คลิปเดือด! ลูกเศรษฐี 8 คน รุมซ้อมชายพลเมืองดี เข้าใจผิดถูกเตือนทิ้งทิชชูบนถนน

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 65 พ.ต.ท.อภิชาต ลุงคะ สารวัตรเวรสภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวัยรุ่นทะเลาะวิวาทบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้าร้านน้ำพริกกุ้งแม่จันทร์ดี สาขา 2 ซึ่งมีนางเจี๊ยบ อายุ 71ปี เป็นเจ้าของร้าน จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบชายวัยรุ่นทาง 8 คน กำลังรุมซ้อมชายอีกคนหนึ่งบริเวณหน้าศูนย์โอทอปมาจนถึงแยกไฟแดง และวิ่งหนีไปที่ร้านน้ำพริกกุ้งแม่จันทร์ดี



ฝ่ายที่มากกว่าจึงตามไปทุบตีกันอีกโดยมีหนึ่งใน 8 คนพยายามใช้เก้าอี้พาสติกสีแดงฟาดเป็นระยะๆ โดยฝ่ายชายคนเดียวเสียเปรียบแทบจะไม่ได้ตอบโต้ใดๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง จึงควบคุมตัวไว้ทั้งหมด และนำผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกรุมชื่อ นายอาชวิน เจริญวานิจกุล อายุ 40 ปี เป็นชาว อ.แม่ระมาด ส่งโรงพยาบาลแม่สอด พร้อมกับผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกันอีกเป็นคู่กรณีชื่อนายธนพงษ์ รู้คงประเสริฐ อายุ 26 ปี ในระหว่างเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนนับ 10 นายต้องไปห้ามปราม



จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอาชวิน และนายธนพงษ์ ต่างขับรถยนต์ไปชะลอที่สี่แยกไฟแดง เพื่อรอสัญญาณไฟเขียว และขณะรอนั้น นายสรณ์เห็นนายธนพงษ์ทิ้งกระดาษทิชชูลงบนถนน โดยเข้าใจว่านายธนพงษ์เป็นชาวจีน จึงใช้ภาษาอังกฤษคำง่ายๆ ว่าให้เก็บขยะที่ทิ้งลงไป ทำให้นายธนพงษ์ไม่พอใจ เพราะเห็นว่าพูดจาไม่สุภาพ พอไฟสัญญาณไฟเขียว รถจึงผ่านแยกไฟแดงไปหน่อย ทางนายธนพงษ์ ลงมาพูดจาเพื่อเคลียร์จึงเกิดการทะเลาะกัน และเกิดการชกต่อยกันขึ้น ต่อมา ต่อมานายธนพงษ์รีบโทรหาเพื่อนๆ ที่ไปร่วมงานศพด้วยกันจากสุสานวัดดอนแก้วใกล้จุดเกิดเหตุออกมารุมทำร้ายนายอาชวิน ข้างถนน และตามกันไปรุมชกนายอาชวินที่ร้านอาหารอีก



นางจันทร์ดี กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายไล่ตีกันมาจากข้างนอก รู้สึกตกใจมาก ห้ามก็ไม่ฟัง รุมกันต่อยเป็น10 อีกคนเลือดออกเต็มตัว เท่าที่สอบถามสาเหตุทราบว่า อีกฝ่ายไปทิ้งกระดาษทิชชู คิดว่าทางชายคนเดียวเข้าใจว่า เป็นคนจีน จึงใช้ภาษาอังกฤษให้เก็บขยะ จนเข้าใจว่าพูดจาไม่เพาะ อีกฝ่ายที่มากกว่า ก็ชกไปสั่งสอนไป ให้พูดจาดีๆ ในระหว่างเกิดเหตุพยายามขอให้เพื่อนบ้านโทรแจ้งตำรวจ นอกจากนี้ตนเองยังบอกว่า ทำไมคนหมู่มากไปรุมคน คนเดียวแบบนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย อีกฝ่ายบอกว่า ให้ตนเองอยู่เฉยๆ จะรับผิดชอบค่าเสียในร้านเอง ถ้าอีกฝ่ายที่ถูกรุมมีเพื่อนอีก 2-3 คน ร้านตนเองพังแน่



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้สั่งให้หน่วยกู้ภัยรับคนเจ็บไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ไปดูเเลความสงบเรียบร้อย ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอด เพื่อป้องกันการเกิดการทะเลาะเพิ่มเติม