ภรรยาทวงความยุติธรรม หลังถูกกล่าวหา วางยาสามี เปิดผลชันสูตรไม่พบสารพิษ ขัดกับทางตร.

โหนกระแสวันนี้ (25 ก.ค.65) พูดคุยกรณี หญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อ นางนิด ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายสุรชาติ ผิวแดง ผู้ช่วยรองโฆษกพรรคภราดรภาพ หลังต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง

ซึ่งตำรวจได้แจ้งข้อหา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นผู้วางแผนใส่ยาฆ่าแมลงในน้ำดื่มเพื่อฆ่าสามี หรือ เสี่ยเก่ง เจ้าของธุรกิจโรงงานอาหารสัตว์ อ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่ถูกครอบครัวของสามีกล่าวหาใส่ร้าย เพื่อหวังที่จะฮุบมรดกกว่า 100 ล้านบาท

นางนิด เผยว่า แต่งงานกับผู้ตายมา 15 ปี มีลูก 2 คน อายุ 15 ปี กับ 9 ปี วันเกิดเหตุเมื่อช่วงเดือน พ.ย.2564 สามีเป็นลมในโกดัง หน้าตาปกติ ไม่ได้มีน้ำลายฟูมปาก จึงนำส่ง รพ.จากนั้นเสียชีวิต จากนั้นตนถูกตำรวจเชิญตัวไปให้ปากคำ และถูกผู้หญิงรายหนึ่งเข้ามาทำร้ายตบตี จากนั้นตำรวจได้นำตัวตนเองไปขัง และถูกสอบสวนหนัก ถูกขู่ไม่ให้กินข้าวกินน้ำ และถูกตั้งข้อหาวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากการวางยาฆ่าแมลงในอาหารให้สามีรับประทาน พบยาพิษในเลือด

ต่อมา นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ระบุผลชันสูตรศพภายหลังว่า ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ไม่พบสารพิษกลุ่มยาฆ่าแมลง

ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ภรรยาได้เคยซื้อยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าเพลี้ย ทางนางนิดชี้แจงว่า ทางตนมีการทำสวน และซื้อยาฆ่าแมลงเป็นปกติ ยืนยันไม่ได้วางยาสามี และวันเกิดเหตุสามีไม่ได้มีอาการน้ำลายฟูมปาก ตามที่ตำรวจระบุ

อย่างไรก็ตาม สามีชอบดื่มเหล้า มักมีอาการปวดหัวบ่อยๆ แน่นหน้าอก มักซื้อยามากินเอง ไม่ชอบไปหาหมอ ครอบครัวสงบสุขปกติ ไม่ได้มีปัญหาชู้สาว มีทะเบียนสมรส ช่วยกันทำธุรกิจ สามีมักซื้อทอง ของมีค่า ให้เป็นของขวัญ

หลังเกิดเหตุทางญาติสามีกีดกันไม่ให้ตนเข้าไปในโรงงาน และมาเป็นผู้จัดการโรงงานแทน มีแม่สามีมาเป็นผู้จัดการมรดก โดยทางญาติสามีพยายามจะรับลูกของตนเป็นลูกบุญธรรมเพื่อโยกย้ายทรัพย์สิน

ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว เผยว่า การเสียชีวิตจากสารพิษ มี 2 กรณี คือเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตหลังได้รับการรักษา ซึ่งหากมีการชันสูตรหลังได้รับการรักษาพยาบาลมาแล้ว ก็จะตรวจไม่เจอ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากตัวอย่างเลือด ที่ทางแพทย์เก็บไว้

ขณะที่ พ.ต.อ.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สภ.กรับใหญ่ ระบุว่า มีหลักฐานเลือดของผู้ตายไว้ตั้งแต่แรกของ 2 โรงพยาบาล ทั้งนี้ต้องสอบถามผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อีกครั้ง

ทางฝั่งพี่ชายของผู้ตาย บอกว่า เรื่องคดีความไม่ขอพูดอะไรมาก หรือไม่ขอแก้ข่าว เนื่องจากตอนนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการให้เป็นหน้าที่ขั้นตอนของศาล ส่วนทางฝั่งภรรยาของน้องชายจะพูดหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อฯอย่างไร ก็ไม่ขอก้าวก่าย แต่เชื่อมั่นในพยานหลักฐาน ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์ตัวเองกับผู้ตายและน้องชายอีกคน ร่วมหุ้นกันทำธุรกิจนี้มาได้ 2-3 ปี หลังน้องชายเสียชีวิต ตอนนี้ธุรกิจก็ยังต้องเดินหน้าต่อไม่ได้หวังฮุบสมบัติน้องชาย