สังคม

‘ทนายอนันต์ชัย’ งัดหลักฐาน ‘ครูบาบุญเลิศ’ เคยสมัครผู้ใหญ่บ้าน ใบสุทธิฯ มีพิรุธ แล้วจะเป็นพระได้ไง?

โดย JitrarutP

6 ต.ค. 2565

247 views

วันที่ 6 ต.ค. 65 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช และชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ทนายความของพระครูบาบุญเลิศ ถึงกรณีที่พาคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บุกวัดเขาปกล้น ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อเชิญตัว พระครูบาบุญเลิศ กิติธโร หรือ พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร  หรือ นายเมธาศิษฐ์ ข้อหา แจ้งความเท็จ, แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ พร้อมทั้งปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม

โดยทนายอนันต์ชัย ยืนยันว่า ตนและทีมงานได้ทำการตรวจสอบมาแล้ว พบว่า “ครูบาบุญเลิศ” ไม่ใช่พระจริง เนื่องจากได้มีการลาสิกขาในช่วงหนึ่ง และในปี พ.ศ.2538 เจ้าตัวได้ลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน ทำให้ใบสุทธิพระสงฆ์ขาด ก่อนจะกลับมาบวชอีกครั้งแต่ไม่มีใบสุทธิก็ถือว่าไม่ใช่พระจริง

ด้าน ทนายความของครูบาบุญเลิศ เปิดเผยว่า เอกสารที่ทนายอนันต์ชัยได้มานั้นไม่ถูกต้อง ครูบาฯ เป็นพระที่ดี

“ที่เขากล่าวหาทั้งหมด ไม่ถูก เป็นเท็จ ทุกอย่างไม่ถูกหมดคุณจะรับผิดชอบไม่ไหวเลยนะ ผมไม่ได้เป็นลูกน้องคุณนะ ครูบาเป็นพระจริง ไม่ได้เป็นพระปลอม ที่ว่าลงสมัครผู้ใหญ่มันเป็นคำเท็จทั้งสิ้น เชื่อใจผม ผมเป็นทนาย” ทนายความของครูบาบุญเลิศ กล่าว...

ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ ได้เผยความในใจว่า “บ้านผมติดวัด เกิดที่นั่น อยู่ที่นั่น เห็นการกระทำทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง ผมสัมผัสมา กิจของสงฆ์ไม่เคยมี ไม่ต้องพูดถึงเลย ที่ผมออกมาพูดวันนี้เพราะมันนานเกินไปแล้ว 20 ปีแล้ว มันไม่มีอะไรจะเสีย ต้องเอาความยุติธรรม ทำไมไม่สงสัยกันบ้าง ชาวบ้านไม่ทำบุญวัดนี้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างคือการสร้างภาพทั้งหมด ทอดกฐินเอาเงินไปไหนหมด อยู่มา 20 ปี ศาลาไม่มีสักหลัง”

ต่อมา ทนายอนันต์ชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายในรายการว่า “ที่ตรงนั้นไม่ได้เป็นวัด ไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์ ไม่ได้เป็นสำนักปฏิบัติธรรม ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นี่เป็นบ้านครับ ถ้ามีการทอดกฐิน ทอดผ้าป่าอีก ผมก็จะดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน เล่นกับผมอ่ะเหนื่อย คุณไม่ได้เป็นพระ คุณลาสิกขา หลักฐานคุณก็โพสต์เองว่าเคยลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้าน”

คุณอาจสนใจ

Related News