สังคม

เข้าแจ้งความ “พระคนกลาง” เพิ่มอีก 1 ราย ตร.เร่งจับกุม ด้านพระย้อยถูกไล่จากวัดรอบ 2

โดย paranee_s

7 พ.ค. 2565

59 views

ผู้สืบข่าวได้ติดตามความคืบหน้า กรณีพระคนกลางเคลียร์เงินยุติเรื่อง กาโตะเสพเมถุน แต่ไม่สำเร็จ ซ้ำ ถูกนักข่าวเปิดโปงต่อเนื่อง ว่ามีหมายจับคดีอีก 2-3 คดี และในตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนีนั้น วันนี้ (7 พ.ค.) นายหนังเอิบน้อย ยอดขุนพล อายุ 69 ปี นายหนังตะลุง จาก อ.ปากพนังเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อาม จอนนุ้ย พงส.เมือง นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับพระดอน วัดวังตะวันออก อ.เมือง นครศรีธรรมราช ในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากยืมเงินจำนวน 140,000 บาท แต่โอนคืนเพียง 50,000 บาท คงเหลืออีก 90,000 บาท บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืน และไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินทางมาแจ้งดังกล่าว


ทางด้าน พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบก.ภ.8 สั่งการให้ตำรวจเมืองคอน แต่งตั้งคณะชุดสอบสวนเรื่องพระดอนโดยเฉพาะ รับแจ้งทุกเรื่องทั้งแพ่งและอาญา และเร่งติดตามจับกุมในคดีค้างเก่าตามหมายจับ โดย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นศ.สั่งให้ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง นศ.รับคำสั่งดำเนินการ โดยมี พ.ต.ท.บุญเชิญ ทองใหญ่ และ พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย รอง ผกก. (สอบสวน) และ พ.ต.ท.ถาวร จันทมระพงษ์ สว. (สอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ร่วมรับผิดชอบ


ในส่วนของการติดตามไล่ล่าจับกุมพระดอน พระคนกลางที่อมเงินกาโตะ 300,000 บาท โดยอ้างว่า จะนำไปเคลียร์นักข่าวในท้องถิ่น แต่เคลียร์ไม่ได้ เนื่องจากไม่มีใครยอมรับเงิน โดยเฉพาะนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้นำคลิปมาเปิดโปงผ่านรายการระคนข่าว กับ คนข่าวตัวดำ ทางเฟซบุ๊กไลฟ์เป็นคนแรก เมื่อคืนวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา และนายยุทธนา แต่งวงศ์ นายกสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช


ขณะนี้พบว่า พระดอนมีหมายจับคดีเช็คที่ยังไม่หมดอายุความอีก 2 หมาย และมีผู้เสียหายถูกโกงเงินหลายรายเข้าแจ้งความ โดยนายหนังตะลุงเอิบน้อย ยอดขุนพล เป็นรายล่าสุด ซึ่งทางทีมไล่ล่าได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภาค 8 ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้


ล่าสุดการจับสัญญาณโทรศัพท์พบว่าอยู่ในพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวน สภ.เมือง และ กก.สส.นครศรีธรรมราช รวมทั้งตำรวจสันติบาลลงพื้นที่ จ.พัทลุงและใกล้เคียงติดตามจับกุมตัวพระดอนอย่างกระชั้นชิด




ในขณะที่ตำรวจ ปปป. ปักหลังสอบสวนคณะกรรมการวัดเพ็ญญาติ และนายก อบต.กะเปียด อ.ฉวาง ในเรื่องการร่วมกับพระกาโตะเบิกเงินในบัญชีวัด 600,000 บาท และนำเงินเข้าบัญชีวัดที่กาโตะนำมาคืน 600,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องรู้เห็นทั้งหมดอย่างละเอียด ก่อนจะเรียกตัวกาโตะมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา


เจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 1 - 4 แสนบาทตามประมวลกฎหมายอาญา ม.47 ซึ่งยอมความไม่ได้


สำหรับพระกาโตะ ทาง พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย ได้นัดมาสอบสวนปากคำในคดีที่สมาคมสื่อมวลชนฟ้องหมิ่นประมาท เนื่องจากระบุในรายการโหนกระแสว่าจ่ายเงินให้นักข่าวท้องถิ่น 3 แสนบาทเพื่อปิดข่าวนั้น โดยได้นัดมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 8 – 9 พ.ค. 2565 ยังไม่ระบุเวลานัดที่แน่ชัด



ทางด้านพระครูกาแก้ว เจ้าอาวาสวัดหน้าพระลาน ได้เรียกพระย่อยเข้าพบ และขอให้ออกจากวัด เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา และสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์ ซึ่งเป็นการไล่ออกจากวัดเป็นครั้งที่ 2 แม้พระย้อยจะพยายามชี้แจงว่ากระทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่พระครูกาแก้ว เจ้าอาวาสไม่ยอมรับฟังใด ๆ ทั้งสิ้น


พระย้อยจึงร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจและยินยอมออกจากวัด โดยได้เก็บข้าวของจำนวนหนึ่ง พร้อมกรอบรูปบุตรสาววัย 5 เดือนที่เสียชีวิตในท้องภรรยา ก่อนออกจากวัด


พระย้อยยืนยันว่าจะเดินหน้าปกป้องพระพุทธศาสนาตลอดไป จากนั้นจึงให้พรรคพวกขับรถมารับไปอยู่ในวัดห่างไกลและขออยู่อย่างเงียบ ๆ สักระยะ และหลังจากกระทำภารกิจเป็นเจ้าภาพบวชให้กับครอบครัวที่ยากจนในวันที่ 14 พ.ค. 2565 เพื่อทำบุญอุทิศให้บุตรสาวแล้วเสร็จ จะกำหนดวันสึกจากพระเป็นฆราวาสต่อไป


คุณอาจสนใจ