อัยการสั่งสอบเพิ่ม ส่อเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดี 'แตงโม' ด้าน 'อัจฉริยะ' เจอหมายเรียก ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

อัยการแถลงคดีแตงโม ระบุ อาจเลื่อนนัดสั่งฟ้อง เหตุอัยการภาค 1 สั่งสอบเพิ่มในประเด็นสำคัญ ส่วน อัจฉริยะ เจอหมายเรียก ข้อหาร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานแล้ว

เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการสูงสุด แถลงข่าวความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา โดยเปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีมาให้พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 65 โดยหลังจากที่พนักงานอัยการได้พิจารณาเบื้องต้น ก็ได้ส่งสำนวนไปให้อธิบดีอัยการภาค 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดในภาค ได้พิจารณา

จากนั้น อธิบดีอัยการภาค ภาค 1 ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนคดี โดยมีรองอธิบดีอัยการ ภาค 1 เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งจากการพิจารณา พบว่า คดีนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มให้สิ้นกระแสความอีกหลายประเด็น ทางอธิบดีอัยการภาค 1 จึงได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนเพิ่มเติมไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 โดยกำหนดให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมภายใน 15 วัน โดยหากได้ผลการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาครบถ้วน คณะทำงานก็จะตรวจพิจารณาโดยละเอียด และจะมีความเห็นและคำสั่งต่อไป

ทั้งนี้ ในประเด็นที่สั่งสอบสวนเพิ่มเติมนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นประเด็นใด แต่บอกได้เพียงว่ามีหลายประเด็น และล้วนเป็นประเด็นสำคัญทางคดี ส่วนกำหนดที่นัดผู้ต้องหาทั้ง 6 รายมาฟังคำสั่งฟ้องในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ยังคงเป็นไปตามเดิม เพราะผลการสอบสวนเพิ่มเติมอาจจะส่งกลับมาและพิจารณาได้ทันตามเดิม แต่หากไม่ทัน ก็จะทำการเลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปอีกครั้ง


 นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่มีบุคคลไปให้ข่าวว่า หากผู้เสียหายฟ้องคดีด้วยตนเอง จะเป็นการตัดสิทธิพนักงานอัยการ ให้ไม่สามารถฟ้องคดีได้อีก ซึ่งนายประยุทธ ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องคลาดเคลื่อน ไม่เป็นความจริงทั้งตามข้อกฎหมายและตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด

โดยในระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า เฉพาะคดีที่เป็นความผิดส่วนตัวหรือความผิดที่ยอมความได้เท่านั้น ที่ผู้เสียหายไปฟ้องเองแล้วอัยการจะสั่งยุติคดี ซึ่งระเบียบนี้ไม่ได้บังคับใช้กับคดีอาญาแผ่นดินแต่อย่างใด โดยคดีการเสียชีวิตของแตงโม เป็นอาญาแผ่นดิน จึงไม่เกี่ยวกัน

ส่วนบุคคลที่ให้ข่าวดังกล่าว ทางสำนักงานอัยการสูงสุด จะไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะเป็นบุคคลนอกหน่วยงาน ไม่ใช่อัยการ แต่ได้ไปเผยแพร่ข้อมูลอย่างแพร่หลาย ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจึงต้องมาชี้แจงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ผู้เสียหายไปยื่นฟ้องเอง แล้วจะมีผลต่อการพิจารณาคดีของศาลอย่างไรนั้น ตนขอไม่ให้ความเห็น เพราะไม่ใช่ภารกิจของอัยการ แต่ยืนยันได้ว่า ในส่วนของอัยการ มีการดำเนินงานโดยยึดตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมายทุกประการ

ขณะที่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า สน.พหลโยธินและ สน.ประชาชื่น ออกหมายเรียก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้มารับทราบข้อหาร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

กรณีที่ พันตำรวจโท พชต วงศ์ประณุฑ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้แจ้งความไว้ที่ สน.ประชาชื่น กรณีถูกกล่าวหาว่า ตำรวจสร้างหลักฐานเท็จ ขณะที่ พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ไปแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธินในความผิดเดียวกัน

มีรายงานว่า นาย อัจฉริยะ เตรียมเข้าร้องกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อแจ้งความเอาผิด พันตำรวจโท พชต ข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษในคดีอาญา และแจ้งความ พลตำรวจตรี อรรถพล 2 ข้อหา คือ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ เป็นเจ้าพนักงานแต่ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อแกล้งให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งต้องรับโทษ เพราะไปบังคับข่มขืนใจ ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกตนเอง ทั้งที่ยังสอบสวนผู้ร้องไม่เสร็จ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/H3p5gcwzNp8