ภาคเอกชน แนะสังเกตอาการต่อแม้ผล ATK เป็นลบ ป้องกันคลัสเตอร์หลังสงกรานต์

ไทยเคยมีบทเรียนแล้วหลายครั้งจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มักกลับมาเพิ่มสูงในช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอแนวทางควบคุมการแพร่ระบาด ด้วยการเพิ่มมาตรการสังเกตอาการแม้ผลตรวจ ATK เป็นลบก็ตาม เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์จนลามไปสู่สถานการณ์เลวร้าย ตามที่สุดกรมควบคุมโรคได้คาดการณ์ไว้ว่า คือ ไทยอาจมีผู้ติดเชื้อกลับมาสูงถึงกว่า 1 แสนคนต่อวัน 

ความกังวลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงแรงงานกว่า 6 ล้านคน ที่อาจเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จนหวั่นใจว่า อาจเกิดคลัสเตอร์หลายกลุ่มได้หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดซ้ำเหมือนบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคคาดการณ์ฉากทัศน์การแพร่ระบาดไว้ 3 แนวทาง ภายในวันที่ 19 เมษายนนี้ คือ หากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด จากการย่อหย่อนมาตรการในกราฟเส้นสีแดง ก็อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงถึงกว่า 1 แสนคนต่อวัน และอาจมีผู้ป่วยอักเสบมากถึง 6,000 คนต่อวัน ส่วนผู้เสียชีวิต 250 คนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุขณะนี้ไทยอยู่อยู่ในฉากทัศน์ที่ 3 คือ มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 20,000 คนต่อวัน ซึ่งจากการประมาณการณ์คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับฉากทัศน์ที่ 2 แต่ก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้นไปอยู่ระหว่างเส้นสีแดงและสีเหลืองได้ระหว่างฉากทัศน์ที่ 1 และ 2

รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เสนอมาตรการรักเพื่อนอย่าเอาโควิดกลับมาฝาก เป็นแนวทางปฏิบัติตัวก่อนกลับมาทำงาน คือ ตรวจเอทีเค 1 วัน ล่วงหน้า หากมีอาการที่คล้ายกับโควิด-19 ร่วม ก็ให้หยุดต่ออีกอย่างน้อย 2 วัน เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดคลัสเตอร์ และควรใช้ชุดตรวจรายบุคคล ห้ามใช้ชุดตรวจแบบรวม

ดังนั้นทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ก็สามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ในการปฏิบัติได้ ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังกลับจากภูมิลำเนา เพื่อร่วมกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว