เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 มี.ค.65 ส.ส.บินหาทักษิณที่สิงคโปร์-พิธีไว้อาลัยแตงโม-ปิดตำนานสรพงศ์ ชาตรี

-สิ้น สรพงศ์ ชาตรี พระเอกตลอดกาล ด้วยวัย 73 ปี เมื่อเวลา 15.51 น.หลังเข้ารับการรักษาป่วยมะเร็งในปอด ดารา – นักแสดงร่วมโพสต์อาลัย กับการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิง ด้าน ขวัญ พิมพ์อัปสร ลูกสาวสรพงศ์ โพสต์ไอจีเศร้า ภาพขาวดำจับมือพ่อแน่น

-ทนายแม่แตงโม ขอตำรวจดูสำนวนคดี ตั้ง 4 ประเด็นสงสัย คลี่ปมตกเรือ เผยคาใจบาดแผล – คราบเลือด เผยได้แนวคำถามจากหมอพรทิพย์ ด้านทนายเดชา เผยเป็นกุนซือให้ทนายแม่ มั่นใจ 4 คำถามนี้ทำคดีเปลี่ยนได้

-ทนายจากอุดรธานี แฉหมายจับทนายแม่แตงโม ตั้งแต่ปี 61 เหตุยืมเงิน 2 หมื่นแล้วจ่ายเช็คเด้ง ชี้ยังมีมลทิน อยากให้เคลียร์คดีนี้ ให้จบแล้วค่อยว่าความคดีแตงโม ด้านเต้ มงคลกิตติ์ พร้อมใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกันตัว “ทนายกฤษณะ” หากโดนจับจริง

-คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ จัดเตรียมจัดพิธีไว้อาลัยแตงโม ตามคอนเซ็ปต์เอ ศุภชัย เนรมิตชั้นจัดงานด้วยผ้าม่านให้เหมือนอยู่สวรรค์ โบ ทีเค เผยที่นั่งเต็มทั้ง 3 วัน พร้อมเปิดช่องทางออนไลน์ในร่วมไว้อาลัย ส่วนกลุ่มคนบนเรือทั้ง 5 คน จะมาร่วมงานก็เป็นสิทธิ์ของเขา”

-หนุมานกองปราบฯ ลงพื้นที่พัทลุง ใช้เฮลิคอปเตอร์บินปิดล้อมป่า ล่าฉุย เขาจันทร์ พร้อมพวก แก๊งมือปืนปะทะเดือดยิง M16 ใส่ ดาบตำรวจกองปราบฯ ดับ สตช.เตรียม ปูนบำเหน็จ 5 ขั้น 4 ชั้นยศเลื่อนเป็น พันตำรวจตรี

-โจรแสบทำทีเข้าจับตุ๊กแกที่บ้านครูสาว สบโอกาส วางยาเบื่อหมา ปีนเครื่องซักผ้าลักตัดเสาไม้พะยูงไป 2 ต้น เหลือโครงกันสาดไว้ให้ดูต่างหน้า จนเข้าของบ้านต้องเอาเสาไม้มาค้ำไว้ เพื่อไม่ให้หลังคาหักโค่นถล่มลงมา

-รวบชายเร่ร่อนล่อลวงเด็กกัมพูชา วัย 6 ขวบ ตระเวนขอทานทั่วกรุง เจ้าตัวสารภาพได้เงินวันละ 100 บาท เน้นแหล่งชุมชน หรือ ตามแนวสถานีรถไฟฟ้า ด้านมูลนิธีกระจกเงา เผยไม่ใช่ขบวนการลักเด็ก แต่ผู้ก่อเหตุคนนี้มีปัญหาทางจิต ก่อเหตุมาแล้วถึง 8 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่เป็นคดีความ เพราะผู้ปกครองไม่ติดใจ เห็นว่าสติไม่ดี

-คนใช้รถร้องจ๊าก น้ำมันเชลล์ วี เพาเวอร์ ราคา 2 ลิตรร้อย วินมอเตอร์ไซค์ช็อก 2 วันขึ้นลิตรละเกือบ 2 บาท สภาอุตฯ คาด วิกฤตพลังงาน ทำสินค้าทยอยพาเหรดขึ้นราคาภายใน 3 – 6 เดือนนี้ ส่วนเนื้อหมูอั้นไม่ไหว กลับมาแพงอีกรอบ ขึ้นราคาทันที 8 บาท เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งไม่หยุด

เรื่องเล่าการเมือง

-จากปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ในส่วนของไทยเรื่องนี้ฝ่ายต่างๆกำลังพุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาของรัฐบาล ล่าสุดมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงขั้นว่าน้ำมันไทยราคาแพงสุดในโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดมาตรการ ทำให้ประชาชนได้รับกระทบน้อยที่สุด และย้ำว่า ปัญหาราคาน้ำมันแพง เป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศกำลังเผชิญ ไม่มีประเทศไหนหลีกเลี่ยงได้

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า น้ำมันไทยแพงที่สุดในภูมิภาคหรือในโลก นั้น โฆษกรัฐบาล มองว่าเป็นการบิดเบือน หวังให้ประชาชนเข้าใจผิด ทั้งที่ในอดีต ไทยเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันแพงมาแล้วหลายครั้ง และยืนยันว่า ราคาน้ำมันขายปลีกของไทย ปัจจุบันยังมีราคาต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการรับมือของรัฐบาลกับวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่าหากคิดเป็นคะแนน รัฐบาลได้เพียง 0 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10

เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี ขาดความเข้าใจถึงผลกระทบที่ประชาชนได้รับ พร้อมเรียกร้องให้เร่งหามาตรการ ช่วยเหลือ เช่นการอุดหนุนสินค้า ลดภาระค่าคลองชีพ หรืออุดหนุนระบบสาธารณะให้ประชาชนใช้บริการได้ฟรี

-ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มพรรคเล็ก ที่นัดรับประทานอาหารร่วมกัน โดยมีการจับตาว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเข้าร่วมหรือไม่

การรับประทานอาหารในวันนี้ จัดขึ้นที่โรงแรมโกลเดน ทิวลิป พระราม 9 แน่นอนว่าถูกตั้งข้อสังเกต เป็นการแสดงพลังทางการเมืองหรือไม่ เพราะเกิดขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนายกรัฐมนตรี ได้สังสรรค์กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนหน้านี้

โดย นายพีระวิทย์ เลื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ยืนยันว่าการรับประทานดังกล่าว ไม่ใช่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย เป็นคนนัดหมาย แต่เป็นการแจ้งล่วงหน้ากันในกลุ่มอยู่แล้ว เพื่อหารือเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะมีกลุ่มพรรคเล็ก 7-8 พรรคประมาณ 10 คนเข้าร่วม

ส่วนกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส จะเข้าร่วมด้วยนั้น นายพีระวิทย์ ยอมรับว่า ได้โทรศัพท์มาสอบถาม แต่ไม่ได้รับปากว่าจะเดินทางมา แต่ส่วนตัวเชื่อเกิน 80%ว่า ร.อ.ธรรมนัสจะมารับประทานอาหารกับพรรคเล็กด้วย

ด้านนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ยืนยันว่าการนัดรับประทานอาหารครั้งนี้ ไม่มีเรื่องกล้วยหรือต่อรองใดๆ เพราะเรายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้ในช่วงเช้า ร.อ.ธรรมนัส มีกำหนดลงพื้นที่ไปพบปะประชาชน เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมมอบถุงยังชีพ ที่ลานกีฬาชุมชนดอนกุศลร่วมใจ เขตสาทร ซึ่งถือเป็นพื้นที่จุดที่ 2 ของกทม. ต่อเนื่องจากคลองเตย ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกในนามพรรคเศรษฐกิจไทย

-การพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง เมื่อวานนี้ มีการเสนอไอเดีย แก้ปัญหาซื้อเสียง โดยให้ยกเลิกเอาผิดกับคนที่ขายเสียง เพื่อเปิดโอกาสการแจ้งเบาะแสมากขึ้น

ที่อาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ นายวสันต์ มีวงศ์ รองหัวหน้าฝ่ายการเมือง พรรคไทยภักดียื่นหนังสือต่อกรรมาธิการพิจารณากฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง เสนอให้มีการแก้ไข กฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง 3 ประเด็น

ประเด็นแรก เรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยภักดี เสนอให้คำนวณ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ปี2560 ที่ทุกคะแนนเสียงของประชาชนไม่ เสียเปล่า คะแนนที่แพ้เลือกตั้งยังมีความหมาย

ประเด็นที่สอง เรื่องซื้อสิทธิ์ขายเสียง เสนอให้ไม่คนที่รับเงินซื้อเสียง ไม่ต้องมีความผิด เพื่อเปิดทางให้คนรับเงินแจ้งเบาะแส นำไปสู่การจับกุมคนซื้อเสียงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนไม่กล้าแจ้งเบาะแส เพราะกลัวมีความผิด

และประเด็นที่สาม ให้พรรคการเมืองใช้ระบบเงินดิจิตอลบาท ในค่าใช้จ่ายในการหาเสียง และให้มีการโอนเงินจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารเท่านั้น ห้ามไม่ให้จ่ายด้วยเงินสด เพื่อให้การเลือกตั้งมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

เรื่องนี้ในมุมของพรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แสดงความไม่เห็นด้วย กับ ข้อเสนอที่จะให้ยกเลิกความผิดของคนรับเงินซื้อเสียง มองว่าขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง

ซึ่งการกำหนดโทษไว้ จะเป็นการป้องปราบไม่ให้คนตัดสินใจรับเงินผิดกฎหมาย แต่หากจำเป็นต้องรับเงินจริงๆ คนรับเงินสามารถแจ้งเบาะแสเพื่อกันไว้เป็นพยานได้ ดังนั้นการยกเลิกโทษยิ่งเป็นการเปิดช่องของการทำผิด และไม่มีอะไรมาการันตีว่าเมื่อไม่มีโทษแล้ว คนที่รับเงินจะยอมมาแจ้งเบาะแส ต่อ เจ้าหน้าที่มากขึ้น

-ปรากฎภาพของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย บินไปพบกับ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ประเทศสิงคโปร์ ล่าสุดเรื่องนี้ คุณสนธิญา สวัสดี เตรียมร้องสอบจริยธรรม ต่อ ป.ป.ช.

โดย นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าเตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง กับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนเกือบ 10 คน กรณีปรากฎภาพเดินทางไปพบกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีในต่างประเทศ

ขณะที่ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรณีภาพดังกล่าว ว่า ตนและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคอีสานประมาณ 10 คน พร้อมภรรยา เดินทางไปพักผ่อน และระหว่างรับประทานอาหารตามที่คณะทัวร์จัดให้ ซึ่งได้พบกับ นายทักษิณ ที่ไปพร้อมกับน้องชายที่ห้องอาหารแห่งนั้นโดยบังเอิญ จึงมีโอกาสคุยกันเรื่องทั่วไป เพราะนานๆ จะเจอกัน พร้อมยืนยัน ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/tL6O_iO4Ks8