ไล่ออกแล้ว! นร.ชาย บุกหอกักตัวโควิด นร.หญิง ก่อนลงมือขืนใจ

จากกรณีนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี อยู่ อ.เมืองเลย จ.เลย ร้องเรียนต่อสื่อว่า นางสาวฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี หลานสาว เรียนอยู่ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 57 จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนชายในโรงเรียนขึ้นมาที่หอกักตัวเด็กหญิงที่ติดโควิด แล้วนั้นบังคับข่มขืนหลานสาว ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 เวลา 23.00 น.



โดยทางโรงเรียนขอให้ปิดข่าวกลัวจะเสียชื่อเสียง จึงได้ร้องไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ผ่านมา จะขอตรวจสอบ จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบเรื่อง จึงร้องเรียนมาทางสื่อให้ช่วย



นางสาวเอ (ป้า) เล่าว่า ทางโรงเรียนแจ้งให้ทราบว่า หลานสาวมีเรื่องชู้สาวในหอพัก ให้ผู้ปกครองมาพบ จึงเดินทางไปพบเพื่อขอข้อมูล แต่ทางรอง ผอ. และครูฝ่ายปกครอง บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสมยอมของเด็กนักเรียนที่นัดเพื่อนชาย



โดยทางโรงเรียนสรุปว่าเป็นการสมยอมกัน ทำผิดกฎโรงเรียนจะให้ออก แต่กลัวเด็กเสียอนาคต จึงให้โอกาสเด็กเรียนต่อ โดยยื่นขอเสนอให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้ทางโรงเรียนฉีดยาคุมไว้ จากนั้นพยายามจะเอาหลานกลับบ้าน แต่ทางโรงเรียนไม่ยินยอมอ้างว่าเด็กกำลังใกล้สอบ



สุดท้ายสามารถเอาหลานกลับมาบ้านได้ และร้องไปทางมูลนิธิปวีณา และกระทรวงศึกษาธิการ แต่สุดท้ายไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวงฯ จนเข้าแจ้งความต่อ พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.65 เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กในวันที่ 27 ก.ย.65



นางสาวฟ้า เล่าว่า เหตุการณ์ครั้งเมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 ประมาณเกือบเที่ยงคืน มีนักเรียนชาย 4 คน ขึ้นมาที่หอพักกักตัวเด็กนักเรียนหญิงที่ติดโควิด กว่า 30 คน แล้วไปนอนนักเรียนหญิง 4 คน ต่อหน้าเพื่อนในห้องกว่า 30 คน



จากนั้นมาวันที่ 24 ส.ค.6 เวลา 5 ทุ่ม ขณะที่นอนอยู่นั้น เห็นมีนักเรียนชายกลุ่มเดิม มาด้วยกัน 6 คน มานอนกับนักเรียนหญิง 5 คน เหลือคนที่ 6 มาทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายศราวุธ หรือเอิร์ท หมอประคำ อายุ 15 ปี เข้ามาบังคับข่มขืนจนเสร็จต่อหน้าเพื่อกว่า 30 คน



จากนั้นหลังเสร็จแล้วพร้อมด้วยเพื่อนอีก 5 คน ได้ออกจากหอพักไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนนักเรียนหญิงในห้อง ที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าร้อง เพราะโดนข่มขู่ไม่ให้ยุ่ง ไม่งั้นกูจะเล่นงานมึง จากนั้นครูเรียกไปสอบถาม และบังคับให้บอกกับผู้ปกครองว่าเป็นการสมยอม



ล่าสุดวานนี้ (23 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีระบุผู้ก่อเหตุมีเพียง 1 คน ซึ่งทีมสหวิชาชีพจะได้ร่วมสอบสวนในวันที่ 27 ก.ย.นี้หากมีความผิดจริงก็จะสรุปสำนวนส่งอัยการในวันเดียวกัน เบื้องต้นมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์เพียงรายเดียว แต่หากมีผู้เสียหายมาแจ้งความอีกก็สามารถกระทำได้



ส่วนกรณีที่มีการร้องขอให้นักเรียนผู้เสียหายและผู้ปกครองปิดข่าว ตามกฎหมายจะเข้าข่ายมาตรา 157 หรือไม่นั้น ผู้ปกครองหรือผู้เสียหายจะต้องแจ้งความ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป



ขณะที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยเรื่องนี้ด้วยว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมาแม่เด็กนักเรียนโรงเรียนประจำใน จ.เพชรบูรณ์ พาน้องอายุ 17 ปี เดินทางมาร้องที่มูลนิธิปวีณาว่าถูกนักเรียนชายบุกเข้ามาบังคับข่มขืนขณะกักตัวโควิดในหอพักหญิงต่อหน้าเพื่อนนักเรียน 30 คน



หลังรับเรื่องมูลนิธิปวีณาได้ประสานเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายธีร์ ภวังคนันท ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รับเรื่องและได้ส่งรถมารับแม่กับน้องไปในวันนั้นทันที เพื่อไปให้ข้อมูลที่กระทรวงศึกษาธิการ



นอกจากนั้นมูลนิธิปวีณาฯได้ประสาน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุชาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้แม่กับน้องเข้าแจ้งความวันที่ 15 ก.ย. ตำรวจสอบเบื้องต้นก่อนส่งน้องไปตรวจร่างกายที่ รพ. วันที่ 27 ก.ย.นี้ได้นัดสอบพร้อมสหวิชาชีพ เพราะผู้ก่อเหตเป็นเยาวชนเช่นกัน



และจากข้อมูลล่าสุดทราบว่าโรงเรียนไล่เด็กผู้ชายที่ก่อเหตุ 5 หรือ 6 คน ออกแล้ว

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/fGnnh2v1sg4