เลือกตั้งและการเมือง

ทนายไพศาลจี้กลาโหม สอบปมหัวคิว 5% กู้สวัสดิการ ทบ. เผยทหารชั้นผู้น้อยโผล่ร้องเพิ่ม

โดย JitrarutP

19 ต.ค. 2565

45 views

ผู้เสียหายร้องทนายไพศาลและขอให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยาน หลังถูกข่มขู่ เพราะไปรู้ความลับเรื่องการกู้เงินสวัสดิการกองทัพบกเพื่อซื้อบ้านของกำลังพล โดยมีเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เกี่ยวข้องหักหัวคิว 5% จากวงเงินกู้ และให้ผู้ประกอบการที่สร้างบ้านขายเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินส่วนนี้ มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท


ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทนายไพศาล เรืองฤทธิ์พร้อมด้วยคุณก้อยและคุณเบิร์ดที่เป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลและเป็นผู้เสียหาย ได้รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะ 21 รายชื่อนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ 5% ที่อ้างว่าเป็นค่าทำเนียมของกองทัพบก มายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น


โดยทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ระบุว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้มีการออกมาชี้แจงจากฝั่งของกองทัพบก ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับกองทัพบก ผลการสอบสวนได้เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว มีบทลงโทษตามระเบียบของทางราชการ และวินัยทหารต่อกำลังพลที่ถูกร้องเรียน งดบำเหน็จประจำปี การปรับย้ายออกจากตำแหน่ง


และมีคำสั่งให้ระงับโครงการกู้เงินดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2564 พร้อมกับได้ปรับระบบกิจการออมทรัพย์ของกองทัพบกในภาพรวม อีกทั้งจากการสอบสวนพบประเด็นการกู้ยืมเงินระหว่างผู้ร้องกับกำลังพลที่ถูกร้องเรียนด้วย ถือเป็นข้อพิพาทส่วนบุคคล และปัจจุบันอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม


ซึ่งในฐานะทนายความ ขอถามกลับไปที่กองทัพบกว่า ประเด็นแรก ที่บอกว่าระงับโครงการตั้งแต่ปี 64 แต่จากพยานหลักฐานที่ผมได้รับทำไมมีการเรียกรับผลประโยชน์ 5% อีก ในปี 2565


ประเด็นที่ 2 กองทัพบกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและพบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์นั่นหมายถึงความผิดสำเร็จแล้วมีการลงโทษตามระเบียบราชการ แต่เหตุใด บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 20 กว่ารายชื่อในมือผม ยังมีการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ตั้งแต่ปี 2563 อยากถามกองทัพบกว่า นี่เป็นระเบียบการลงโทษข้าราชการที่ทำการทุจริตใช่หรือไม่


ประเด็นที่ 3 ความผิดสำเร็จแล้วและความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ผู้ประกอบการสร้างบ้านขายทั้ง 2 รายต้องจ่าย 5% ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมของกองทัพบกและหลังจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีการเรียกเก็บค่าดำเนินการในส่วนนี้ 2554 - 2563 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาทมีการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ให้กับผู้ประกอบการแล้วหรือยัง


ประเด็นที่ 4 ที่กองทัพบกออกมาชี้แจงว่ามีการกู้ยืมเงินระหว่างผู้เสียหายกับนายทหาร ยศนายพล ซึ่งเรื่องอยู่ในชั้นศาล อันนี้ผมทราบดีและไม่ได้นำมาเกี่ยวข้อง ซึ่งตั้งแต่แรกที่เป็นข่าวไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากกองทัพบกนำประเด็นนี้มาเปิด ก็ยิ่งดี เพราะผู้เสียหายก็มีหลักฐานทั้งหมด


ซึ่งการที่ทนายไพศาลมายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมวันนี้ เพราะ การชี้แจงของกองทัพบก ไม่มีความชัดเจน และบางประเด็นยิ่งทำให้เกิดความสับสนและสร้างความขัดแย้งระหว่างผู้เสียหายกับกองทัพและกำลังพล จึงอยากให้กระทรวงกลาโหมในฐานะหน่วยเหนือที่เป็นผู้กำกับดูแลกองทัพบก ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หากต้องการพยานหลักฐานในส่วนใด ทางทนายไพศาลและผู้เสียหายพร้อมจะส่งหลักฐานให้กับท่านโดยตรง


นอกจากนี้ทนายไพศาล เปิดเผยอีกว่า มีกำลังพลที่เป็นนายทหารชั้นผู้น้อยส่งเรื่องมาร้องเรียนและให้ตรวจสอบอีกจำนวนมากกรณีการกู้เงินสวัสดิการเพื่อซื้อหรือสร้างบ้านพัก และหลังจากมาช่วยเหลือและทำเรื่องดังกล่าวเมื่อวานมีคนขับรถประกบซ้าย


คุณอาจสนใจ

Related News