เศรษฐกิจ

สู้ไม่ไหว! ชาวนาช้ำ น้ำมัน-ปุ๋ยแพง ทำนาไม่คุ้ม วอนรัฐตรึงราคา ลดต้นทุน

โดย panwilai_c

6 พ.ค. 2565

34 views

ชาวนาในจังหวัดพิจิตร นำเครื่องจักรกลการเกษตร ออกมาปรับพื้นที่นาข้าว เพื่อเริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง โดยชาวนาต่างเร่งสูบน้ำขึ้นนา ท่ามกลางราคาน้ำมันดีเซล ที่ใช้สูบน้ำ และใส่เครื่องจักรกลสำหรับทำนา ปรับราคาขึ้นมาลิตรละ 32 บาท และจะขึ้นอีกรอบในวันจันทร์หน้า



เบื้องต้นกระทรวงพลังงานบอกว่าจะขึ้นอีก 1 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาปุ๋ยก็ยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ตกกระสอบละ 1,800 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่ายาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ที่ปรับราคาขึ้นยกแผง และยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นอีก ดันต้นทุนการทำนาต่อไร่ พุ่งทะลุ 6 พันบาทต่อไร่ไปแล้ว และถ้าเป็นนาดอน ต้องสูบน้ำหลายต่อ ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนพุ่งสูงไปอีก เผลอๆ แตะ 7 พันบาทต่อไร่เลยทีเดียว สวนทางกับราคาข้าว ที่มีลงกับลง ถ้าเกี่ยวสด ราคาจะอยู่ที่ 6 พัน ถึง 7 พันบาทเท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าต้นทุนการทำนา กับ ราคาข้าว วิ่งทันกันแล้ว ขณะที่หนี้ ธกส.ก็รุมเร้า ประกาศพักชำระหนี้ แต่ดอกเบี้ยยังเดิน



นางสวณีย์ โพธิ์รัง ผู้จัดการนาแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่เดิมบาง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า การลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ยิ่งซ้ำเติมให้ต้นทุนการทำนาเพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่เจอกับราคาปุ๋ยแพงอยู่แล้ว โดยชาวนาต้องใช้น้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำเข้านา จากเดิม เฉลี่ย 300 ถึง 500 บาทต่อไร่ แต่ตอนนี้สูงถึง 1,000 บาทต่อไร่แล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก หากน้ำมันขึ้นไปถึง 35 บาทต่อลิตร และยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง จากเดิมเฉลี่ยไร่ละ 1 ตัน เหลือเพียง 5-6 ร้อยกิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น หรือ หายไปกว่าครึ่ง ทำให้วันนี้สิ่งที่ชาวนาทำได้ คือ ลดพื้นที่เพาะปลูก บางคนเลือกที่จะไม่ทำนาในรอบการผลิตนี้ เนื่องจากไม่มีเงินลงทุน สู้ต่อไม่ไหว



โดยสิ่งที่ชาวนาเรียกร้องในวันนี้ คือ ให้รัฐบาลช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซล สำหรับทำนา และตรึงราคาปุ๋ยเคมี เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต พร้อมเรียกร้องให้ ธกส.พักต้น และพักดอกเบี้ย 2 ปี เพื่อลดภาระให้ชาวนาได้ลืมตาอ้าปากได้ ไม่เช่นนั้นชาวนาคงอยู่ไม่ได้



ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/3RYVExBo7zo

คุณอาจสนใจ