สังคม

จับนายหน้าตีสนิทสองพี่น้อง หลอกเอาโฉนดที่ดินไปขาย สูญกว่า 60 ล้าน

โดย panisa_p

14 ต.ค. 2565

906 views

จากกรณี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วย นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ได้เดินทางลงพื้นที่ ม.2 อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อให้การช่วยเหลือครอบครัวหีมโหด ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกนายหน้าคือ นางรัชนีย์ หรือ เก๋ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ในฐานความผิดฉ้อโกง หลังหลอกให้ทางผู้เสียหายโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นมรดกกว่า 10 ไร่ ในช่วงปี 64 และนำไปจำนองขายฝาก ก่อนขายให้กับนายทุน ได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทนั้น


ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค. 65 ทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา สามารถสืบสวน และติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว ที่บริเวณป่าละเมาะหลังบ้านเลขที่ 366/2 ม.4 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา และควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.สะเดา


เบื้องต้น นางรัชนีย์ ทองวงค์ หรือ เก๋ ผู้ต้องหาในคดีนี้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยบอกแค่เพียงว่า ตนเป็นนายหน้าที่ดินตามหมายจับจริง และเอกสารหลักฐานบางอย่างทางเจ้าของที่ดินก็ดำเนินการเองด้วย อีกทั้งตนไม่ได้รู้จักใครเป็นพิเศษในสำนักงานที่ดิน และการแบ่งแยกที่ดินก็ทำไปตามขั้นตอนของคนปกติทั่วไป ซึ่งกว่าจะเสร็จก็นานกว่า 3 เดือน แต่ขั้นตอนและรายละเอียดต่าง ๆ นั้นลืม เพราะผ่านมานานแล้ว


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา สอบสวนเพิ่มเติมในรายละเอียด และดูว่า มีใครเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ก่อนดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงต่อไป


สำหรับคดีนี้เริ่มต้นจาก นางรัชนีย์ ผู้ต้องหา ที่เป็นนายหน้าค้าที่ดิน ได้เข้ามาตีสนิทกับครอบครัวของผู้เสียหาย และทราบว่า ครอบครัวนี้มีที่ดินจำนวนมาก และมีมูลค่าสูง จึงออกกลอุบายว่า เอกสารที่ดินที่ตนเคยช่วยเหลือในการแบ่งแยกที่ดิน และการโอนที่ดินมรดกจากบิดามาให้ น.ส.อัญชลี หีมโหด และ น.ส.อรอนงค์ หีมโหด สองพี่น้อง นั้น บัดนี้ทางสำนักงานที่ดินขอโฉนดที่ดินคืน เพื่อไปขอเลขโฉนดที่ดินใหม่ จึงทำให้ครอบครัวของผู้เสียหายเชื่อ จึงส่งมอบโฉนดที่ดินทั้งหมดไปทำการแก้ไขเลขโฉนดที่สำนักงานที่ดินอำเภอสะเดา จ.สงขลา


โดยครอบครัวนี้ได้เซ็นหนังสือมอบอำนาจ และเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ นางรัชนีย์ นำไปจดจำนอง และขายให้นายทุนของตนเองที่มีความสนิทชิดเชื้อกัน และนายทุนทั้งหมดก็เป็นพี่น้อง และเป็นกลุ่มเครือญาติ หรือเป็นคนรู้จักกันอย่างใกล้ชิด และยังเป็นเครือญาติของนักการเมืองท้องถิ่นด้วย


กระทั่งต่อมาคณะของ “กัน จอมพลัง” ทราบเรื่องความเดือดร้อน และได้เดินทางไปตรวจสอบที่ดินประมาณ 10 ไร่ของผู้เสียหาย ที่ถูกขายต่อไปยังกลุ่มนายทุน ซึ่งพบว่า ได้มีการนำป้ายมาปัก เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของในที่ดิน


ขณะที่ทาง นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ที่ลงมากับคณะของ “กัน จอมพลัง” ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุไว้บนป้าย และได้พูดคุยพร้อมแจ้งไปยังปลายสายว่า ทางผู้เสียหายได้ให้ตนไปร้องขอความคุ้มครองพื้นที่แห่งนี้จากทางศาล และศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในพื้นที่นี้แล้ว และร้องขอให้ผู้ที่อ้างว่า ถือกรรมสิทธิ์ ให้รื้อถอนป้ายออก โดยผลการพูดคุยสรุปว่า จะไปพูดคุยกันในชั้นศาล

คุณอาจสนใจ

Related News