ตำรวจสั่งยกเลิกโครงการสวัสดิการปืนแล้ว ให้เบิกปืนหลวงเท่านั้น-ผบ.ตร.ตั้งคณะทำงานศึกษายกเลิกปืนส่วนตัวของข้าราชการ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงความคืบหน้าการออนโยบายควบคุมและป้องกันการสูญหายของปืนและอาวุธในคลังอาวุธตำรวจว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้ระดมกวาดล้างผู้ลักลอบนำอาวุธปืนของตำรวจมาขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่ายังคงนำมาขายในออนไลน์และถูกนำไปบังต่างประเทศ เน้นย้ำต้องได้ทั้งอาวุธปืนกลับมาและจับตัวผู้กระทำความผิดได้จริง ไม่ใช่แค่ได้อาวุธปืนกลับมาอย่างเดียว



พร้อมสั่งการให้ทุกสถานีตำรวจและคลังอาวุธของตำรวจเร่งตรวจสอบปืนและอาวุธในคลัง ซึ่งดำเนินการเข้มงวดหลังเหตุกราดยิงหนองบัวลำภูจนมาทราบเหตุปืนหาย 160 กระบอกที่ สภ.ปากเกร็ด เบื้องต้นพบว่าปืนในคลังส่วนใหญ่เป็นปืนที่เก่าและล้าสมัย ส่วนปืนใหม่ที่ทางการนำมาให้พบว่าอยู่ในสภาพหุ้มพลาสติก ไม่ได้ถูกนำมาใช้ ซึ่งได้สั่งการให้จะเก็บปืนเก่าส่งพลาธิการตำรวจเพื่อทำลายและจะให้ใช้ปืนใหม่เท่านั้น มั่นใจว่าปืนที่มีในคลังทั่วประเทศตอนนี้เพียงพอสำหรับการปฏิบัติการของตำรวจทุกนาย



ส่วนโครงการปืนสวัสดิการตำรวจที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณายกเลิกโครงการนี้แล้ว และจะให้ตำรวจเบิกใช้ปืนหลวงแทนในการปฏิบัติการ เพื่อลดการครอบครองอาวุธปืนเป็นการส่วนตัวและการซื้อปืนของตำรวจแต่ละนายที่ไม่เหมือนกันในหน่วยงานอันจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ หวังจะสร้างโมเดลแบบตำรวจสหรัฐอเมริกาที่ทั้งหน่วยจะต้องใช้ปืนแบบเดียวกัน รวมทั้งจะใช้ระบบการเบิกอาวุธปืนแบบ QR code military spec ในทุกหน่วยงานตำรวจทั้งประเทศ แบบเดียวกับที่หน่วยคอมมานโดใช้ และจะสลักท้ายปืนด้วยลักษณะพิเศษเฉพาะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติติดกับปืนเพื่อสามารถระบุได้ว่าเป็นปืนของตำรวจไทย โดยการเบิกใช้แต่ละครั้งมีอายุ 15 วัน ถ้าพ้นกำหนดก็สามารถติดตามเอาคืนได้ อีกทั้งจะช่วยป้องกันการลักลอบขนอาวุธปืนออกไปจากคลังได้ด้วย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งพัฒนาและติดตั้งระบบให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

ผบ.ตร.ตั้งคณะทำงานศึกษายกเลิกปืนส่วนตัวของข้าราชการตำรวจใช้ปฎิบัติหน้าที่



มีรายงานข่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายที่จะยกเลิกอาวุธปืนส่วนตัวของข้าราชการตำรวจที่ใช้ในการปฎิบัติหน้าที่และให้ใช้ปืนสวัสดิการของหลวงมาเป็นปืนประจำกายแทนปืนส่วนตัวที่ใช้ปัจจุปัน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและจะได้เป็นมาตรฐานการทำงานที่เป็นปืนแบบเดียวกันเหมือนกับนานาประเทศ



โดยขณะนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน โดยมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจที่ดูแลงานด้านการป้องกันและปราบปรามและฝ่ายกำลังบำรุงที่กำกับดูแล เข้าไปศึกษาและตรวจสอบในรายละเอียดว่าขณะนี้ปืนหลวงมีอยู่ในระบบทั้งหมดเท่าไหร่จากนั้นจะมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดช่องว่างหรือช่องโหว่วหรือวิธีปฎิบัติที่อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้



โดยมีรายงาน​ว่าขณะนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังไม่ได้มีการเรียกประชุมขององค์คณะทำงานเป็นเพียงแค่แนวคิดของคณะทำงานบางคน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนแต่ถือว่าเป็นหลักฐานที่สาม​ารถนำไปใช้ในการปฎิบัติได้ แต่ก็ต้องดูว่าอาวุปืนหลวงมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะปัจจุปันมีประมาณ 4-5แสนกระบอกทั้งปืนสั้นปืนยาว ซึ่งต้องไปดูในรายละเอียดทั้งหมด อีกทั้งการจะยกเลิกไม่ให้ใช้ปืนส่วนตัว ต้องมีเหตุผลชี้แจงต่อข้าราชการตำรวจ และทำไมที่ผ่านมาทั้งที่มีอาวุธปืนอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงไม่นำมาใช้ เป็นเพราะข้าราชการตำรวจนิยมใช้ปืนส่วนตัวในการปฎิบัติหน้าที่มากกว่า