สังคม
WHO เผยพบป่วยโควิดทั่วโลกพุ่งกว่า 30% - กำชับปชช.อย่าซื้อ 'โมลนูพิราเวียร์' กินเอง
โดย panwilai_c
13 ก.ค. 2565
81 views
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่แนวโน้มเริ่มมีการระบาดมากขึ้น ขณะที่เรื่องยาที่ใช้รักษา ก็ถูกวิพากวิจารณ์กันอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการนำยาซึ่งเป็นสวัสดิการของรัฐ มาจัดแพคเกจรวมของโรงพยาบาลเอกชน และการนำยามาขายกันเอง โดยที่แพทย์ไม่ได้สั่งจ่าย โดยวันนี้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบกรณีจำหน่ายยาโมลนูพิราเวียร์ให้กับประชาชนมาใช้รักษาเอง ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกยืนยันพบการติดเชื้อพุ่งสูงกว่า 30%
คณะกรรมการรับมือเหตุฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น แสดงถึงการวิวัฒนาการของไวรัสที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับระบบสาธารณสุขในหลายประเทศ ทำให้พิจารณาได้ว่าโควิด-19 ยังอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
นายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการคณะกรรมการรับมือเหตุฉุกเฉินของ WHO ระบุว่า WHO ได้รับการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่าน โดยสาเหตุหลักเกิดจากโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 รวมถึงการยกเลิกมาตรการด้านสาธารณสุขและสังคมในหลายประเทศ
ซึ่งขณะนี้หลายประเทศได้ เปลี่ยนนโยบายการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทำให้อัตราการตรวจหาเชื้อลดลงอย่างมาก จึงยากต่อการติดตามผู้ป่วยและเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของไวรัส
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ศบค. ยืนยันวันนี้พบยอดผู้ติดเชื้อรวม 2,391 คน เสียชีวิต 25 คน มีผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่ 24,082 คน แบ่งเป็นกลุ่ม 776 คน จนถึงขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยสะสม 4,550,924 คน
กรณีที่ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การยกเลิกกรณีที่มีเหตุสมควรเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เพื่อรองรับการเป็นโรคประจำถิ่น ทำให้มีผลต่อการรักษาโควิด 19 โดยให้ยกเลิกการรักษาแบบกักตัวที่บ้าน (Home Isolation-HI) และฮอสพิเทล สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทองตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 และกลุ่มผู้มีสิทธิประกันสังคมตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมานั้น
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า หลังการยกเลิกดังกล่าวผู้ป่วยโควิด19 ทุกคนยังคงได้รับการรักษาฟรีตามสิทธิทั้งสิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ขณะที่ผู้ป่วยอาการสีแดงที่วิกฤต ยังสามารถใช้สิทธิ UCEP เข้ารักษาแห่งใดก็ได้เช่นเดิม
ส่วนกรณีประชาชนซื้อยาโมลนูพิราเวียร์มารับประทานเอง นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความกังวลและห่วงใยพี่น้องประชาชน เนื่องจากการซื้อยาดังกล่าวมารับประทานโดยไม่จำเป็น อาจทำให้ดื้อยา และการใช้ยาดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายกระทรวงสาธารณสุขเร่งสื่อสาร สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อาการรุนแรงสามารถใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เร่งตรวจสอบการขายยาโมลนูพิราเวียร์ทางสื่อออนไลน์ ได้ดำเนินการสั่งระงับโฆษณาและดำเนินคดีโฆษณาขายยาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มตลาดร้านค้าออนไลน์ เพื่อไม่ให้เป็นช่องทางที่ใช้ส่งต่อยาผิดกฎหมายให้ผู้บริโภค และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ลักลอบขายในทุกช่องทาง
รวมไปถึง อย. ยังได้ร่วมกับกรมควบคุมโรคในการเฝ้าระวังการนำเข้ายาตามด่านต่าง ๆ เพื่อสกัดไม่ให้มีการนำเข้ายาผิดกฎหมายหรือยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทาง อย. เข้ามาในประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ อย. ได้ลงพื้นที่ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพในวันนี้ เพื่อตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านคลองหลวง ที่ได้รับการสนับสนุนยาโมลนูพิราเวียร์จากทางภาครัฐ ว่ามีการจ่ายยาตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์อย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งสถานพยาบาลได้มีการโฆษณาแพคเกจรักษาโรคโควิด-19 หลายรูปแบบให้ผู้ป่วยเลือกรับบริการ บางแพคเกจมีการโฆษณาด้วยข้อความว่า จะมีการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์หรือยาโมลนูพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยด้วย แต่ยาดังกล่าวเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ ซึ่งสถานพยาบาลไม่สามารถโฆษณาได้ นอกจากได้รับอนุญาต แต่จากการตรวจสอบไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด กรณีนี้ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้มีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง WHO ,องค์การอนามัยโลก ,ผู้ป่วยโควิด ,โมลนูพิราเวียร์