โครงการนักสืบ 5G ฝึกพิเศษตำรวจ รับมืออาชญากรรมออนไลน์พุ่ง

คดีทางออนไลน์ ซึ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น และเข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สวนทางกับการสืบสวนจับกุม ที่เข้าถึงตัวคนร้ายได้ยาก ทำให้คนร้ายแอบแฝงอยู่ในโลกออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีในการหลอกลวงเหยื่อได้ทั่วทุกมุมโลก ตำรวจจึงต้องเพิ่มศักยภาพในการติดตามจับกุมให้เท่าทันกับคนร้าย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ตั้งโครงการนักสืบ 5G หรือหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษรุ่นแรก เพื่อรองรับคดีอาชญากรรมรูปแบบใหม่



หลังจากพบผู้เสียหายที่ไปแจ้งความในคดีแก๊งคอลเซนเตอร์หรือฉ้อโกงออนไลน์ มักได้คำตอบจากพนักงานสอบสวนว่าเป็นคดีเฉพาะ จับคนร้ายยาก ทำให้คดีฉ้อโกงทางออนไลน์ เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคนร้าย คนฉ้อโกงก็มากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งคนร้ายแฝงอยู่ทั่วมุมโลก ไม่มีท้องที่เกิดเหตุ และการเข้าถึงตัวคนร้าย และตัวการใหญ่ ทำได้ยาก เพราะมีความสลับซับซ้อน การติดอาวุธให้กับตำรวจ จับคนร้ายได้ทันการณ์ จึงเป็นสิ่งที่ตำรวจต้องรับมือให้ทัน



ก่อนหน้านี้ตำรวจไทย และตำรวจกัมพูชา รวม 50 คน ร่วมฝึกยุทธวิธีการรับมือกับปัญหาภัยคุกคามไร้พรมแดน และอาชญการรมข้ามชาติ จึงต้องประสานงานในการกวาดล้างองค์กรอาชญากรรมร่วมกัน เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงในการก่อเหตุ นอกจากการเพิ่มศักยกภาพกับตำรวจกัมพูชาแล้ว การพัฒนาศักยภาพให้ตำรวจจบใหม่ก็สำคัญ



โครงการหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษ 5 G จึงเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มทักษะให้เจ้าหน้าที่สืบสวน คัดเลือกตำรวจระดับรองสารวัตร จำนวน 42 คนจากทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการฝึกฝน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม จนถึงปัจจุบัน ที่อยู่ระหว่างศึกษางานอาชญากรรมทางออนไลน์ของหน่วย FBI สหรัฐอเมริกา โดยมีผู้อำนวยการหลักสูตร เป็นพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอน



นักเรียนหลักสูตรนักสืบ 5 จี ต้องเรียนรู้อย่างเข้มข้น โดยมีครูต้นแบบ มาจาก 30 นักสืบหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นแรกเมือ่กว่า 20 ปี ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำคดีสืบสวนชั้นครู รวมทั้งครูฝึกจากอดีตตำรวจ มือสืบสวนในอดีต และปัจจุบัน



การฝึกฝนมีทั้งภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติ ซึ่งจะเน้นอาชญากรรมยุคใหม่ เพื่อให้เท่าทันคนร้าย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการหลักสูตร กล่าวว่า หลักสูตรนี้เปรียบเสมือนจบ ป.4 เท่านั้น จะต้องเพิ่มเติมความรู้ระหว่างการทำงาน อนาคตในการเป็นนักสืบ 5 จี ต้องเป็นนักสืบที่ต้องหาความถนัดของตัวเอง



จากสถิติคดีออนไลน์ ที่เพิ่มสูงขึ้น มีผู้เสียหายแจ้งความมากกว่า 4,600 คน มากที่สุดเป็นเรื่องการถูกหลอกโอนเงิน 3,737 เรื่อง ส่วนการจับกุมชาวจีนนายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ จับแล้ว 4 คนร่วมกับหมายจับคนไทยอีก 61 คน