"อัจฉริยะ" ร้องแพทยสภาสอบจริยธรรม "หมอหมู" ปมบาดแผลแตงโมเข้าได้กับใบพัดเรือ

"อัจฉริยะ" รับมอบอำนาจแม่แตงโม ร้องแพทยสภา สอบจริยธรรม "หมอหมู" เหตุให้ความเห็นเรื่องบาดแผลว่าอาจเข้าได้กับใบพัดเรือ ชี้เป็นการให้ความเห็นที่ผิดเพี้ยน เพราะตนมีหลักฐานชัดเจนว่าบาดแผลเกิดจากของมีคมไม่ใช่ใบพัดเรือ เชื่อเป็นกุนซือให้ตำรวจ เพราะความเห็นที่เป็นประโยชน์กับตำรวจ ต้องถูกเอาเข้าสำนวนแน่นอน



นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกแพทยสภา และเลขาธิการแพทยสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรมของแพทย์ท่านหนึ่ง ที่มีการให้ความเห็นที่เป็นเท็จต่อสังคม โดยระบุว่า แพทย์คนดังกล่าว คือ หมอหมู ซึ่งสังคมก็คงจะทราบกันดีว่าหมายถึงใคร



นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ตนรับมอบอำนาจจากคุณแม่ของแตงโม ให้มาร้องเรียนจริยธรรมกับ หมอหมู ซึ่งเป็นคนที่ออกมาให้ความเห็นผ่านสื่อเกี่ยวกับบาดแผลของแตงโม แบบมั่วมาก ส่อเป็นความเท็จ โดยที่จริงๆ แล้ว ตนมีหลักฐานชัดเจนจากการจำลองของหมอธวัชชัย ว่าแผลที่ขาข้างขวาของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่หมอหมู ก็ไปพูดไปให้สัมภาษณ์จำลองเหตุการณ์ออกสื่อว่าบาดแผลเข้าได้กับใบพัดเรือ ดังนั้น พฤติกรรมของหมอหมู ที่เป็นการให้ความเห็นที่ผิดเพี้ยนต่อสังคม จึงเข้าข่ายผิดจริยธรรมทางการแพทย์



โดยที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า หมอหมู มักจะออกทีวีแก้ต่างให้ตำรวจอยู่ตลอดเวลา พยายามให้ความเห็นว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ ซึ่งเป็นความเท็จ ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ส่วนตัวเคยเจอกับหมอหมู ตอนไปออกรายการรายการหนึ่ง ตนก็ได้ทักท้วงว่ารู้ได้อย่างไรว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือและตกที่ท้ายเรือ ทั้งที่ไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือหลักฐานอะไรเลยที่ปรากฎว่าแตงโมตกท้ายเรือจริง แต่ในส่วนของตนเอง ยืนยันว่ามีหลักฐานว่าบาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ โดยเฉพาะหลักฐานภาพแชทที่รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 1 บอกว่า จำลองเหตุการณ์ 10 ครั้ง บาดแผลเข้ากับใบพัดเรือได้แค่ครั้งเดียว

ส่วนที่ตนบอกว่า หมอหมูเป็นกุนซือให้กับตำรวจ เพราะตนเชื่อว่า ทุกความเห็นที่หมอหมูออกมาพูดนั้น หากเป็นประโยชน์ต่อตำรวจก็จะถูกเอาเข้าสำนวน ลักษณะจะเหมือนกับที่ตำรวจเคยติดต่อมาหาหมอธวัชชัย แต่หมอธวัชชัยได้ปฏิเสธไป ซึ่งตนเชื่อว่าความเห็นของหมอหมูต้องมีการเอาเข้าสำนวนแน่นอน เพราะมีการไปจำลองเหตุการณ์ออกสื่อด้วย



ขณะที่ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้รับมอบหนังสือร้องเรียนจากนายอัจฉริยะ และระบุว่า ทางแพทยสภาได้ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ เคยมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบจริยธรรมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งกรณีที่นายอัจฉริยะมายื่นในวันนี้ ก็จะนำไปรวมพิจารณาเพราะเป็นเรื่องเดียวกัน โดยจะรับเรื่องและไปตรวจสอบดูรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะพิจารณาทันทีอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันความสับสนของสังคม



โดยขั้นตอนการสอบสวนจริยธรรม จะต้องตรวจดูก่อนว่าเรื่องที่ร้องเรียนมีมูลหรือไม่ และดูประกอบข้อกฎหมาย ก่อนนำเข้าพิจารณาในชั้นคณะกรรมการใหญ่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบโดยใช้หลักฐานทางการแพทย์มายืนยันทั้งหมด และขอให้เชื่อมั่นในการดำเนินการของแพทยสภา



อย่างไรก็ตาม ตามกรอบของจริยธรรมแล้ว การให้ความเห็นต่อสาธารณะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ถ้าหากว่าการให้ความเห็นนั้นไปทำให้เกิดความเสียหาย ก็จะต้องมาพิจารณาเป็นกรณีไปว่าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่อย่างไร โดยให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา