อาชญากรรม

ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ราย แก๊งคนร้ายปล้นพ่อค้ากัญชา ตร.เตรียมยุทธวิธีโต้กลับ หากคนร้ายยิงต่อสู้

โดย JitrarutP

18 ต.ค. 2565

49 views

ศาลอนุมัติหมายจับ คนร้ายควงปืนและอาวุธสงคราม บุกปล้นพ่อค้ากัญชาแล้ว 2 คน ตำรวจยืนยันยังไม่มีใครติดต่อมอบตัว และพร้อมใช้ปฏิบัติตามยุทธวิธี เพื่อป้องกันตัว หากคนร้ายยิงต่อสู้


จากกรณีกลุ่มคนร้ายชายฉกรรจ์นับ 10 คน พร้อมอาวุธปืนสั้น และ ปืนสงคราม บุกเข้าไปในแฟลตการเคหะธนบุรี 2 ถนนพระราม 2 ซอย 60 ย่านบางขุนเทียน แล้ว ทำร้ายร่างกาย นายวิวัฒน์ โรจนทรัพย์กุล อายุ 26 ปี หรือ อาร์ม พ่อค้ากัญชาได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเย็บกว่า 60 เข็มและสมองบวมจากการถูกตีด้วยด้ามปืนที่ศีรษะ


อีกทั้งยังยิงปืนขู่ในห้อง ใช้ปืนจ่อหัวลูกชายอายุ 9 ขวบของนายอาร์มเพื่อข่มขู่ และยังใช้ปืนจ่อพ่อตาของนายอาร์ม ที่พยายามจะเข้ามาช่วย


โดยชนวนเหตุมาจากที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ติดต่อซื้อกัญชา 100 กิโลกรัม จากนายอาร์ม แต่สุดท้ายได้ปล้นเอากุญแจรถยนต์ และ แหวนทองคำไป 1 วง


ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวของนายอาร์ม ซึ่งมาร่วมในรายการโหนกระแส เมื่อวานนี้ เชื่อว่า มาจากประเด็นความขัดแย้งเรื่องการซื้อขายกัญชากับขาใหญ่ รายหนึ่งย่านพระราม 2 ถึงขนาดเคยส่งคนมาอุ้มนายอาร์ม ไปทำร้าย และเกิดการข่มขู่เอาชีวิตมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา


และตอนนี้ยอมรับว่าไม่ปลอดภัย เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุมีอิทธิพล และ ตำรวจ สน.ท่าข้าม บางนาย ก็ยังพูดจาข่มขู่ตน หลายเรื่อง เช่น หากกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่มีอาวุธปืนจะเล่นงานพวกตน ขอเข้าค้นหาหลักฐานโดยไม่แสดงหมาย จนทำให้รู้สึกว่าตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรม


ทั้งนี้ทนายรณณรงค์ ได้พาคุณไอซ์ ภรรยาของนายอาร์ม ไปพบกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม โดยคุณไอซ์ บอกว่าอยากให้ตำรวจเร่งรัดการจับตัวคนร้ายให้เร็วกว่านี้ ส่วนประเด็นที่ตำรวจบอกว่าจะตรวจสอบประวัติเรื่องยาเสพติดของตน ยืนยันว่าให้ตรวจสอบได้ เพราะตนเคยมีประวัติถูกจับคือ จำหน่ายกัญชา และตอนนี้คดีก็สิ้นสุดแล้ว


ขณะที่ทนายรณณรงค์ บอกว่า ตำรวจต้องเร่งจับผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว และสอบสวนว่ามีผู้มีอิทธิพล หรือ มีตำรวจเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะผู้ก่อเหตุประกาศว่าเป็นตำรวจ ซึ่งหลังจากนี้หากคดียังไม่มีความคืบหน้า ก็อาจจะพาผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือที่หน่วยงานอื่น


พันตำรวจเอก เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการ สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่าขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน โดยตำรวจดำเนินคดี 3 ข้อหา ส่วนอีก 4 คน ที่ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่าสืบสวนขยายผล


ยืนยันตอนนี้ผู้ก่อเหตุยังไม่มีใครติดต่อเข้ามอบตัว จึงอยากฝากบอกผู้ก่อเหตุว่าหากคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีบางสิ่งที่ไม่ตรงกับที่อีกฝ่ายให้ข้อมูลก็มามอบตัวเพื่อชี้แจงต่อสู้คดี ทั้งนี้ได้กำชับให้ตำรวจชุดไล่ล่าให้ระวังตัวเพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนสงคราม ซึ่งหากผู้ก่อเหตุต่อสู้ขัดขืนก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามยุทธวิธี


คุณอาจสนใจ

Related News