อาชญากรรม

ขุดประวัติร้านปาร์ตี้ยาเค เคยเป็นบ่อนพนัน พบเอี่ยวเครือข่ายสถานบันเทิงขนาดใหญ่ย่านรัชดาภิเษก

โดย paranee_s

26 ต.ค. 2565

475 views

พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากควบคุมตัวนักท่องเที่ยวที่พบภายในสถานบันเทิงได้ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 229 คน เจ้าหน้าที่ได้นำไปควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู และได้นำนักเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติดประเภทเคตามีน


โดยใช้ขั้นตอนกระบวนการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลที่มีเครื่องตรวจอีก 3 แห่ง พบว่ามีนักเที่ยวที่มีสารเสพติดจำนวนประมาณ 104 คน แต่อยู่ระหว่างการแยกสารประกอบว่าเคตามีนที่พบในร่างกายเป็นเคตามีนจากการเสพยาเสพติดหรือได้รับมาจากแหล่งที่มาใดเนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ


ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามรายงานของสน.ยานนาวาพบว่าสถานบันเทิงแห่งดังกล่าวเคยเปิดเป็นบ่อนการพนันก่อนที่จะปิดตัวลงไป และกลับมาเปิดกิจการเป็นร้านอาหารได้ประมาณ 4 เดือนแล้วตามคำให้การของพยาน


เจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวเป็นชาวจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสถานบันเทิงชื่อดังขนาดใหญ่แห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเห็นได้จากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้จัดการและลูกค้าที่มีการพูดคุยว่าร้านดังกล่าวในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการปิดให้บริการปรับปรุงและแนะนำให้มาเที่ยวที่ร้านที่ถูกจับกุมนี้


ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกหรือหมายจับเจ้าของตัวจริงมาดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต , เปิดสถานบันเทิงโดยไม่มีใบอนุญาต, และปล่อยปละละเลยให้ใช้ยาเสพติด ส่วนผู้จัดการที่ตำรวจควบคุมตัวได้ในที่เกิดเหตุไม่ให้ความร่วมมือและไม่ยอมให้การใดๆ


จากนี้จะให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบประวัติของนักเที่ยวทุกคนที่ถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อตรวจสอบการเดินทางเข้ามาภายในประเทศ, ทรัพย์สินภายในครอบครอง อาทิ เงินสด รถหรูยี่ห้อต่างๆ และทรัพย์สินอื่นๆ ที่ตรวจ เพื่อหาเส้นทางการเงินและแหล่งที่มาของทรัพย์สินต่างๆ มีรายได้มาจากการทำธุรกิจอะไร เป็นการถือครองด้วยตนเอง หรือมีนอมินีตัวแทนเป็นผู้ถือครองให้


หากพบว่าได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ป.ป.ง. เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ


ส่วนเรื่องรถหรูที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุจำนวน 35 คันจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่ามีการสวมทะเบียนโดยผิดกฎหมาย 1 คัน ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของรถในที่เกิดเหตุไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนลดคันอื่นๆ พบว่ามีเจ้าของที่เป็นทั้งคนไทยและชาวจีนจำนวนมาก แต่ไม่มีบุคคลใดนำกุญแจรถมามอบให้หรือแสดงตัวเป็นเจ้าของเจ้าหน้าที่จึงยึดอายัดไว้เพื่อรอให้เจ้าของตัวจริงนำเอกสารมาแสดงเพื่อรับรถกลับคืนไป ซึ่งพบว่าตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีบุคคลมาแสดงตัวแล้วแต่ไม่ได้นำเอกสารมาด้วยเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถปล่อยรถกลับไปได้


ทั้งนี้จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบหลักฐานสำคัญคือ ใบเสร็จค่าบริการโดยเฉลี่ยโต๊ะละประมาณ 170,000 บาท ซึ่งในใบเสร็จจะระบุค่าบริการพิเศษเป็นภาษาจีน ซึ่งแปลได้ว่า เป็นค่ายาเสพติดประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังพบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทภายในร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจหาสารเสพติดและพยานหลักฐานอื่นๆ เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว


โดยพบตู้เซฟอีก 6 ใบ โดยผู้จัดการร้านยินยอมเปิดตู้ให้ 1 ตู้พบเป็นยาเสพติดประเภทต่าง ๆ ทั้งเคตามีน happy water และอื่นๆ ส่วนอีก 5 ตู้ผู้จัดการและคนงานในร้านไม่ยอมเปิดให้จึงยึดอายัดมาเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการเจาะเปิดตู้ตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่า จะเป็นเงินสดหรือยาเสพติดที่ทางร้านเก็บไว้จำหน่าย


ส่วนกรณีที่ร้านดังกล่าวเปิดให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไม่ทราบจะเป็นการปล่อยปละละเลยหรือไม่เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 แต่สน.ยานนาวา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 จึงมีหนังสือคำสั่งให้ผู้กำกับการสน.ยานนาวาไปช่วยราชการ ซึ่งก็มาจากเรื่องดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News