โค้งสุดท้าย ปชน.-เพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก - ‘พิธา’ ลั่นไม่มีหรอกคู่แค้น มีแต่คู่แข่ง

พรรคประชาชน ปล่อยคาราวานดาวกระจาย หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเมืองสองแคว ‘ธนาธร’ ฝากเหตุผล 3 ข้อ คนพิษณุโลกเลือก ‘ณฐชนน’ – ‘สมศักดิ์’ นำทีมเพื่อไทยปราศรัย ลั่นเลือกฝ่ายรัฐบาลทำงานทันทีไม่ต้องรอปี 70 ด้าน ‘พิธา’ ลั่นไม่มีหรอกฝ่ายแค้นคู่แค้น มีแต่คู่แข็ง

วันที่ 14 ก.ย.2567 ที่จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาชน นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นำทีมงานหาเสียง ขึ้นรถแห่ดาวกระจายรอบเมืองพิษณุโลก หาเสียงให้กับนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัคร สส.พิษณุโลก เขต 1 จากพรรคประชาชน ก่อนที่จะต้องหยุดหาเสียงในช่วงเวลา 18.00 น. เย็นของวันนี้

ขณะที่วานนี้ (13 ก.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าว ขึ้นเวทีปราศัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัคร สส. พิษณุโลก เขต 1 จากพรรคประชาชน โดยยก 3 เหตุผลที่ควรจะเลือกนายณฐชนน

1.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่เดินเข้ามาสมัครเป็นผู้สมัครสส.ของพรรคอนาคตใหม่ เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่อยากจะสร้างการเมืองใหม่ จนนายประดิพัทธ์กลายเป็นสส. ซึ่งคะแนนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ถึงปี 2566 แสดงให้เห็นว่า ประชาชนไว้ใจ แต่ไม่ใช่แค่เฉพาะประชาชน แต่ยังเป็นคนในพรรค ที่ให้ความไว้วางใจเหมือนกัน

โดยวันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ สมาชิกพรรครให้ความไว้วางใจ เป็นกรรมการบริหารพรรค ในวัยอายุ 39 ปี และในวัย 43 ได้เป็นรองประธานสภา ที่เด็กที่สุด เชื่อว่า หากนายปดิพัทธ์ ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ปี 2570 หากไม่เป็นประธานสภา ก็คงเป็นรัฐมนตรีของคนพิษณุโลกเป็นเหตุผลที่รู้สึกเสียดายนายปดิพัทธ์ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรม โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

จึงเป็นเหตุผลที่คนพิษณุโลกควรยืนข้างนายประดิพัทธ์ในวันที่ถูกบดขยี้ เพื่อที่จะบอกศาลรัฐธรรมนูญว่า จะลุกขึ้นยืน ไม่ยอมแพ้ และจะเลือกคนที่เดินบนเส้นทางนี้ กลับเข้ามาเป็นสส. ของพิษณุโลกอีกครั้ง

2.นายณฐชนน เป็นคนพิษณุโลกโดยกำเนิด เข้าใจปัญหาการบ้านการเมือง ได้รับยอมรับจากแวดวงการธุรกิจในพิษณุโลก เป็นประธานผู้ประกอบการหอการค้ารุ่นใหม่ และยังเป็นประธานนักอุตสาหกรรมยุคใหม่ ของพิษณุโลกด้วย รวมทั้งยังเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เกลียดความเหลื่อมล้ำ และเคยเป็นผู้ช่วยของนายปดิพัทธ์ ทำงานด้วยตั้งแต่แรก จึงมีความเข้าใจงานในสภา เข้าไปไม่มีรอยต่อสามารถทำงานได้ทันที

และแม้หลายคนบอกว่าคณิตศาสตร์ในสภาจบไปแล้ว ฝ่ายค้านได้เพิ่ม 1 เสียง ไม่มีความหมาย หรือ ฝ่ายรัฐบาลได้เพิ่ม 1 เสียง ไม่มีความหมาย ขอบอกเลยว่า ไม่จริง เพราะ 1 เสียงก็มีความหมาย สามารถช่วยผ่านกฎหมายที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้

3.การเลือกตั้งซ่อม สส. พิษณุโลก เขต 1 ถือเป็นการเลือกตั้งระดับชาติ ครั้งแรกของพรรคประชาชน จึงต้องการให้ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า การเลือกตั้งในสนามการเมืองครั้งแรกระดับประเทศของพรรคประชาชน มาจากชัยชนะความไว้วางใจที่คนพิษณุโลกมอบให้ จะเป็นการเปิดศักราชของพรรคประชาชน

“เหลืออีก 1 วัน ขอให้ช่วยประคับประคองความฝันของพวกเราหน่อย ช่วยพยุง ช่วยให้กำลังใจนายปดิพัทธ์ ช่วยส่งสัญญาณหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า พวกเราไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน ช่วยผลักดันให้นายณฐชนน เป็นสส. ให้ทำงานแทน ช่วยหล่อเลี้ยงความฝันของเราอยู่ไปถึง ปี 2570 ซึ่ง ณ วันนั้น พรรคประชาชน จะทำในสิ่งที่อนาคตใหม่ และก้าวไกลทำไม่ได้ นั่นก็คือประชาชน จะเป็นพรรคอันดับ 1 ที่เสียงเกิน 250 เสียง และจะได้เป็นรัฐบาล”

นายธนาธร ย้ำว่า ถือเป็นคำสัญญา เมื่อสนับสนุน และเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็ก ช่วยประคับประคอง เมื่อถึงวันที่เป็นรัฐบาล จะใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้มาสร้าง สังคมไทยที่ดีกว่านี้

ขณะที่วัดสว่างอารมณ์ ตำบลท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก “บู้ จเด็ศ จันทรา” ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ได้ปราศรัยย่อยเวทีสุดท้าย โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ร่วมช่วยผู้สมัครหาเสียงอย่างคึกคัก

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนตั้งใจมาจาก กทม. เพราะพี่น้องประชาชน มากันจำนวนมาก รวมถึงมีพี่น้อง อสม.มากันจำนวนมากด้วย ซึ่งตนก็กำลังผลักดันความมั่นคงให้กับ อสม. ดังนั้น ถ้ามีผู้แทนเป็นฝ่ายรัฐบาล ก็จะช่วยผลักดันเรื่องเหล่านี้ได้ โดยที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2500 จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 ไม่มี สส.ฝั่งรัฐบาลเลย จึงมาขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เข้ามาเป็นตัวเชื่อมสำคัญระหว่างพื้นที่กับรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เขต 1 พิษณุโลก มีผู้แทนเป็นรัฐบาล

โดยตนมั่นใจว่า รัฐบาล นำโดยนายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะไม่มีทางลืมชาวพิษณุโลก ซึ่งที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า งบประมาณบริหารประเทศมีจำกัด โดยถ้าไม่มีคนตามให้ ก็จะเสียโอกาส ดังนั้น ต้องเลือกฝ่ายรัฐบาล ที่สามารถทำงานได้ทันที ไม่ต้องรอฝ่ายค้าน ถึงปี 2570 ซึ่งวันนี้ ตนมองว่า ไม่ต้องคิดแล้ว เลือก “บู้ จเด็ศ” ได้เป็นรัฐบาลทันที

ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัคร สส. พิษณุโลก เขต 1 จากพรรคประชาชน ขึ้นเวทีปราศัยใหญ่ของพรรคประชาชน

บางช่วงของการปราศัย นายพิธา เล่าย้อนขณะขึ้นเครื่องบินจากสนามดินดอนเมือง มายังสยามบินพิษณุโลกว่า นั่งเครื่องบินมาไฟล์ทเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข น่าเสียดาย ที่เวลาสั้นไปหน่อย ตัวเองอยากจะเข้าไปหานายสมศักดิ์ เพื่อจะบอกว่าไม่มีหรอกพรรคฝ่ายแค้น ไม่ได้เป็นคู่แค้นอะไรด้วย มีแต่คู่แข่ง

“พรรคนี้ถูกสร้างมา เพื่อแข่งกันเรื่องนโยบาย แข่งกันเรื่องคนที่จะมาสมัคร แข่งกันเรื่องประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ดูพวกคุณสิ บอกว่า มันจบแล้วครับนาย ยังมาเป็นรัฐบาลเดียวกันได้เลย”


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Ct2dzcl9lTQ