ชาวบ้านผวาชายกินน้ำแดงทั้งวัน วิ่งเข้าสวดมนต์ห้องพระเพื่อนบ้าน เจ้าตัวเผย เหมือนจิตพาไปเอง แม่ยัน ลูกชายไม่เสพยา

วันนี้ (18 ต.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ของคืนที่ผ่านมา (17 ต.ค.65) นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง และแอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท รับแจ้งจากชาวบ้าน มีคนอาการประหลาดคล้ายผีเข้าวิ่งเข้าบ้านชาวบ้านไปทั่วจนชาวบ้านผวาไปทั้งหมู่บ้าน เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านไร่สีสุก ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปพบชาวบ้านพากันวิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า หนุ่มรายนี้ชื่อ เฉลิมพงษ์ อายุ 36 ปี มีอาการคล้ายผีเข้าวิ่งเข้าบ้านชาวบ้านไปทั่ว และไปนั่งสวดมนต์อยู่ในห้องพระภายในบ้าน และนั่งพูดกับพระพุทธรูปในห้องพระ บางครั้งก็สวดมนต์ภายในบริเวณบ้าน จนชาวบ้านไม่กล้าหลับไม่กล้านอน และพยายามจะเอาตัวออกมาจากห้องพระแต่ก็ไม่ยอมออกมา

ต่อมานายเฉลิมพงษ์ก็เดินออกมาจากห้องพระ โดยนายวีระพลสอบถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมวิ่งเข้าบ้านของคนอื่น เจ้าตัวก็บอกว่าที่ตนเองเข้าไปบ้านคนเพราะจะเข้าไปไหว้พระ ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเข้าไปทำไม บอกไม่ถูก ส่วนที่ผีเข้าตนเองก็ตอบไม่ได้ ตอนเข้าไปห้องพระตนเองก็รู้สึกตัว จิตพาไปเอง เข้าไปไหว้พระทำให้ตัวเองสบายใจ แต่ไม่ได้ทำร้ายใคร เหล้าก็กินบ้างเป็นครั้งครา แต่ยาไม่เคยเสพ การวิ่งเข้าบ้านคน

ผมจะเข้าไปแต่บ้านเพื่อนเท่านั้น ผมไม่รู้ว่าเข้าไปทำไม อย่างเมื่อวานพ่อใหญ่เคน พ่อที่เสียชีวิตมาแล้วเหมือนมาสิงร่างและบอกหวย แต่ไม่ถูก งวดนี้ไม่ถูกไม่เป็นไรอาจจะเป็นเลขเด็ดงวดหน้าก็ได้ การวิ่งเข้าบ้านคนผมอยากไปไหว้พระ หากไม่ดีขออภัยด้วย นายเฉลิมพงษ์กล่าวตอนท้าย

ขณะที่แม่นายเฉลิมพงษ์ บอกว่า ร้องไห้มา 3 วันแล้ว เพราะลูกชายมีอาการแปลกๆ วิ่งเข้าบ้านชาวบ้าน เข้าหลังโน้นที หลังนี้ที โดยเฉพาะวันพระจะมีอาการมากกว่าปกติ คิดว่าผีเข้าลูกชายแน่นอน ไม่เสพยา ไม่ใช่หลอนยาบ้า พูดจารู้เรื่องเหมือนคนปกติ กินแต่น้ำแดงทั้งวัน ในสิ่งที่ไม่เห็น เคยพาไปหาพระช่วยให้เอาออก แต่ก็ไม่ดีขึ้น ส่วนเพื่อนบ้านยืนยันนายเฉลิมพงษ์ไม่เสพยา และไม่ใช่เกิดจากอาการหลอนยาแน่นอน อาการแปลกๆ วิ่งเข้าบ้านคนเหมือนคล้ายคนผีเข้า



ต่อมานายวีระพลฯ จึงได้จัดดอกไม้ธูปเทียนแต่งขันธ์ 5 เป็นวิชามนต์ไล่ผีสมัยที่เคยบวชเรียนมาต่อหน้านายเฉลิมพงษ์ ปรากฏว่า อาการเหมือนผีเข้าหายเป็นปลิดทิ้ง และบอกนายเฉลิมพงษ์ว่า อย่าทำแบบนี้อีก จะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยนายเฉลิมพงษ์ก็รับปากจะไม่ทำแบบนี้อีกและเดินขึ้นรถสามล้อเครื่องกลับบ้านกับแม่ทันที ซึ่งชาวบ้านก็อุ่นใจลองวิธีแบบไสยศาสตร์ตามเชื่อของชาวบ้านก่อน หากลองแล้วไม่ได้ผลก็ใช้วิทยาศาสตร์พาไปหมอจิตเวชต่อไป