นอกจากนี้ นายทิงคอฟยังถือเป็นมหาเศรษฐีรัสเซียคนแรก ๆ ที่ออกมาวิพากษ์วิจารย์การทำสงครามในยูเครนของรัฐบาลรัสเซีย โดยบอกว่าเป็น “สงครามบ้า ๆ” และเรียกร้องให้ชาติตะวันตกช่วยยุติ “การสังหารหมู่” นี้


เขายังเคยถูกรัฐบาลอังกฤษคว่ำบาตร หลังจากสงครามเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกจับกุม ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2563 ฐานหนีภาษีในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวและเข้ารับการรักษาโรคลูคิเมียในลอนดอน ซึ่งปัจจุบัน เขายังคงอาศัยอยู่ในอังกฤษ


ก่อนหน้านายทิงคอฟ เคยมีมหาเศรษฐีรัสเซียประกาศสละสัญชาติไปแล้วหลายคน เช่น นายนิโกลาย สโตรอนสกี (Nikolay Storonsky) ที่ปัจจุบันถือสัญชาติอังกฤษ และ เป็นผู้ก่อตั้ง Revolut ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านฟินเทคในลอนดอน นอกจากนี้ ยังมียูริ มิลเนอร์ (Yuri Milner) ที่ประกาศสละสัญชาติรัสเซีย และ อพยพจากรัสเซียไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา