เลือกตั้งและการเมือง

ฝ่ายค้านอ่านแถลงการณ์ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ลาออก ‘จตุพร’ ชี้รอดศาล แต่ไม่พ้นพลังประชาชน

โดย petchpawee_k

1 ต.ค. 2565

19 views

‘ฝ่ายค้าน’ อ่านแถลงการณ์ จี้ ‘บิ๊กตู่’ ลาออก ชี้มีเจตนาสืบทอดอำนาจ มั่นใจ 90% ยุบสภาฯ ‘จตุพร’ ชี้รอดศาล แต่ไม่พ้นพลังประชาชน

วานนี้ (30 ก.ย.) ที่ห้องประชุมวิปฝ่ายค้าน สภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมประชุม เพื่อติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องปมวาระ 8 ปีนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อาคารรัฐสภา ในฐานะที่ร่วมกันยื่นคำร้องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และภายหลังทราบคำวินิจฉัย ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี และให้เริ่มนับ 8 ปี ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลใช้บังคับ

โดย พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ 5 ข้อ ประเด็นหลักๆ ระบุ เรื่องการนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2560 จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีสิทธิ์อยู่ในตำแหน่ง หลังครบวาระอีก 2 ปี จนถึงปี 2568 "น่าจะเป็นการตีความที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญตามที่ประชาชนเข้าใจ เพราะจะส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดำรงตำแหน่งได้รวม 10 ปี ซึ่งเกินกว่า 4 ปี และเกินกว่า 2 วาระ ซึ่งผิดไปจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประเมินการยุบสภาฯ หลังรับฟังคำวินิจฉัยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะยุบสภาฯ หลังการประชุมเอเปค เดิมทีตนคิดไว้ว่าเป็นไปได้สัก 80% แต่หลังฟังคำวินิจฉัยคาดว่าเพิ่มเป็น 90% แล้ว และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือน ก.พ.

ด้าน พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดี “8 ปี ประยุทธ์” โดยเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง

มิใช่สิ้นหวังเพียงเพราะบุคคลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร ยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แม้ขาดทั้งความชอบธรรมทางการเมืองและความสามารถในการบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตที่รุมเร้า

แต่สิ้นหวัง เพราะคำวินิจฉัยในวันนี้ยิ่งตอกย้ำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจ ว่าสถาบันตุลาการของบ้านเมืองที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กลับกำลังปกป้องคุ้มครองการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร มากกว่าปกป้องคุ้มครองหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่

แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ จะตรงกันข้ามกับคำวินิจฉัยตามสามัญสำนึกของประชาชน แต่ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตยมายาวนานเกินกว่า 8 ปีแล้ว ผ่านการทำรัฐประหารและการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ

ตราบใดที่สังคมไทยยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สถาบันทางการเมืองต่างๆ ก็จะยังถูกใช้เป็น “อาวุธ” ของระบอบการเมืองที่อำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง หนทางเดียวในการคืนประเทศให้กับประชาชน คือ การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้ประชาชนจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

แม้การเลือกตั้งครั้งใหม่ จะเป็นโอกาสให้ประชาชนได้พิพากษา พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยมือของตนเอง แต่ตราบใดที่รัฐธรรมนูญ 2560 ยังไม่ถูกรื้อ ประเทศไทยจะยังไม่หลุดพ้นจากวังวนของระบอบรัฐประหาร

ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง มาร่วมกันเข้าชื่อเพื่อให้มีการจัดทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง เพื่อทำให้วันเลือกตั้งไม่เป็นเพียงโอกาสในการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่เป็นโอกาสในการเปลี่ยนโครงสร้างและกติกาของประเทศ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

ที่บริเวณแยกราชประสงค์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และกลุ่มประเทศไทยต้องมาก่อน คณะหลอมรวมประชาชน จัดกิจกรรมการชุมนุม “หยุดอำนาจ 3 ป. นับหนึ่งประเทศไทย” หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ครบ 8 ปีตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่กำหนด

นายจตุพรกล่าวถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า คณะหลอมรวมประชาชนต้องขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์รอด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ต้องไม่รอดด้วยพลังของประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญ ตนและคณะ ได้พูดตามที่ต่างๆ แม้ว่าโดยข้อเท็จจริง แม้ตามข้อกฎหมายเราคิดว่าเป็นอื่น ไม่ได้ อย่างไร 8 คือ 8 ไม่ใช่ 6 8 คือ 8 และมีความคาดหวังลึกๆ ว่า ความอยุติธรรมทั้งปวงนี้ การรอดของพลเอก ประยุทธ์ เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกประชาชน ขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/oAUipLSlHcw

คุณอาจสนใจ

Related News