สังคม

นายทุนเหิม! ปิดทางเข้าป่าชุมชนกว่า กว่า 15 ปี ซ้ำบุกรุกที่ดินชาวบ้าน ลั่นจ่าย 1 ล้านค่าเอาเหล็กกั้นออก

โดย paranee_s

28 ก.ค. 2565

2K views

ที่ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่น จ.เชียงใหม่ บ้านม่วงคำ หมู่ 3 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายอินทูล จันทกิจ ผญบ.บ้านม่วงคำ หมู่ 3, นายวัน ม่วงมา นายก อบต.โป่งแยง, นายนพดล จันทร์สว่าง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานดอยสุเทพ-ปุย ที่ 3 (น้ำตกแม่สา) กรมอุทยานฯ, นายสุนทร ช่วยแก้ว รองหัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่ริม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 จ.เชียงใหม่ กรมป่าไม้ฯ รวมกับตัวแทนชาวบ้าน และนางนงนุช มาภิวงค์ ชาวบ้านที่ถูกนายทุนบุกรุกสร้างบ้านพักต่างอากาศ พร้อมนายประหยัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ทำรั้วเหล็กกระดกกั้นรถ ปิดทางเข้าป่าชุมชน


โดยทั้งหมดเข้าร่วมประชุมสรุปปัญหากรณีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่นายประหยัด สร้างรั้วเหล็กกระดกกั้นรถ ปิดเส้นทางเข้าป่าชุมชนทิศตะวันออกของหมู่บ้านมานาน เป็นระยะเวลาประมาณ 15 ปี ทำให้ชาวบ้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรุมอุทยานฯ และทางเจ้าหน้าที่ปกครอง ไม่สามารถเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในป่าชุมชนที่มีพื้นที่กว่า 3,900 ไร่ได้เลย เช่น เข้าไปทำแนวกันไฟป่า เข้าไปปลูกป่า รวมทั้งจะนำยานพาหนะเข้าไปหาของป่าก็ยากลำบาก


นายอินทูล จันทกิจ ผญบ.บ้านม่วงคำ หมู่ 3 ได้แจ้งในที่ประชุมว่า ก่อนนั้นรวมแล้วประมาณ 15 ปี ทางนายประหยัด ได้นำเหล็กกระดกกั้นรถ ปิดเส้นทางเข้าเขตป่าชุมชนมาตลอด และก่อนนั้นได้ปิดเส้นทางด้านหน้าริมถนนในหมู่บ้าน สำหรับขึ้นไปบนดอยม่อนฯดังกล่าว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน และชาวบ้านจะเปิดเข้าไปใช้ประโยชน์ในป่าชุมชนแต่ละครั้งก็ลำบาก ต้องตามให้นายประหยัดมาเปิดทุกครั้ง


เมื่อชาวบ้านเดือดร้อนมานานกว่า 15 ปีดังกล่าว จึงได้ประชุมหารือแล้วลงมติ ให้นายประหยัด ย้ายเหล็กกระดกไว้ในที่ดินของตนเอง เมื่อมติร่วมกันแล้วได้ทำสัญญาขึ้นมาใหม่เมื่อเดือน ก.พ.2565 ทำโดย เจ้าหน้าที่ปกครอง คือผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับชาวบ้าน และนายประหยัด ก็รับทราบแล้ว จึงให้ลงนามในหนังสือสัญญา แล้วได้ถ่ายภาพเป็นหลักฐานที่จุดปักเสาเหล็กกระดกไว้แล้วด้วย


ต่อมาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาล่าสุด ทางนายประหยัด ได้ขยับเสารั้วเหล็กกระดกกั้นรถ ยายออกมาจากจุดเดิมที่ลงนามสัญญาไว้อีกประมาณ 50 เมตร นอกเขตที่ดินของนายประหยัด และได้ปิดถนนเส้นทางแยกเข้าป่าชุมชน ทางนายอินทูล ผญบ.บ้านม่วงคำ หมู่ 3 จึงเชิญ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และชาวบ้านที่เดือดร้อนจากที่การปิดเส้นทางดังกล่าว เพื่อมาร่วมประชุมสรุปปัญหาดังกล่าว


ในช่วงการประชุม นายประหยัด ได้อ้างว่า ตนลงทุนสร้างถนนไปกว่า 1 ล้านบาท ตนจะไม่ยอมที่จะขยับเสาเหล็กกระดกกั้นรถดังกล่าวไปไหนอีก หากจะให้ย้ายต้องเอาเงิน 1 ล้านบาทมาให้ตนก่อน หรือไม่เช่นนั้นก็ไปฟ้องศาลเอาเอง ตนถึงจะยอม


นายวรรณ ม่วงมา นายก อบต.โป่งแยง บอกว่า การที่นายประหยัด อ้างถึงการให้ชาวบ้านฟ้องร้องนั้นถือว่าไม่เป็นผลดี จะเสียเงินค่าทนายกันทั้งสองฝ่ายและเสียเวลา รวมทั้งการที่นายประหยัด อ้างการลงลายมือชื่อในสัญญาแล้วไม่ทำตามสัญญา ก็ถือว่าไม่สมควรทำแบบนี้ และการที่จะไปบุกรุกสร้างบ้านในที่ดินของชาวบ้านคนอื่น ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะเข้ามาอยู่ในชุมชนทำอะไรลงไป ผู้นำหมู่บ้าน ได้แก่ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เมื่อเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าใครทำไม่ถูกต้องมีการแก้ไขตัวเองด้วย และปัญหาดังกล่าวเกิดมาแบบนี้หลายครั้งแล้ว ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย


จากนั้น เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมทั้งนายประหยัด และนางนงนุช ชาวบ้านที่ถูกนายทุนบุกรุก ลงพื้นที่ชี้แนวเขต เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ใช้เครื่องตรวจสอบพิกัดเขตที่ดิน พบว่า ที่แปลงดังกล่าวที่นายประหยัด บุกรุกสร้างบ้านต่างอากาศ มีความผิดบุกรุกที่ดินของนางนงนุช และสร้างบ้านเรือนโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย เจ้าหน้าที่ให้ระงับการก่อสร้างบ้านพักต่างอากาศไว้ก่อน


นายอินทูล จันทกิจ ผญบ.บ้านม่วงคำ หมู่ 3 กล่าวว่า ปัญหาหลักที่นายประหยัด ทำเหล็กกระดกกั้นรถ คือ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าไปดูแลเขตป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และป่าชุมชน รวมพื้นที่กว่า 3,900 ไร่ ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ การเดินทางเขาไปยากลำบากตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ถูกปิดเส้นทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว และยังพบปัญหาอื่น ๆ อีก


ชาวบ้านจะเดินทางไปสำรวจเส้นทางน้ำ หรือรวมทั้งชาวบ้านใช้ประโยชน์กับป่า จะนำยานพาหนะเข้าไปในป่าเพื่อเก็บของป่ามารับประทานก็ลำบาก หากเจ้าของที่ดินปิดทางแล้วไม่อยู่ในพื้นที่ กรณีเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดับไฟป่า กว่าจะเข้าไปได้ ไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้างแล้ว เป็นต้น เมื่อมติชาวบ้านให้ย้ายเสาเหล็กกระดกกั้นรถออกไป เมื่อเจ้าของที่ดินไม่ย้าย ก็ต้องดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงาน ปัญหาเหล็กกระดกกั้นรถ ที่ให้นายประหยัด ย้ายออกมาปิดเส้นทางเข้าป่าชุมชน ทางนายอินทูล ผู้ใหญ่บ้าน บ้านม่วงคำ หมู่ 3 จะเป็นตัวแทนชาวบ้านในฐานะผู้เสียหาย ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ทางด้านนางนงนุช ชาวบ้านที่ถูกนายประหยัด บุกรุก สร้างบ้านพักต่างอากาศดังกล่าว ก็ลงบันทึกแจ้งเอาผิดเช่นกัน



คุณอาจสนใจ

Related News