กรมศิลป์ฯ ยัน 'ปราสาทตาควาย' บูรณะซ่อมแซมได้ อัดเขมรใช้โบราณสถาน เป็นป้อมปืน

ปราสาทตาควายที่เสียหายหนัก ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ยืนยัน สามารถบูรณะซ่อมแซมได้ พร้อมชี้ กัมพูชาไม่เคารพและหวงแหนในโบราณสถาน กลับใช้เป็นป้อมปืนในการสู้รบ

จากที่เพจ Army Military Force โพสต์ภาพถ่ายปราสาทตาควายล่าสุด ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากการสู้รบที่ดุเดือดระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา

ทั้งนี้ ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ถูกทหารกัมพูชาเข้ายึดครองตั้งแต่ช่วงสงคราม 5 วัน เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา และถูกดัดแปลงเป็นที่ตั้งทางทหาร พร้อมวางทุ่นระเบิดไว้โดยรอบ

โดยความเสียหายของปราสาทตาควาย นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา กรมศิลปากร กล่าวว่า จากภาพที่เห็นในข่าว ตัวโบราณสถานไม่ได้พังทลายลงมาทั้งหมด มีบางส่วนที่พังทลายลงมา ก็สามารถบูรณะซ่อมแซมได้ เพราะที่ผ่านมา ก็เคยมีโบราณสถานอื่นๆ ที่มีลักษณะการพังเสียหายคล้ายกัน แต่อาจจะมีข้อแม้ว่า การพังทลายของตัวปราสาทตาควาย จะต้องไม่พังทลายไปมากกว่านี้

จากนี้ไป การเข้าไปบูรณะซ่อมแซมได้ ต้องขึ้นอยู่กับการสู้รบจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เพื่อวางแผนบูรณะต้องมีความปลอดภัย

ผอ.สำนักศิลปากรที่ 10 กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เราทราบกันดี คือ ทหารกัมพูชา เปิดเผยเองว่า กัมพูชาได้นำอาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆ เข้าไปตั้งไว้ในปราสาทตาควาย ทำให้ตัวปราสาทกลายเป็นป้อมปืน ถ้ามองในมุมนี้ จะเห็นทางฝ่ายกัมพูชา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวโบราณสถาน และกัมพูชาก็ไม่ได้เคารพกติกาสากล ที่ปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม

ปัจจุบันตัวปราสาทตาควาย เป็นซากโบราณสถาน ที่มีการดูแลร่วมกันของไทยและกัมพูชา ยังไม่ได้ประกาศขึ้นเป็นมรดกโลก ดังนั้นสิ่งที่ต่างชาติจะต้องมอง ก็คือประเด็นที่กัมพูชา เอาป้อมปืนไปใส่ไว้ในปราสาทตาควาย ทำให้กลายเป็นพื้นที่สู้รบ