กรมศิลป์ฯ เข้าวางมาตรการป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานอยุธยา หลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง

นอกจากน้ำที่หลากเข้าท่วมพื้นที่ทุ่งรับน้ำและชุมชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว โบราณสถานก็เป็นอีกสถานที่ที่ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 40 แห่ง ล่าสุดกรมศิลปากรได้เข้าดำเนินแนวทางป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีข้อกังวลถึงระดับน้ำที่สูงขึ้นต่อเนื่องจนแทบจะเท่ากับระดับน้ำในปี 2554 ที่เกิดน้ำหลากเข้าท่วมโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง ทีมข่าว 3 มิติ ได้ลงพื้นที่วัดไชยวัฒนาราม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำตรงจุดนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดตัดสินว่าระดับน้ำจะถึงจุดวิกฤตหรือไม่



แนวคันดินกั้นน้ำความสูง 1 เมตร 20 เซนติเมตร ถูกเสริมขึ้น เพื่อสร้างแนวกั้นน้ำให้กับวัดไชยวัฒนารามในฝั่งทิศเหนือ ซึ่งเป็นเพียงฝั่งเดียวที่ยังขาดแนวป้องกันอยู่



โดยขณะนี้วัดไชยวัฒนารามอาศัยแนวพนังเหล็กกั้นน้ำทั้ง 3 ด้าน ป้องกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่โดยรอบหลากเข้ามายังพื้นที่โบราณสถานได้นานกว่า 1 เดือนแล้ว แนวพนังเหล็กกั้นน้ำนี้ได้รับการต่อเติมบานเหล็กเสริมเพิ่มขึ้นอีก 75 เซนติเมตร รวมความสูง 245 เซนติเมตร หรือ เกือบ 2.5 เมตร เพื่อรับมือกับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องจากมวลน้ำหลากภาคเหนือ



ข้อมูลล่าสุดของระดับน้ำบริเวณด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม ระบุว่า ระดับน้ำในปีนี้สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ที่ 5.25 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเป็นรองเพียงปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางเท่านั้น ที่มีระดับน้ำสูงถึง 5.76 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง



ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า ระดับน้ำในขณะนี้ส่งผลให้โบราณสถานกว่า 40 แห่ง จาก 394 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกน้ำหลากเข้าท่วม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บริเวณนอกเกาะเมืองเกือบทั้งหมด โดยวัดไชยวัฒนารามคือตัวชี้วัดที่สำคัญ เพราะหากที่นี่น้ำท่วม โบราณสถานอื่นๆ ทั่วจังหวัดก็จะได้รับผลกระทบทันที



กรมศิลปากรได้เตรียมความพร้อมไว้ ด้วยการทำคันป้องกันน้ำท่วม ซึ่งสามารถป้องกันโบราณสถานบนเกาะเมืองได้ทั้งหมด มีเพียงป้อมเพชร และ รหัสวิดน้ำเท่านั้นที่จะมีน้ำท่วมเนื่องจากอยู่ติดริมน้ำ ขณะเดียวกันก็เสริมกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมให้กับโบราณสถานบริเวณนอกเกาะเมืองอีกอย่างน้อย



ส่วนโบราณสถานกว่า 40 แห่งที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว ส่วนใหญ่ผ่านการบูรณะเสริมความมั่นคงแล้วจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก และ ได้ตั้งนั่งร้านค้ำยันเสริมเพื่อความมั่นคง โดยรับความร่วมมือจากทางจังหวัด ในการสนับสนุนการป้องกันโบราณสถานที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทางจังหวัด



ขณะที่แนวทางภายหลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ทางกรมศิลปากรก็จะเร่งเข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทันที เพื่อบูรณะซ่อมแซมโบราณสถาน



ล่าสุด กรมศิลปากรพบโบราณสถานรวม 82 แห่ง ในพื้นที่เสี่ยงต่อภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดในแถบภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทุกแห่งได้นำแนวทางเดียวกันมาประเมินและปรับใช้ให้เข้ากับโบราณสถานแต่ละแห่งแล้วในขณะนี้