รัสเซียโจมตียูเครนหลายเมืองต่อเนื่อง อียู-สหรัฐฯ ยกระดับคว่ำบาตรรัสเซีย

สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังตึงเครียด กองกำลังของรัสเซีย ยังเปิดฉากโจมตีหลายเมืองของยูเครน อย่างที่เมืองวาซิลคีฟ ที่อยู่ทางตอนใต้ของกรุงเคียฟ มีรายงานว่ากองทัพรัสเซีย ยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศ เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.65) จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก การโจมตีดังกล่าว ยังทำให้รันเวย์ คลังเก็บอาวุธ และคลังน้ำมัน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก


ส่วนเมืองอื่น ๆ ในยูเครน อย่างเมืองเชอร์นิกอฟ ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ถูกขีปนาวุธโจมตีอย่างหนักเช่นกัน ส่งผลให้ระบบประปาพังเสียหายทั้งหมด ส่วนไฟฟ้ามีใช้แค่บางที่เท่านั้น ผู้ว่าการเมืองเชอร์นิกอฟ กล่าวผ่านวิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลว่า กองกำลังของรัสเซียมุ่งเป้าหมายการโจมตีไปยังบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน มีพลเมืองจำนวนมากเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ


ส่วนที่เมืองวอลโนวากา ทางตะวันออกของประเทศ การสู้รบกันระหว่างกองทัพยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและถนนหนทางพังเสียหายอย่างหนัก ที่น่าสลดคือ พบร่างของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งนอนอยู่บนพื้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ


ขณะที่เมืองมาริอูโปล เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่มัสยิด ที่มีประชาชนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลบภัยอยู่กว่า 80 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต


ทางการยูเครน ยังเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่ทหารของรัสเซียจับกุมตัวนายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล หลังกองทัพรัสเซียบุกยึดเมืองได้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนตำหนิว่า รัสเซียกำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการลักพาตัวนายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล ขณะที่ทางการรัสเซียยังไม่เปิดเผยรายละเอียดและชะตากรรมของนายกเทศมนตรีเมืองเมลิโตปอล


ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ใกล้กับกรุงเคียฟ เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้น โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีรายงานว่าเกิดการสู้รบกันอย่างหนัก เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นเป็นระยะ ๆ


ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า สงครามกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนทางยุทธศาสตร์ กองกำลังรัสเซียระดมโจมตีกรุงเคียฟ ครั้งใหม่ และอาจมีแผนจะเข้ายึดกรุงเคียฟภายในเวลาไม่กี่วันนี้


ขณะที่ สหภาพยุโรป ประกาศยกระดับมาตรการคว่ำบาตร โดยจะหยุดทำการค้ากับรัสเซีย, ปราบปรามทรัพย์สินดิจิทัล รวมถึงห้ามการส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือยจากสหภาพยุโรปไปรัสเซีย และระงับการนำเข้าเหล็กจากรัสเซีย โดยมาตรการดังกล่าวนับเป็นการคว่ำบาตรชุดที่ 4 เพื่อตอบโต้รัสเซียที่รุกรานยูเครน โดยสหภาพยุโรปจะทำให้รัสเซียต้องโดดเดี่ยวมากขึ้น และทำลายแหล่งทรัพยากรที่ใช้เพื่อสนับสนุนสงครามนี้ นอกจากนี้ ยุโรปยังจะหาทางเพื่อระงับสิทธิ์ของการเป็นสมาชิกของรัสเซียในสถาบันพหุพาคีต่าง ๆ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก


ขณะที่ สหรัฐอเมริกา ก็ประกาศแบนการส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือยไปยังรัสเซีย และเบลารุส โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในทันที พร้อมจะเดินหน้าคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซียให้มากขึ้นอีก แต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยืนยันว่า สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อรบกับรัสเซีย แต่จะปกป้องประเทศสมาชิกนาโต้ และบอกว่า นาโต้จะให้การสนับสนุนยูเครนทุกอย่าง แต่จะไม่ส่งกองกำลังเข้าไป เพราะการเผชิญหน้าระหว่างนาโต้กับรัสเซียโดยตรง นั่นหมายความว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เกิดขึ้นแล้ว


ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส และนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย อีกครั้ง หลังจากที่เคยหารือไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม โดยผู้นำทั้งสองชาติได้ขอให้รัสเซียหยุดยิงในทันที