เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 1 พ.ย.65 ประณามมติให้ต่างชาติซื้อที่ดิน-หมอไลฟ์โชว์ผ่าตัดคนไข้-น้าแอ๊ดยกพานขอขมาผู้ว่าฯ

-ตำรวจระดมผู้เชี่ยวชาญเปิดตู้เซฟขนาดใหญ่ 2 ตู้ที่ผับจินหลิง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงเอกสาร ของทางร้าน และพบเงิน 120 บาท ขณะที่ตู้เซฟอีก 3 ตู้ ที่เก็บไว้ที่ สน.ยานนาวา พบเงินสด 5 ล้านบาท กับเอกสารแต่ไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด

-ตำรวจพัทยาเร่งแกะรอยแก๊งชาวจีนโหด อุ้มเพื่อนร่วมชาติ มัดมือ-ขา อัดคลิป ตัดนิ้ว ใช้มีดแทงก่อนกระหน่ำตี เรียกค่าไถ่ 30 ล้าน ด้านเหยื่อหนีตาย กระโดดจากชั้น 2 รอดตายปาฏิหาริย์ ล่าสุดวงจรปิดจับภาพผู้ก่อเหตุขับรถผู้เสียหายเอามาจอดทิ้งริมถนนก่อนเผ่นหนี  ด้านเจ้าของร้านเห็นผู้ก่อเหตุขับรถมาจอด คล้ายกับคนจีน ลงจากรถมุ่งหน้าเทศบาลโป่งก่อนหายตัว

-แห่วิจารณ์สนั่น หมอ รพ.ดัง จ.นครสวรรค์ ไลฟ์สดโชว์เคสผ่าตัดคนไข้ กลางห้องผ่าตัด ทำชาวเน็ตแห่ตั้งคำถาม ละเมิดความเป็นส่วนตัวคนไข้ ไร้จรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านเลขาธิการแพทยสภารับเรื่องแล้ว ชี้อาจมีความผิดข่ายโฆษณา ด้านหมอ รพ.ดัง โพสต์ขออภัยคิดว่าไม่เห็นคนไข้และการผ่าตัด ทำไปด้วยความไม่รู้

-โซเชียลร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ น้องแบม ส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ว่าจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว และเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความจริงได้ ครอบครัวยังช็อกกับเหตุการณ์ หวังนำร่างกลับบ้านเกิดแต่ใช้จ่ายสูง ด้าน ผวจ.เพชรบูรณ์ยื่นมือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายนำร่างกลับ คาด 3-4 วันถึงไทย

-แอ๊ด คาราบาว ย่องเงียบยกพานดอกไม้ไหว้ขอโทษผู้ว่าฯ พร้อมยอมรับผิดว่าพูดไม่ทันได้คิด ก่อนร้องเพลง "หนุ่มสุพรรณ" พร้อมมอบกีตาร์ ด้านผู้ว่าฯ ไม่รับกีตาร์ บอกเล่นไม่เป็น ไม่ขอรับไว้ ส่วน ผบช.ภ.7 เผยส่วนคดียังคงดำเนินการต่อ แต่หาก แอ๊ด ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกับผู้ว่าฯ ก็ถอนคำร้องทุกข์ได้


เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นเรื่องให้ต่างชาติซื้อที่ดินที่ ครม.มีเห็นชอบหลักการปรับเงื่อนไขใหม่ ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อวานโอกาสคณะหลอมรวมประชาชน ก็ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้

คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เดินทางเข้ายื่นหนังสือ "คัดค้านกฎหมายให้ต่างชาติครอบครองครองแผ่นดินไทย" ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล

นายนิติธร อ่านแถลงการณ์ของคณะหลอมรอวมประชาชน ช่วงหนึ่งระบุว่า การสร้างแรงจูงใจให้ชาวต่างประเทศมาลงทุนหรืออยู่อาศัยในประเทศ เมื่อพิจารณาถึงบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหมวดที่ 5 หน้าที่ของรัฐ หมวดที่ 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ ไม่มีบทบัญญัติใดที่เขียนไว้ชัดให้ดำเนินการเช่นนั้นได้ กรณีดังกล่าวจึงมีเหตุสมควรจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่

รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีการวิจัยเพื่อพิจารณาความคุ้มค่าหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งแนวทางป้องกันความเสียหาย แนวทางแก้ไข การใช้อำนาจรัฐเพื่อออกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงถือเป็นอำนาจรัฐที่เป็นภัยคุกคามซ่อนรูปต่อความมั่นคงประเทศและประชาชนรูปแบบใหม่

ด้านนายจตุพร ตั้งคำถามว่า ถ้าเป็นเรื่องที่ดีทำไมไม่ออกมาตรการนี้มาตั้งแต่ปีแรกที่ดำรงตำแหน่ง แต่ปล่อยให้ผ่านมา 8 ปี วันนี้ต่างชาติครองแผ่นดินไทยมีการใช้นอมินีเต็มแผ่นดินไปหมด แต่ไม่มีท่าทีของรัฐบาลที่ออกมาแก้เรื่องนี้ นายกฯไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของชาติเลย

ทั้งนี้ วันที่ 2 พ.ย.จะนำเรื่องนี้ไปยื่นที่กองบัญชาการกองทัพไทย ว่ารู้สึกต่อเรื่องนี้อย่างไร และวันที่ 4 พ.ย.จะไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องถูกผิดทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องสามัญสำนึกในการรักแผ่นดิน



-ขณะที่พรรคการเมืองก็ยังพาเหรดกันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เริ่มจากรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ที่บอกว่า เป็นเรื่อง "2 มาตรฐาน"

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ครั้งหนึ่ง มีคนกลุ่มหนึ่ง อ้างว่า การขายที่ดินให้ต่างชาติคือการ"ขายชาติ" ตอนนี้ คนกลุ่มนั้นอธิบายใหม่ว่า มิใช่ขายชาติหรอก แต่เป็นการ"กระตุ้นเศรษฐกิจ" ต่างหาก เรื่องเดียวกันแต่เราอธิบายต่างกัน เขาเรียก " 2 มาตรฐาน"

ต่อไป ในเมือง ในเทศบาล เตรียมรับตึกหรู บ้านหลังใหญ่ อลังการ เห็นคนจีน คนฝรั่ง ขับรถหรู เข้า-ออก หากมีป้ายเขียนว่า"ซอยนี้คนไทยห้ามเข้า" ก็อย่าว่ากัน มันเป็นแผ่นดินของเขา เราค่อยไปนั่งขายขนมครกหน้าปากซอย หากมีการมั่วสุมยาเสพติดกันเต็มซอย ก็ถือว่า เป็นการกระตุ้นการบริโภค(ยาเสพติด) ก็แล้วกัน

นายนิพิฏฐ์ บอกว่า ฟังผู้รู้ที่ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศมา อธิบายว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ มีหลายวิธี สถานการณ์นี้ ไม่ควรทำอย่างนี้

ต่อมานายนิพิฏฐ์ โพสต์อีกครั้ง ระบุว่า ใช้เวลาครึ่งวันปรึกษาผู้รู้เรื่องการขายที่ดินให้ต่างชาติ พบว่าแม้มีนโยบายตั้งแต่ปี 2545 แต่มีต่างชาติมาซื้อที่ดินเพียง 8 ราย แสดงว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายนี้ ไม่ได้ผล

และเห็นว่ามาตรการนี้ของรัฐบาล มาผิดเวลา มาในขณะคนไทยลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี กระทบหัวใจคนไทย ที่เห็นที่ดินถูกขายให้ต่างชาติ

และการมาซื้อที่ดิน 1 ไร่ ส่วนใหญ่ คือการฟอกเงินของพวกมาเฟียที่ส่วนใหญ่อยู่ประเทศตัวเองไม่ได้ จึงมาซื้อที่ดินในประเทศไทย แปลงสัญชาติเป็นคนไทย และบริจาคเงินให้นักการเมืองเพื่อคุ้มครองตัวเอง

ก่อนจะลงท้ายว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่เห็นด้วยกับแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการขายแผ่นดินให้ต่างชาติ

อีกพรรคที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน คือ พรรคไทยสร้างไทย โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค นำแถลง เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมติ ครม.กรณีนี้ ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่าหลักการในร่างกฎกระทรวงที่ผ่านการเห็นชอบมานั้น จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติในระยะยาวมากกว่าการได้ประโยชน์เพียงน้อยนิดในระยะสั้น



-ส่วนทางฝ่ายรัฐบาล "วิษณุ เครืองาม" บอกว่า การคัดค้านให้ต่างชาติซื้อที่ดินมีมาทุกยุค หากมีเสียงคัดค้านมากรัฐบาลก็พร้อมพิจารณา แต่ตอนนี้ก็มีทั้งเสียงค้านและเสียงเรียกร้อง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้ ครม.จะมีมติอนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงที่ปรับเงื่อนไขในการซื้อที่ดินของต่างชาติไปแล้ว แต่ยังสามารถทบทวนร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้ ขั้นตอนจากนี้ ครม.จะต้องส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วต้องส่งกลับมาที่ ครม.อีกครั้ง

ส่วนที่มีกระแสคัดค้านเรื่องนี้นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ก็มีการคัดค้านมาทุกครั้งที่มีการทำเรื่องนี้ ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน ปี 2531 ต่อมาปี 2545 ก็ได้มีการร่างกฎกระทรวงออกมาในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำหนดให้คนต่างชาติที่มีเงินลงทุน 40 ล้านบาทขึ้นไปสามารถเข้ามาซื้อที่ดินได้คนละไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อการอยู่อาศัย มาจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลานานพอสมควร หลักเกณฑ์เดิมที่เคยมีในตอนนั้นบางเรื่องถือว่าตึงเกินไป บางเรื่องก็หละหลวมเกินไป รัฐบาลจึงอยากจำกัดหลักเกณฑ์ผู้ที่มาซื้อที่ดินใหม่

นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ามีกระแสต้านเข้ามามาก รัฐบาลก็จะนำมาพิจารณา แต่ตอนนี้ก็ มีทั้งเสียงเรียกร้องและเสียงคัดค้านเรื่องดังกล่าว



-ท่ามกลางกระแสข่าวลือการยุบสภาก่อนครบวาระ มีการปิดห้องหารือกันของพี่น้อง 3ป. โดยท่านนายกฯ ยังคงสงวนท่าที ตอบคำถามผู้สื่อข่าว สั้นๆ เพียงว่า “ไม่ทราบ”

เมื่อวานนี้ช่วงเช้าก่อนการประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

มีรายงานว่า ท่านนายกฯ ได้ปิดห้องพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้เวลากว่า 30 นาที ท่ามกลางกระแสข่าวการยุบสภาก่อน 24 ธ.ค. ซึ่งเป็น 90 วัน ก่อนสภาครบวาระ

ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามท่านนายก 2 ครั้ง โดยเฉพาะเรื่องข่าวการยุบสภา รอบแรก หลังการประชุมเตรียมพร้อมเอเปค ท่านปฏิเสธตอบคำถาม

ขณะที่รอบ 2 ช่วงบ่าย ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว โดย ท่านนายกฯ ระบุสั้นๆ ว่า "ไม่ทราบครับ ไม่ทราบ"

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่าน ปฏิเสธตอบคำถาม ส่วนกระแสข่าวเรื่องการยุบสภานั้น ระบุว่า "ให้ไปถามนายกรัฐมนตรี"

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า "ไม่ทราบ ก่อนจะชี้ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับระบุว่า การยุบสภา เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

ส่วนการจับมือจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่มีหลายสูตรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า "เคยพูดไว้แล้ว ขอให้รอผลการเลือกตั้ง ค่อยมาถามเรื่องนี้"



-ส่วนสัปดาห์นี้ 2 พ.ย.นี้ จะมีร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าเข้าสู่การพิจารณาของสภา เมื่อวานนี้ ทั้งพรรคก้าวไกล และ คณะก้าวหน้า แสดงจุดยืนขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้า พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนจับตาการโหวตในวาระ 2 และ 3 ที่จะเกิดขึ้น

เมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า จัดงานพบสื่อ และ นำเสนอสุราแบรนด์ไทยจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยในหลายประเภท เพื่อย้ำจุดยืนการขับเคลื่อนขับเคลื่อนนโยบายสุราก้าวหน้า

โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พูดถึงร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภา ในวาระ 2 และ 3 ยืนยันว่า มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ถือว่าเป็นนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่จะทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายย่อยอย่างมีความยุติธรรม

พร้อมขอความร่วมมือจาก พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคภูมิใจไทย เพราะ เรื่องนี้เป็นชัยชนะของประชาชน ไม่ใช่ชัยชนะของพรรคใดพรรคหนึ่ง

ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่า การเสนอนโยบายสุราก้าวหน้า ไม่มีเจตนาแอบแฝง ไม่ได้ต้องการส่งเสริมให้คนดื่มสุราเยอะขึ้น แต่ต้องการทลายข้อจำกัดที่ทำให้เกิดการผูกขาดในประเทศไทย พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนจับตาการพิจารณาของสภาที่จะเกิดขึ้น

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/weQeu9_JtRk