อาชญากรรม

เปิดใจ! อดีตสามีเหยื่อลัทธิล้างสมอง เผยลูกทั้ง 2 ถูกปลูกฝังให้เกลียดครอบครัว ทำลูกกลัวไม่กล้าเจอหน้า

โดย paranee_s

18 ต.ค. 2565

3.1K views

อดีตสามีเหยื่อ และพ่อของเด็ก 2 คน ที่ถูกลัทธิล้างสมอง เผยขณะนี้ลูกทั้ง 2 ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยมีอาสาวคอยดูแลใกล้ชิด หากอาการดีขึ้น จะพาไปดูแลที่จังหวัดราชบุรี พร้อมเล่าเหตุการณ์ไปตามหาลูกถึงโรงเรียน แต่ลูกกลับไม่มาหา เพราะบอกว่ากลัวพ่อ หลังถูกคนร้ายป้อนข้อมูลให้เกลียดชังคนในครอบครัว


วันนี้ (18 ต.ค.) ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณแบงก์ อายุ 42 ปี อดีตสามีของ 1 ในเหยื่อผู้เสียหาย และพ่อของเด็กทั้ง 2 คน ที่ถูกลัทธิพิสดารล้างสมอง และกังขังทรมาณ และได้เปิดเผยถึงอาการของลูกทั้ง 2 ว่า ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีน้องสาวของตน ที่มีศักดิ์เป็นอาของเด็ก ๆ ดูแลอย่างใกล้ชิด


โดยคุณแบงก์ บอกว่า ตอนนี้ สิ่งสำคัญคือ การเข้าพบเด็ก ต้องดูว่าใครจะเข้าพบเด็กได้บ้าง เพราะที่ผ่านมาคนร้ายป้อนข้อมูลความทรงจำของลูกๆ ใหม่ โดยสร้างความเกลียดชังคนในครอบครัว เช่น ตนเอง รวมถึงยายของเด็ก และตอนนี้แพทย์ กำลังสอบถามเชิงลึกอยู่ว่า มีบุคคลใดที่เด็กถูกป้อนข้อมูลให้เกลียดชังอีกบ้าง


ซึ่งตนเอง ถูกคนร้ายป้อนข้อมูลให้เกลียดชัง จึงยังไม่สามารถเจอหน้าลูกได้ และที่ผ่านมา ตอนที่ลูกอยู่กับอดีตภรรยา และไปรู้จักกับคนร้ายแล้ว ตนเคยพยายามไปตามหาลูกที่โรงเรียน เพื่อเอาไดอารี่ และรูปวาดของลูกไปให้ แต่ไม่ทราบว่าอยู่โรงเรียนไหน จึงใช้วิธีค้นหาจากตราสัญลักษณ์โรงเรียน และไปตามหาตามร้านปักเสื้อหลายๆแห่งในกรุงเทพฯ ว่าเป็นโรงเรียนอะไร จนไปเจอ แต่พอไปถึงที่โรงเรียน ลูกเห็นตนไกล ๆ ในระยะ 100 เมตร ก็ไม่กล้าเข้ามาหา แต่ให้เพื่อนมาบอกว่า ลูกกลัว ให้กลับไป


ขณะที่อาสาว ซึ่งดูแลเด็กทั้ง 2 คนได้นั้น ก็เป็นเพราะว่า เด็กไม่ได้เล่าเรื่องของอาสาว ให้คนร้ายรับรู้ ทำให้คนร้ายไม่มีประเด็น และข้อมูลตรงนี้ จึงเป็นบุคคลเดียวในตอนนี้ที่ปลอดภัย และอยู่ข้างๆเด็กๆ ได้


และหลังจากนี้ เมื่อเด็กๆ ไม่กลัวและเข้าหาตนเอง และญาติๆ ได้แล้ว ตนก็จะเป็นคนดูแลเด็กๆ โดยพาไปอยู่กับปู่กับย่า และเรียนหนังสือที่จังหวัดราชบุรี


คุณแบงก์ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่อดีตภรรยาไปร่วมทำธุรกิจ ในระยะหลังที่ไปเจอกับคนร้าย ที่เข้ามาเปลี่ยนสภาพจิตใจ ก่อนที่จะเริ่มโน้มน้าวให้มาทำผลิตภัณฑ์เอง และให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งตนมองว่า นี่เป็นวิธีสร้างความเห็นคุณค่าในตัวเอง หรือ self esteem จนเริ่มให้เปลี่ยนชื่อในกลุ่มเป็นอัญมณี เหมือนทำภารกิจร่วมก่น เป็นพี่น้องร่วมสาบาน และทุกวันมีประชุมกัน โดยมีจุดหมายร่วมกัน


ส่วนวิธีที่ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ หรือที่หลายคนบอกว่าเป็นการล้างสมองนั้น คุณแบงก์ บอกว่าไม่มั่นใจว่าทำอย่างไร แต่เท่าที่ลองจับประเด็นดู คนร้ายจะใช้วิธีพยายามตีสนิท พูดคุยกับเหยื่อ และสอบถามว่าเคยมีประเด็นกับใครไหม และจี้จุดนั้นโดยสร้างความเกลียดชังคนรอบๆตัว และให้ความรัก ความเคารพมาที่คนร้ายคนเดียว


ซึ่งตลอดเวลาที่เหยื่ออยู่กับคนร้าย ก็มักอ้างว่าเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าเรียนทั้งหมด แต่จริงๆ ได้มาจากการนำทรัพย์สินของเหยื่อไปเล่นแร่แปรธาตุ เช่น รถ ที่ดิน มาเปลี่ยนมาเป็นเงิน อย่างรถยนต์ที่เคยผ่อนหมดก็เอาไปขาย เพื่อซื้อใหม่ในชื่อของเหยื่อ สุดท้ายก็เอาขายอีก ไม่ใช้ชื่อคนร้ายเลย


นอกจากนี้ ทุกวันจะมีการประชุมกันในกลุ่มของเหยื่อ และคนร้าย โดยคนร้ายจะบอกให้เหยื่อแต่ละคน ไปหาเงินมา ซึ่งก็คล้ายกับการรับงาน จึงทำให้อดีตภรรยาเริ่มทักมาขอเงินตนเอง พอถามเอาไปทำอะไร ก็ตอบไม่ได้ อธิบายไม่ได้


เท่าที่สังเกตจะไม่มีเหยื่อคนไหน ที่รู้จักชื่อจริง หรือมีแม้แต่รูปของคนร้ายเลย ในทางกลับกัน คนร้ายกลับมีข้อมูลของเหยื่อหมดเลย จึงทำให้การระบุตัวตนของคนร้ายก็ทำได้ยาก

คุณอาจสนใจ