ช่อง 3 ตามหาผู้ว่าฯ เลือกตั้ง

"9 ปี ตามหาผู้ว่าฯ เลือกตั้ง" 4 ผู้สมัคร ร่วมถก ทุกเรื่องทุกประเด็น แก้ปัญหาคนกรุง

โดย attayuth_b

28 เม.ย. 2565

1.7K views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่อง 3 ได้จัดเวทีดีเบต เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในชื่อ "9 ปี ตามหาผู้ว่าฯเลือกตั้ง"  โดยมีผู้สมัครที่เข้าร่วมประกอบด้วย 1.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคก้าวไกล 2.นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคประชาธิปัตย์  3.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครหมายเลข 6  และ 4.นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้สมัครหมายเลข 8  โดยมีพิธีกรคือ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และ นายกรรชัย กำเนิดพลอย

โดยมีตัวแทนที่จะมาตั้งคำถามประกอบด้วย  เจ๊จง จงใจกิจแสวง นางพูลทรัพย์ สวนเมือง ตุลาพันธุ์ หรือพี่พูล ตัวแทนแม่ค้าหาบเร่ นางบุญศรี แสงหยกตระการ หรือป้าทุบรถ นายอิศรา ราษฎร์ทองหลาง หรือ บูม ในฐานะตัวแทนผู้ใช้ทางเท้า  และ นายปภังกร เขมจิรโชติ จากกลุ่มพาวเวอร์พัฟฟ์เกย์




ปัญหาหาบเร่ แผงลอย


โดยนางพูลทรัพย์ ตัวแทนหายเร่แผงลอย ระบุว่าเรามีจุดผ่อนผันเป็นจำนวนมาก 733 จุด แต่ปี 2559 มีนโยบายเอาหบเร่ออกเหลือ 171 จุด แต่มีพ่อค้าแม่ค้าอยู่สองแสนคน และหากขายวันละพันก็จะมีเงินหมุนเวียน 8 หมื่นล้านต่อปี ที่ผ่านมาเราถูกไม่ให้ขาย เป็นการจัดระเบียบแต่จริงๆเป็นการเอาออกจากพื้นที่ ซึ่ง กทม. บอกว่าเป็นปัญหาอมตะระหว่างผู้ค้าหาบเร่กับผู้เดินถนน  จึงอยากถามว่าถ้าท่านเป็นผู้ว่าฯ อยากทราบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร  ซึ่งทีผ่านมาเราก็แอบขาย และก็เจอเทศกิจ ถ้าจะขายได้ก็มีบ้างที่เราต้องจ่ายใต้โต๊ะให้กับเทศกิจ ซึ่งมีทุกเขต  ซึ่งแล้วแต่ว่ามีพื้นที่ขนาดไหน  มีทั้งรายวันรายเดือน รายวันวันละ 200  ขณะส่วนที่ไม่ใช้ทำเลทองเดือนละ 500  ขณะที่เจ๊จง ระบุว่า ทุกคนทราบว่าจ่ายอย่างไรแม้กระทั่งอดีตผู้ว่าฯก็น่าจะทราบ   และในตลาดต้องเสียไหม  

ขณะที่พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าว่าแต่เทศกิจเลย  เคยจับติดคุก 6 เดือน มาสองรายแล้ว  มันเหมือนปัญหาการคอร์รับชั่นมีไหม มันมี เราจะพยายามให้ลดน้อยลงความชั่วไม่ได้จบใน 3 วันเจ็ดวัน ต้องค่อยๆแกะออก ถ้าให้รับว่าเดือนเดียวให้หมด มันทำยาก  ขณะที่ กทม. ก็มีไลน์อัศวินคลายทุกข์ ที่ใช้ร้องเรียน  โดยคนที่ร้องเรียนมามีเป็นแสน ตนพยายามสร้างความสมดุลของผู้ค้าและคนเดินถนน  ว่าอยากให้ขายตรงไหน หรือตรงไหนขายไม่ได้  “ผมรับราชการไม่เคยด่างพร้อย เรื่องอย่างนี้ผมไม่ทำหรอก”

ด้านนายชัชชาติ ระบุว่า ปัญหาต้องโปร่งใส ไม่ส่วยไม่เส้น    ยืนยันว่า 6 เดือน 90%  จะไม่มีเทศกิจรับเงิน ทีผ่านมาเรามีแอปพลิเคชั่นแจ้งเหตุใช้มาสองที่แล้ว  นอกจากนี้เรามีอาสาสมัครเทคโนโลยีประจำชุมชน เพื่อสอนให้ผู้ค้าได้ใช้  หาบเร่จำเป็นแต่ต้องไม่เบียดเบียนคนเดินเท้า “6 เดือนส่วยจะลด”

ส่วนนายสุชัชชวีร์ บอกว่า การลดปัญหาคอร์รัปชั่นใครๆก็พูดได้  แต่ระบบจะแก้อย่างไร ตนเสนอให้ระบบทุกระบบต้องขึ้นออนไลน์ การลงทะเบียนการค้าขาย และร้องเรียนผ่านออนไลน์ เหมือนซื้อของออนไลน์   หากหัวไม่กระดิกหางไม่ส่าย หากผู้ว่าเอาจริง ปัญหาหายไปแน่ๆ  “6 เดือนทำได้สำเร็จ”

ขณะที่วิโรจน์ระบุว่า หากไม่ประกาศนโยบายให้ชัด ผู้ว่าฯต้องประกาศให้ชัดว่าไม่เอา  ทำไมเราต้องชนกับปัญหาเพื่อประชาชน ทำไมต้องให้ประชาชนไปชน    ตอนนี้เราติดกับการใช้อำนาจเราไล่แล้วก็ไปหาที่อื่น ทำให้เขาต้องไปหาที่อื่น และเกิดการคอร์รับชั่น  ผมตกใจนะที่เขาจับได้แค่สองราย   นอกจากนี้อาคารสูงควรมีกฎหมายให้มีโรงอาหาร ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าเข้าไป “เรื่องส่วยเคลียร์ทันที” นายวิโรจน์ระบุ




ปัญหาคนเร่ร่อน

ด้านเจ๊จง ตั้งคำถามว่า  หากใน 4 ท่านได้เป็นผู้ว่าฯจะแก้ปัญหาขยะ และคนเร่ร่อนอย่างไร  อย่างที่เจ๊อยู่ที่วัชรพล 1  อาทิตย์มาเก็บครั้งเดียว ทำไมไม่มาทุกวัน

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหาขยะคือการเข้าไม่ถึง เก็บไม่ถี่  รถที่เหมาะ กทม.คือครึ่งตันและหนึ่งตัน  ที่จะทำให้เล็กลงและเข้าไปเก็บได้ถี่ขึ้น เมืองอื่นที่เขามีขยะมากกว่าเราเขายังจัดการได้ ส่วนเรื่องหมู่บ้าน ข้อบัญญัติ กทม. แย่กว่านนทบุรี ที่บอกว่าในแต่ละหมู่บ้านต้องมีจุดพักขยะ ปัญหาคนเร่ร่อน  สิ่งที่ กทม.ทำได้คือห้องน้าธารณะที่สะอาดและกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย ที่ต้องเพิ่มคือเรื่องการดูแลสุขภาพจิต ที่จะช่วยลดคนเร่ร่อน

ส่วนนายชัชชาติ  บอกว่า นี่คือปัญหาของเมืองที่ขยายไป หนอกจอก มีนบุรี บางทีมาเก็บ 10 วันหน   หากตนเป็นผู้ว่าฯ  เราก็จะเพิ่มจำนวน  ปัจจุบันรถขยะเราเสียเวลาจอดแยกขยะเยอะ  เพื่อเอาไปหารายได้   จึงต้องมีระบบ ซึ่งจะทำให้ได้เร็วขึ้น เราก็จะดูแลสวัสดิการให้ดี เพื่อไม่ให้เขามาคุ้ยขยะ  คุณเอารถมาจอดเพื่อให้แยกขยะถึง 6 ชั่วโมง ต้นทุนจัดการขยะมีมีรั่วไหลมาก ค่าขนมีไม่เยอะ แต่ค่าจัดการอื่นทำให้รั่วไหล “ขณะที่ปัญหาคนไร้บ้าน ต้องมีบ้านอุ่นใจ และมีการลงทะเบียน ให้สิทธิเหมือนคนปกติ”

นายวิโรจน์ กล่าวว่า  เราต้องเก็บค่าขยะเพิ่มจากห้างและร้านสะดวกซื้อเพื่อเอาเงินมาปรับปรุงการเก็บขยะให้ดีขึ้น  หากเป็นผู้ว่า เป็นห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ ต้องมี 2-3 พันต่อเดือน  นอกจากนี้หากเราแยกขยะก็จะนำไปเป็นส่วนลดในการเก็บขยะ ส่วนปัญหาคนเร่ร่อน  40% คนเร่ร่อนเพราะตกงาน แต่ถ้าเราหางานให้ ก็จะแก้ปัญหาได้  

พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า การจะมาแก้ข้อบัญญัติต้องเข้าสภา กทม. ปัญหาขยะต้องแก้ต้นทาง โดยการแยกขยะ กลางทางคือรถเก็บขยะ ที่เอามารวมกัน  เราต้องแยกคันแยกขยะ   ซึ่งตนเข้ามาก็จะทำเลยและทำต่อได้เลย ปัญหาคนไร้บ้านเรามีบ้านอยู่แล้ว บางทีเอามาส่งวันเดียวก็ออกไป มันเป็นสิทธิของเขาก็ไม่รู้จะทำยังไง”




ปํญหาตลาดอยู่ติดพื้นที่อยู่อาศัย

ป้าบุญศรี แสงหยกตระการ หรือป้าทุบรถ ได้ตั้งคำถามว่า  หลายตลาดอยู่ติดพื้นที่อยู่อาศัย  บางที่ตั้งตลาดไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐ และตลาดที่ตนเคยมีปัญหา ล่าสุดไม่มีแต่การไปออกใบอนุญาตให้ทำห้างสรรพสินค้า ขายตั้งแต่หกโมงเช้าถึงทุ่ม จึงอยากถามว่ะจัดการอย่างไรกับตลาดที่ติดพื้นที่อาศัย  

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตอนที่เกิดปัญหา วันรุ่งขึ้นตนสั่งรื้อเลย  ซึ่งขณะนี้ตรงนั้นที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรก็ควรทำหมู่บ้านจัดสรร แต่มีคนทำนอกเหนือจากนั้น และขณะนี้มีการฟ้องศาลปกครองหรือศาลแพ่งและเรื่องยังอยู่ในชั้นศาล และการแก้ปัญหาเราต้องพึ่งหลักกกฎหมาย  หากอาคารเล็กอำนาจจะอยู่ที่ผอ.สำนักการโยธา  “แต่ปัญหาที่ค้างคาไม่ใช่สมัยผม สมัยผมมาไม่มี” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ปัญหานี้องคิดถึงกฎหมายผังเมืองเฉพาะ หากกฎหมายบังคับใช้จะแก้ได้  แต่ปัญหาเฉพาะหน้าแต่ถ้าขอใบอนุญาตผิดมันผิดอยู่แล้ว   และการขอใบอนุญาตต้องใช้บุคคลที่สามได้แล้วเพื่อตรวจสอบการใช้ดุลพินิจ

ด้านนายชัชชาติ ระบุว่า หากเป็นผู้ว่าฯจะเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาคุย และดูข้อเท็จจริงว่าใครผิดถูกและทำตามกฎหมายให้เต็มที่ กฎหมายอะไรต้องปรับปรุงก็ปรับปรุง  เราต้องเอาเคสทั้งหมดมาดู

ส่วนนายสุชัชวีร์ กทม. มีอาคารที่สร้างผิดกฎหมายเยอะ อันดับแรก หัวไม่กระดิกหางไม่ส่าย เราต้องกำชับว่าออกใบอนุญาตผิดกฎหมายต้องผิดวินัยร้ายแรง และอีกหน่อยใครก่อสร้างสามารถตรวจสอบออนไลน์ได้เลย และ กทม. ต้องมีข้อบัญญัติว่าชุมชนต้องสร้างตลาดขนาดใหญ่ไม่ได้  





ปัญหาค่าโดยสารรถสาธารณะแพง


นายปภังกร เขมจิรโชติ ตัวแทนพาวเวอร์พัฟฟ์เดย  ค่าบีทีเอส เอ็มอาร์ที แพง คนรุ่นใหม่เพิ่งได้งาน รายได้ไม่เยอะแต่เจอค่าเดินทางค่อนข้างสูง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สัญญา BTS จะหมดปี 2572 แต่เขาทำสัญญาถึง 2585 ซึ่งเราไปแตะต้องไม่ได้เลย หากอัศวินได้เป็น ตนจะต่อให้อีก 1 ปีใช้บัตรนักศึกษาต่อได้อีกหนึ่งปี

นายชัชชาติกล่าวว่า ผู้ว่าฯต้องมีอำนาจต่อรอง  กทม. ไม่เคยปรับลดลง เพราะสัญญาบอกว่าปรับขึ้นลงได้ตามเงินเฟ้อ   ต้องปรับได้ตามเงินเฟ้อ  ยังมีอีกหลายจุดที่เข้าไปจี้เช่นโฆษณาจ่ายเต็มที่หรือเปล่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้ต่อรองเลย

นายวิโรจน์ระบุว่า หนี้ 37,000 ล้านน่ากลัว หากปล่อยไว้จะเสียอำนาจการต่อรอง วันที่ 2มีนาคม ตนขอให้เปิดร่างสัญญา เคยไปคุยกับกระทรวงคมนาคม ก็บอกว่าไม่เคยมีใครเห็นสัญญา ข้อเสนอจะเป็นจริงเมื่อมีการเปิดเผยสัญญา

นายสุชัชชวีร์ พี่เอ้จะทำอย่างนี้ กทม. สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้  ตั๋วล่วงหน้าจะมาลดราคาให้ได้ แม้ไม่ใช่นักศึกษา ซื้อตั๋วมาต่อรอง




ปัญหาการระบายน้ำ


นายปภังกร ตั้งคำถามเรื่อระบายน้ำโดยระบุว่าตอนนี้เหมือนท่วมง่ายกว่าเมื่อก่อน ซึ่งผู้สมัครทั้ง 4 ได้เสนอนโยบาย

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ทำให้คลองสวยน้ำใส  ส่วนน้ำท่วมต้องลอกท่อ ทำไปป์แจ็กกิ้ง ทำบ่อหน่วงน้ำใต้ดินไป 4 บ่อและต้องทำเพิ่ม 9 จุดที่ซ้ำซาก หากทำเพิ่มเติมก็จะหมดไปได้  “ปัญหาน้ำของ กทม. มี3 ปัญหาคือน้ำเหนือ หน้ำหนุน น้ำฝน ตอนนี้มีแค่ปัญหาน้ำฝน ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต้องทำ  ก่อนตนมาอยู่ ฝนตกระดับ 80 -100 มิลลิเมตรต่อชั่วโฒง  เมื่อก่อน 4-5 ชั่วโมงกว่าจะระบาย ตอนนี้ระบายได้เร็วกว่า”

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ตอนนี้น้ำท่วมง่ายขึ้นเพราะโลกร้อนมีจริง ตอนนี้ตกสั้นๆประมาณ 15 นาที แต่จะตกห่าใหญ่ ถ้าทำแบบเดิมก็แก้ไม่ได้  กทม.เป็นแอ่งกระทะสมบูรณ์แบบ  ในต่างประเทศ น้ำที่ระบายเขาจะทำแก้มลิงใต้ดิน  โดยจะทำแก้มลิงใต้ดินที่สวนจตุจักร    โดยขออนุญาตให้ตนได้ทำเถอะ เพราะแค้นเหมือนกัน

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เรามีอุโมงค์ยักษ์ แต่น้ำไปไม่ถึง อย่างลาดพร้าวถ้าลอกคลองได้อีกเป็นล้านคิว   นอกจากนี้ต้องดูแลเรื่องการก่อสร้างที่เป็นต้นเหตุน้ำท่วม  นอกจากนี้ต้องลอกท่อลอกคลองเพื่อไปอุโมงค์เพราะเส้นเลือดใหญ่มันตีบ  เราต้องทะลวงพวกนี้  ส่วนผู้รับเหมาที่ทิ้งงานเราต้องแบล็กลิสต์

นายวิโรจน์ กล่าวว่า  ตนไปถามชาวบ้านก็ถามว่า เราลอกท่อได้ตามสเปกจริงหรือไม่ หรือเราลอกท่อเปิดบ่อแล้วได้ขี้เลน เราต้องสามารถตรวจสอบได้ เราต้องจัดงบประมาณใหม่  เราต้องแก้ไขกันแบบตรงไปตรงมา    การก่อสร้างที่เศษทรายตกท่อ  กทม.ไม่เคยปรับอะไรเลย ไม่รู้กลัวอะไรนายทุนรถไฟฟ้านักหนา





ปัญหาความปลอดภัยบนทางเท้า


นายอิศรา ราษฎร์ทองหลาง บูม ที่ถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนบนทางเท้า กล่าวว่า ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ยังมีรถวิ่งบนทางเท้าอยู่  ซึ่งว่าที่ผู้ว่าฯกทม. จะแก้ปัญหาอย่างไร

นายชัชชาติ ระบุว่า เรื่องนี้รับไม่ได้ ดังนั้นต้องมี CCTV ช่วยจับ และมีการลงโทษที่รุนแรง เทศกิจแทนที่จะจับแม่ค้าต้องมาเป็นผู้ช่วยตำรวจ จับมอเตอร์ไซค์บนฟุตบาธ แทนที่จะจับแม่ค้า

ส่วนทางม้าลายต้องทำทันที ต้องปรับความเร็วลด กทม. ต้องปรับให้เหลือ 50 กม .ต่อชั่วโมง  ซึ่งทำได้ทันทีและไม่ต้องใช้เงิน แต่ไม่ใช่เรื่องซาลงและกลับมาเหมือนเดิม

ขณะที่เรื่องสะพานลอยที่คนเฒ่าคนแก่ คนพิการขึ้นไม่ได้ หากจำเป็นจะมีต้องมีลิฟท์ รถต้องเรียนรู้จะอยู่กับคน คนต้องได้สิทธิก่อน  เป็นแค่การเอาใจใส่

นายสุชัชชวีร์ กล่าวว่า กล้อง CCTV ต้องเป็นไวไฟ 24ชั่วโมง  มอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่ได้ขึ้นครั้งแรกเพราะเขาไม่กลัว  ทั้งนี้ก็เพราะกล้องไม่มี  รู้หรือไม่ว่าในกทม. มีใบสั่งล้านกว่าใบเก็บได้ 3 แสนใบ เพราะฐานข้อมูลไม่เชื่อมกัน ที่อยากทำคือ อยากเอาเทคโนมาบังคับใช้กฎหมาย ระบบต้องเชื่อมโยงกัน  

“ทางม้าลายใน กทม. ไม่เคยศักดิ์สิทธิ์ ไม่หยุดก็ไม่เคยมีใครจับ  ดังนั้นหากทำผิดกล้องต้องนำไปปรับอย่างรุนแรง ทีเดียวเข็ดอย่างนี้กล้องจะศักดิ์สิทธิ์ “

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยเรื่องการเชื่อมใบสั่ง วันนี้กล้องไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน หากเราเป็นคนรวย คนมีสี สามารถขอได้แป๊บเดียว กทม. ต้องประกาศว่า กล้อง 46,000 ตัว ต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนให้ได้  หลายครั้งคนที่ทำร้ายหลายครั้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกล้องไม่เคยใช้ได้เลย หากเจ้าหน้าที่รัฐตกเป็นผู้ต้องสงสัยกล้องจะบังเอิญเสียทุกครั้ง เราต้องให้ความเป็นธรรมให้ได้ ในเรื่องการบังคับใช้ เป็นเรื่องสำคัญ ตนเกือบถูกรถเฉี่ยวบนทางม้าลาย ตำรวจถามว่ารถทะเบียนอะไร จะถูกรถชนตนต้องมาจำทะเบียนหรือ

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า   เรื่องค่าปรับตนทำหนังสือถึงกรมขนส่งทางบกว่าใครไม่เสียค่าปรับ ไม่ต่อทะเบียนได้ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าทำไม่ได้ ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด เราก็ปรับกล้องให้ทันสมัย โดยตอนนี้ทำไป 70% ขณะที่ส่วนที่ไปขอดูกล้องวงจรปิดแล้วไม่มี ก็ยอมรับว่ามีปัจจัยแทรกซ้อนอื่นๆ  แต่มันต้องแก้  คนอยากจะให้เสีย จะมาทำให้เสียก่อนจะรู้ได้ไง






คุณอาจสนใจ

Related News