สังคม

เปิดใจเด็กวัย 14 ลูกนักการเมือง ถูกพ่อทำร้ายน่วมหลังจับได้ว่าแต่งหญิง น้ำตาร่วงบอก 'ขอพ่อมองหนูเป็นลูกบ้าง'

โดย petchpawee_k

15 ต.ค. 2565

103 views

สะเทือนใจ เด็กชายวัย 14 ปี เป็น LGBTQ มาร้องขอความช่วยเหลือกับกัน จอมพลัง หลังถูก พ่อแท้ๆ ทุบตีทำร้ายร่างกาย เพราะรับไม่ได้ ที่ลูกเป็น LGBTQ  ด้านบ้านพักเด็ก จังหวัดเพชรบุรี เข้าช่วยเหลือ ดูแลสภาพจิตใจและบาดแผลทางร่างกาย เจ้าตัวถาม “พ่อยังรักหนูมั้ย”


 เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนความรู้สึก เมื่อน้องเอ (นามสมมุติ)  เด็กชายอายุ 14 ปี คนหนึ่งอาศัยอยู่ที่ จ.เพชรบุรี มาร้องขอความช่วยเหลือ กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง ให้ช่วยเหลือ หลังจากถูกพ่อแท้ๆ ตีตามร่างกายจนเป็นบาดแผลฟกช้ำ ทั้งตัว ขยับร่างกายไม่ได้


โดยเฟซบุ๊ก กัน จอมพลัง โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “เคสด่วนน้อง อายุ 13 ลูกนักการเมืองถูกพ่อทำร้ายเพราะจับได้ว่าแต่งหญิง น้องวิ่งหนีออกจากบ้านแล้วติดต่อมาให้ผมช่วย ตอนนี้น้องอยู่กับผมแล้ว ผมอยากถามพ่อน้องด้วยวันแรกที่น้องเกิดมาดูโลกคุณรักน้องที่อะไรเพราะเป็นชาย เป็นหญิง หรือเค้าเป็นลูกคุณ น้องเล่าว่าโดนมาหลายครั้งแล้วน้องแค่อยากให้พ่อฟังและเข้าใจน้องบ้าง ไม่ใช่แค่น้องไม่เป็นอย่างที่พ่อต้องการก็ทำร้ายน้อง ผมจะช่วยน้องอย่างเต็มที่ครับ”


 โดยสภาพบาดแผล ของน้องเอ มีรอยแดงช้ำทั่วร่างกาย บางจุดก็เป็นรอยช้ำจนเป็นสีดำ ลักษณะคือบาดแผล ถุกวัตถุบางชนิด ตีกระแทกที่ผิวหนัง เป็นรอยยาว บางจุดก็มีเลือดออกมา


เมื่อคุณกัน รับแจ้งขอความช่วยเหลือ ก็ประสานทีมงานให้ไปช่วยเหลือน้องเอภายในคืนวันที่ 13 ตุลาคม โดยน้องเอนั้น ต้องหนีออกจากบ้านมารอทีมงานของคุณกัน รับมาอยู่ในที่ปลอดภัย


น้องเอให้ข้อมูลกับคุณกันว่า อาศัยอยู่กับพ่อ และพี่ชาย น้องชาย ส่วนแม่แยกทางกัน ทั้งบ้านเป็นผู้ชายทั้งหมด พ่อจึงอยากให้น้องเอเป็นผู้ชายเหมือนพี่เเละน้อง แต่ด้วยสภาพร่างกายและจิตใจของน้องเอ ไม่ได้เป็นไปตามที่พ่อต้องการ และรับไม่ได้ที่น้องเอเป็น LGBTQ

ซึ่งตัวของคุณพ่อน้องเอนั้น ทำงานเกี่ยวกับทางด้านการเมือง มีหน้ามีตาในสังคม ทำงานอยู่ในรัฐสภาและรับรู้มาตลอดว่าน้องเอ เป็นเช่นไร ที่ผ่านมาน้องเอพยายามจะคุยกับพ่อ ปรับความเข้าใจกับพ่อ แต่พ่อไม่เคยรับฟัง ยังไม่ทันได้พูด พ่อก็ทุบตีน้องเอ


โดยใช้อาวุธที่อยู่ใกล้มือซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ท่อ PVC กระหน่ำตีทั้งร่างกายจนเนื้อแตก เป็นบาดแผลระบมทั่วทั้งร่างกาย ไม่สามารถขยับตัวได้ เพราะเจ็บและทรมานมาก จึงต้องขาดเรียนจนเป็นสัปดาห์


หลังจากที่เมื่อคืนนี้ตอนที่คุณกัน จอมพลัง เข้าไปรับน้องเอามาพูดคุยถามถึงเรื่องที่มาที่ไป “น้องเอร้องไห้ เสียงสั่นตลอดเลย น้องบอกว่าที่พ่อทำแบบนี้ เพราะน้องเอไม่สามารถเป็นในแบบที่พ่อตั้งความหวังไว้ได้ น้องเอบอกว่าขออย่างเดียว ขอให้พ่อมองหนูเป็นลูกในสายตาบ้าง”


 และวานนี้ (14 ต.ค. 65) เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือ พม. จังหวัดเพชรบุรี เข้ามารับน้องเอ เข้าไปดูแลทั้งสภาพจิตใจ และบาดแผลตามร่างกาย โดยภาพรวมน้องเอยังมีความเครียดมาก และผวาอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงดูแลใกล้ชิดและประสานนักจิตวิทยาเข้าตรวจสอบอาการและให้การรักษา


ทั้งนี้ คุณกันบอกว่า ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดของครอบครัวน้องเอเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในครอบครัวมาก อยากขอให้พ่อของน้องเอ หันกลับมามองลูกและเข้าใจลูก เท่าที่ได้คุยกับน้องยังมีความเครียดอยู่ ฝากไปถึงคุณพ่อน้องว่า ทำงานในรัฐสภา รับฟังประชาชนแล้ว อยากให้รับฟังลูกของตนเอง


 และในสัปดาห์หน้า จะมีการหารือกับทางครอบครัวน้องเอ และเจ้าหน้าที่ว่าจะดูแลกรณีนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนทั้งร่างกายและจิตใจของเด็ก

------------------------------------------------------------

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจมาก มองว่าเป็นทัศนคติที่ล้าหลัง และต้องยอมรับว่ามีให้เห็นทุกยุค ทุกสมัย แม้กระทั่งช่วงที่ตนเติบโตมาก็มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ แต่ความรุนแรงต่างกัน โดยมีเพื่อนและคนรู้จักที่เป็น LGBT เคยประสบมาทั้งสิ้น จนไม่สามารถเปิดเผยตัวตนกับครอบครัวได้ เพราะกลัวถูกลงโทษ กลัวถูกต่อว่า กลัวถูกตี กลัวถูกหัวเราะเยาะจากญาติ ทำให้เด็กบางคนต้องเลือกที่จะปิดบังตัวเอง แต่หากเด็กบางคน เลือกที่จะเปิดเผยตัวตนก็จะมีราคาที่ต้องจ่าย เช่น การถูกลงโทษ การที่ได้รับความรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาตนพยายามแก้ไข

“พอเราเห็นข่าวนี้เราก็เข้าใจว่าเรื่องนี้มันยังไม่หมดไปจากสังคมจริงๆค่ะ”

นายธัญวัจน์ ยังฝากไปถึงผู้ปกครองคนดังกล่าว และผู้ปกครองทุกคนที่ใช้ความรุนแรงว่า ทุกคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เขาไม่ได้ป่วย ไม่ได้ไข้ เขาไม่ได้อยากลองเป็นครั้งคราว เขาไม่ได้แกล้งทำ เขาเป็นเขาแบบนี้ และในสังคมก็ไม่มีภาพลักษณ์ ของคนที่มีความหลากหลายทางเพศในหนังสือเรียน สื่อ หรือวัฒนธรรม ไม่มีความเข้าใจในเรื่องเพศที่หลากหลาย

เช่นเดียวกับ "แพรรี่"  หรือ ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระมหาไพรวัลย์ ก็กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ โดยได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า  

สำหรับดิฉัน การใช้ความรุนแรง การทำร้าย และการขู่เข็ญ ไม่เคยเปลี่ยนหัวจิตหัวใจของผู้คนได้ค่ะ นอกจากจะไม่เปลี่ยนแล้ว มันยังสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้กับผู้ที่ถูกกระทำด้วย ความรุนแรงไม่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่แท้จริงได้เลย

ดิฉันพูดเสมอว่า พ่อแม่คือคนแปลกหน้าบนโลกใบนี้ที่ลูกรู้จักนะคะ ดังนั้น หน้าที่ของคุณคือต้องทะนุถนอมเขา ต้องปลอบประโลมและหยิบยื่นความรักความเข้าใจให้กับเขา คุณควรทำหน้าที่ให้สมกับการเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่เขามอบความวางใจให้กับคุณนะคะ

 ถ้าคุณจะสร้างใครสักคนขึ้นมาเพื่อทำร้ายเค้า เพื่อขืนใจและบังคับให้เขาเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงที่แสนเชื่องของคุณ คุณไม่ควรสร้างเขาขึ้นมาค่ะ คุณควรปล่อยน้ำเชื้อของคุณลงโถส้วมแล้วราดมันทิ้ง


เพศสภาพไม่ได้เป็นสิ่งบ่งชี้ หรือนิยามตัดสินคุณค่าในตัวตนของมนุษย์ค่ะ หัวใจต่างหากที่บอกว่าพวกเราแตกต่างกันยังไง บ้างก็หยาบกระด้าง บ้างก็ละเอียดละออ


พ่อแม่บางคนไม่เคยเข้าใจว่าการใช้ความรุนแรงไม่มีวันทำให้พวกเขาได้รับความรัก เคารพ และความรู้สึกปลอดภัยจากลูกของพวกเขาอย่างแท้จริง และวันหนึ่งพวกเขาก็จะเสียใจเมื่อลูกของพวกเขาเดินจากไปหาความปลอดภัยจากที่อื่น


 ดิฉันขอประณามการใช้ความรุนแรงต่อลูกของตนเองของคุณพ่อท่านนี้นะคะ อย่าพูดถึงจิตสำนึกของความเป็นนักการเมืองเลย แม้แต่จิตสำนึกของความเป็นพ่อ คุณก็สอบไม่ผ่านค่ะ แค่การเข้าใจลูกตัวเองแท้ๆ ของตัวเอง ยังทำไม่ได้ และคุณจะไปเข้าใจคนอื่นที่คุณอาสาไปรับใช้เขาได้ยังไงคะ


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/y4o9RUiilMY

คุณอาจสนใจ

Related News