สังคม

ผึ้งหลวงนับล้านทำรังในวัดเขาแก้ว เจ้าอาวาสเผยเรื่องเล่า ใครยุ่งต้องมีอันเป็นไป

โดย panwilai_c

12 มี.ค. 2565

1.5K views

ผึ้งหลวงนับล้านตัวบินมาทำรังอยู่บนหน้าผาภายในวัดเขาแก้ว เจ้าอาวาสเผยเรื่องเล่าเกี่ยวกับอาถรรพ์รังผึ้ง เคยมีคนขึ้นไปเก็บน้ำผึ้งแล้วพลัดตกลงมาเสียชีวิต บางคนก็พิการ หรือมีอันเป็นไป จนทุกวันนี้ไม่มีใครกล้าปีนขึ้นไปเก็บน้ำผึ้งอีก



ผึ้งหลวงนับล้านตัวบินมาทำรังอยู่บนหน้าผาภายในวัดเขาแก้ว ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรังมานานกว่า 30-40 ปี เคยมีคนขึ้นไปเก็บน้ำผึ้งแล้วพลัดตกลงมาเสียชีวิต บางคนก็พิการหรือมีอันเป็นไป จนทุกวันนี้ไม่มีใครกล้าปีนขึ้นไปเก็บน้ำผึ้ง ด้านเจ้าอาวาสเผย เป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมา ส่วนตนเชื่อว่าใครทำอะไรที่ไม่เหมาะสมในวัดก็จะเป็นแบบนี้



วันนี้ 12 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเขาแก้ว ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง พบฝูงผึ้งหลวงนับล้านตัวบินกลับมาทำรังอยู่บนหน้าผานับสิบรัง ความสูงจากพื้นดินประมาณ 7-8 เมตร ซึ่งแต่ละรังมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน โดยเจ้าอาวาสวัดเขาแก้วบอกว่า ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี จะมีฝูงผึ้งหลวงบินมาทำรังบนหน้าผา เพื่อให้ชาวบ้านได้เห็นกันทุกปี โดยเป็นแบบนี้มานานหลายสิบปีแล้ว เมื่อผ่านพ้นเดือนเมษายน ผึ้งหลวงฝูงนี้ก็จะทิ้งรัง เนื่องจากตัวอ่อนโตเต็มวัยและเป็นผึ้งที่บินออกหากินได้แล้ว



จนครบขวบปี ผึ้งหลวงก็จะบินกลับมาทำรังใหม่อีกครั้ง โดยความชาญฉลาดของผึ้งก็จะทำรังด้านทิศตะวันตก เมื่อหลบแสงแดดจัดในช่วงเช้าและบ่าย ซึ่งผึ้งที่วัดนี้มีเรื่องเล่ากันว่า เคยมีคนมาขโมยตัดรังผึ้ง เพื่อเอาน้ำผึ้งไปขาย แต่พลัดตกลงมาตาย หรือไม่ก็พิการและเกิดอุบัติเหตุ หรือมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา ทำให้ชาวบ้านร่ำลือกันปากต่อปาก จนไม่มีใครกล้าเข้ามาแตะต้องรังผึ้งในวัดเขาแก้วอีกเลย ทำให้ผึ้งอยู่กันอย่างสงบสุข และบินกลับมาทำรังให้เห็นทุกปี



โดยเจ้าอาวาสมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากปัจจุบันรังผึ้งหลวงตามธรรมชาติหาดูได้ยากและพบทำรังขนาดใหญ่ตามฤดูกาลเท่านั้น โดยจะพบมากในป่าลึก แต่ที่วัดเขาแก้ว อยู่ห่างจากถนนทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร จึงทำให้พบเห็นได้ง่าย ซึ่งก็ง่ายต่อการลักขโมยด้วย แต่ก็ไม่มีใครกล้า ทำให้ในช่วงนี้ของทุกปี มีเด็ก ๆ และเยาวชนเข้ามาดูรังผึ้งกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อศึกษาเรียนรู้เชิงอนุรักษ์ ซึ่งบนหน้าผาวัดเขาแก้วยังมีหินรูปร่างคล้ายหอยขนาดใหญ่อยู่บนหน้าผาด้วย



ด้านพระครูศรีรัตนาภิวุฒิ เจ้าของอาวาสวัดเขาแก้ว กล่าวว่า เท่าที่ตนจำได้ ตนมาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2548 เข้าปีที่ 17 แล้ว ทุกครั้งเวลาเดินไปด้านทิศตะวันตกก็จะเห็นรังผึ้งเป็นสิบ ๆ รังหรือมากกว่านี้ จนปัจจุบันทางวัดและญาติโยมก็ไม่เคยคิดทำร้ายเขา อยากให้เป็นไปตามกฎธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาที่เขาจะกลายเป็นตัวอ่อนกลายเป็นตัวผึ้งต่อไปก็ขอให้เป็นแบบนั้น เคยมีคนถามตนว่า ทำไมไม่เก็บน้ำผึ้งเอาไว้ ตนมองว่าไม่เหมาะสมเพราะวัดเป็นเขตอภัยทาน ก็เลยไม่ไปเบียดเบียนเขา จึงอยากให้ทุกคนที่เข้ามาที่วัดอยากให้เห็นว่ามีรังผึ้งนะ ตัวเป็นแบบนี้ รังเป็นแบบนี้ แต่ถ้าเก็บจริง ๆ จะได้ไม่ต่ำกว่า 20 ขวด เพราะรังผึ้งบางรังใหญ่มากโดยผึ้งจะเริ่มทำรังในช่วงมกราคมหลังเดือนเมษายนก็จะไป



ส่วนข้อถามที่ว่ามีเรื่องเล่าว่า คนขึ้นมาขโมยรังผึ้งจะมีอันเป็นไปนั้น เป็นเรื่องที่ชาวบ้านเขาพูดกัน ส่วนตนถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่อันตรายเพราะว่ามันอยู่บนหน้าผา หากไม่ชำนาญในการจับผึ้งก็อันตราย อีกส่วนหนึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลว่า ในวัดในวาหากทำอะไรที่ไม่เหมาะสมขึ้นมามันก็จะเป็นแบบนี้

คุณอาจสนใจ

Related News