พลิกในพลิก! ดรามา คีย์บอร์ดระเบิด - รร.ปิดข่าว - เด็กขโมยปืนพระ สรุปเอาปืนมาโชว์ ลั่นใส่เพื่อน ม.3 ดับ

คีย์บอร์ดระเบิดใส่หน้าเด็ก ม.3 ดับคาห้องคอมฯ สุดท้ายคดีพลิก เพื่อนสารภาพ ทำปืนลั่นก่อนโทรเรียกรุ่นพี่เอาปืนไปโยนทิ้งน้ำ ผกก.เผย เด็กเอาปืนมาโชว์ ก่อนตกกระแทกคีย์บอร์ดลั่น


 วานนี้ (15 ก.ย.65) เวลา 14.00 น. มีรายงานว่าเกิดเหตุคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนระเบิดใส่นักเรียนทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทุบรี ก่อนที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย

สำหรับที่เกิดเหตุเป็นห้องเรียนคอมพิวเตอร์พบคีย์บอร์ดมีการระเบิดปุ่มหายไปหลายปุ่ม แต่หน้าจอคอมไม่มีร่องรอยของการระเบิด ซึ่งคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องใหม่ที่ทางโรงเรียนเพิ่งซื้อมาจำนวน 10 เครื่อง ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น้องโชค ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าสาหัส บริเวณคิ้วซ้ายมีบาดแผลแตกลึกเห็นกระดูกยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยปอเต็กตึ๊งเร่งปั้มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

คุณครูศศินา  ครูประจำวิชาคอมพิวเตอร์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตอนนั้นตนนั่งอยู่หน้าห้อง นักเรียนชั้น ม.3 ก็ทยอยเดินเข้ามาในห้องและนั่งประจำโต๊ะ โดยจุดที่ระเบิดอยู่ด้านในเป็นเครื่องที่สองนับจากริมข้างใน ตอนนั้นอยู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ตนจึงรีบวิ่งไปดู ปรากฏว่าพบนักเรียนนอนอยู่ที่พื้นไม่เคลื่อนไหว มีเลือดออกมาเต็มไปหมด ตนจึงรีบบอกให้นักเรียนวิ่งออกไปแจ้งครูและได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยทันที 

ขณะที่ เพื่อนผู้เสียชีวิตซึ่งนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ น้องโชค เล่าว่า ก่อนที่จะเกิดการระเบิด โชคเข้ามานั่งและกำลังเปิดเครื่องคอมฯพอเปิดมาได้ประมาณ 10 นาที ก็ระเบิดขึ้น ก่อนหน้าที่จะระเบิดตนไม่ได้กลิ่นเหม็นไหม้หรือเสียงไฟช็อตอะไรเลย อยู่ๆ ก็ระเบิด เห็นเพื่อนอีกทีคือลงไปนอนอยู่ที่พื้นแล้ว ส่วนตนเองหูอื้อเพราะเสียงระเบิดดังมาก ส่วนเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ที่คอมฯ เครื่องแรกทางฝั่งซ้ายมือของโชคก็โดนสะเก็ดอะไรบางอย่างเข้าที่หน้าแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก


ต่อมามีการตั้งข้อสังเกตว่าคีย์บอร์ดจะสามารถระเบิดจนส่งผลให้เสียชีวิตได้เลยหรือไม่ก่อนจะมีกระแสข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ใช่เหตุแป้นพิมพ์ระเบิด แต่เป็นเพราะเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี รับสารภาพว่าทำปืนลั่นใส่เพื่อน ก่อนที่ในเวลา 17.40 น. พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จะยืนยันเกิดจากปืนลั่น จนส่งผลให้น้องโชคเสียชีวิต ซึ่งขณะนั้นยังไม่ยืนยันว่าเป็นปืนชนิดใด


ต่อมามีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านบางบัวทอง หลังเค้นสอบเด็กชายเอ อย่างละเอียด ก่อนที่จะให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จากพระวัดใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งรู้จักสนิทสนม มาเพื่อเคลียร์ปัญหากับผู้เสียชีวิต ก่อนจะตัดสินใจควักอาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อยิงศรีษะด้านหลังของเพื่อนนักเรียน ขณะที่กำลังนั่งเรียนคอมพิวเตอร์ ทำให้กระสุนถูกศีรษะ ทะลุไปออกเหนือคิ้วตาซ้าย ก่อนกระสุนจะไปถูกแป้นคีย์บอร์ด


ขณะเดียวกันพระคำนึง พระลูกวัดแห่งหนึ่ง พระผู้ปกครองของเด็กชายเอ ที่ทำปืนลั่นใส่เพื่อนเดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้เปิดเผยถึงพฤติกรรมของเด็กชายเอ ที่รับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ว่าเป็นเด็กดี ไปโรงเรียนทุกวัน ไม่ได้เป็นเด็กเกเร ส่วนใหญ่จะโดนคนอื่นแกล้งมากกว่า ซึ่งตอนนี้ยังไม่เจอตัวเด็กชายเอ และรู้สึกตกใจมาก รู้สึกงงว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง และไม่รู้ว่าเด็กหาปืนจากไหน หรือว่าอาจจะเป็นปืนของรุ่นพี่เขาหรือเปล่า และยืนยันว่าอาตมาไม่มีปืนไว้ในครอบครอง ปืนที่เด็กชายเอ อ้างว่าขโมยมาก็ไม่ใช่ของอาตมา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเด็กอาจจะเล่นกัน


ช่วงเดียวกันนั้นแม่ของเด็กชายเอ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางที่ สภ.บางบัวทอง เช่นกัน แต่เมื่อเจอสื่อกลับพยามวิ่งหนี ทางผู้สื่อข่าวก็ได้พยามสอบถามว่าได้เจอ ได้คุยกับลูกหรือยัง และลูกมีพฤติกรรมเล่นปืนหรือไม่ แม่เด็กชายเอ บอกเพียงแค่ว่ายังไม่ได้เจอลูก ไม่ตกใจ เพราะไม่รู้อะไรทั้งสิ้น


 ทั้งนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่าทางโรงเรียนตั้งใจปิดข่าวเรื่องปืนลั่นหรือไม่ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.ศศินา ครูประจำรายวิชาคอมพิวเตอร์ หลังให้ปากคำตำรวจ แต่ได้เผยสั้นๆ ก่อนเดินทางกลับว่า ให้รอรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว เสียงที่ดังออกมา ไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืน รู้แต่ว่ามีเสียงดังออกมาเท่านั้น จากนั้นได้เดินทางขึ้นรถกลับทันที


ก่อนที่ครูเอ้ คุณครูหัวหน้าระดับชั้นมัธยม จะได้ยกมือไหว้บอกว่า “ด้วยความสัจจริง ครูทุกคนไม่รู้เลย ไม่รู้เลยจริงๆ เมื่อมาถึง สภ. คุณครูก็มาวิเคราะห์กันว่ามันเกิดจากอะไร ถ้าคอมฯ ระเบิดคงไม่ใช่ แต่เดี๋ยวรอให้ฝ่ายตำรวจมาแจ้ง ซึ่งก็ได้ข้อมูลคร่าวๆ ตามที่สื่อนำเสนอไป


ส่วนข่าวที่ออกมีมาตั้งข้อสังเกตุว่าครูพยายามปกป้องคนที่ก่อเหตุนั้น ครูเอ้ตอบว่า ส่วนตัวได้คุยกับยาย ยายก็บอกว่าครูดีทุกอย่าง และขอให้ครูต้องให้ความยุติธรรมด้วย ซึ่งครูก็บอกว่าพร้อมให้ความยุติธรรม เพราะว่าเป็นลูกศิษย์ของครูทุกคน ส่วนตัวไม่รู้ว่าเป็นการยิงกันไม่รู้จริงๆ สำหรับเด็กที่ก่อเหตุนั้น เป็นเด็กที่ขาดเรียนบ่อย ไม่ค่อยมาเรียน หลัง สพฐ.มีนโยบาย พาน้องกลับเข้าห้องเรียน ครูประจำชั้นจึงได้โทรตามน้องกลับมาเรียน ซึ่งเป็นการเรียนวันแรก พร้อมย้ำว่าเด็กชายคนดังกล่าวไม่ได้มีพฤติกรรมเกเร เพียงแต่ขาดเรียนบ่อย เนื่องจากอยู่กับหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อฝากฝังว่าให้ครูช่วยดูแล หลวงพ่อฝากมาตลอดให้ช่วยดูแลน้องทางครูก็ประคับประคองน้องมาโดยตลอด


ส่วนการทะเลาะวิวาทระหว่างเด็กทั้งสองคนนั้น ครูเอ้ บอกว่าจะต้องไปสอบถามครูประจำชั้นก่อน แต่น้องไม่เคยมีประวัติที่อยู่ในอัลบั้มของฝ่ายปกครอง ส่วนน้องโชคที่เสียชีวิตนั้นเป็นเด็กน่ารัก

ขณะที่ ผกก.สภ.บางบัวทอง จะเปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า  เบื้องต้นทราบว่า เด็กเอาปืนมาจากกลุ่มเพื่อนด้วยกัน ไม่ใช่ปืนของพระดังที่เป็นข่าว ซึ่งเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ตอนนี้จับเจ้าของปืนมาแล้ว คดีนี้จบ ได้ข้อมูลหลักฐานทุกอย่าง

ในเบื้องต้นทางสืบสวน ประกอบกับที่เกิดเหตุเชื่อว่า เด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ออกมาโชว์กับเพื่อนร่วมชั้นเรียนแล้วทำร่วงหลุดมือ กระแทกกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์เป็นเหตุให้ปืนลั่นโดนเพื่อนร่วมชั้นเรียนแล้วเสียชีวิต ไม่พบประเด็นซับซ้อน เท่าที่คุยกันสอบพยานไปหลายปาก ยังไม่พบว่า มีประเด็นเรื่องการขัดแย้ง ยืนยันไม่ได้เอาปืนมาเพื่อจะก่อเหตุทำร้ายเพื่อน

ส่วนที่บอกว่าคอมพิวเตอร์ระเบิดตั้งแต่ตอนแรก เกิดจากคุณครูได้ยินเสียงดังและแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์แตก ครูเข้าใจว่าเป็นแบบนั้นเลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ห้องวิทยุก็บันทึกไว้แบบนั้น พอไปตรวจที่เกิดเหตุก็มุ่งไปที่ทางนั้น แต่เราไม่เชื่อว่าสถานที่เกิดเหตุจะทำให้ถึงกับตายได้ จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน

ส่วนเด็กเขาเป็นเพื่อนกันจะเห็นหรือเปล่าไม่รู้ ถามว่าเด็กเตี๊ยมกันมาหรือไม่ ผกก.สภ.บางบัวทอง บอกว่า ก็ไม่ได้เชื่อคำพูดเด็ก ดูจากหลักฐาน และคดีนี้ดำเนินคดีเหมือนผู้ใหญ่ทุกอย่าง ไปชั้นตำรวจแต่พอไปถึงอัยการหรือถึงศาล ศาลจะเป็นผู้พิจารณาแต่ทางตำรวจฟ้องศาลผู้ใหญ่ไม่ได้ฟ้องศาลเด็ก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/QM82x1qQhKE