'ไทยภักดี' ยื่นหนังสือ กมธ.แก้กฎหมายลูก ปรับผู้รับเงินซื้อเสียงไม่ผิด

'ไทยภักดี' ยื่นหนังสือ กมธ.กฎหมายลูก แนะ 3 ข้อเสนอ เจตนารมย์รธน. - ปรับผู้รับเงินซื้อเสียงไม่ผิด-ใช้ระบบดิจิทัลบาท ด้านนิกร รับหารือที่ประชุมต่อไป

ที่รัฐสภา เวลา 9.30 น. นายวสันต์ มีวงศ์ รองหัวหน้าฝ่ายการเมือง พรรคไทยภักดี นำหนังสือยื่นต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่…) พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ. ….


โดยนายวสันต์ เปิดเผยว่า พรรคไทยภักดีมีความห่วงใยคณะกรรมาธิการในการพิจารณากฎหมายลูก อยากให้มีการแปรญัตติเพิ่มเติม 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่อง พรรคไทยภักดีขอย้ำว่าเจตนารมย์แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ได้บัญญัติให้การดำเนินการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและรวมทั้งวิธีการคำนวณ เพื่อหาสัดส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ต้องยึดหลักการที่ว่าคะแนนเสียงของประชาชนทุกคะแนนมีความหมายต่อผลการเลือกตั้ง ทุกคะแนนต้องไม่สูญเปล่า ไม่ตกน้ำ


ประเด็นที่ 2 เป็นเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งต้องให้คนที่รับเงินจากการซื้อเสียง ไม่มีความผิด และสนับสนุนให้มีการชี้เบาะแสจนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ให้เงิน ที่ผ่านมาทั้งคนซื้อเสียงและคนรับเงินมีความผิดด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ไม่สามารถตัดวงจรการซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้


และประเด็นสุดท้ายเป็นข้อเสนอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาระบบ “ดิจิตอลบาท” ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณช่วงหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผ่านการโอนจากแอพพลิเคชั่นของธนาคารเท่านั้น โดยห้ามไม่ให้จ่ายเงินสดเด็ดขาด เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสตรวจสอบได้และยังเป็นการแสดงถึงความเท่าเทียมในการจ่ายงบประมาณของผู้สมัคร


ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขากรรมาธิการฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ ระบุว่าประเด็นแรกเรื่องการคำนวณสัดส่วน ส.ส. ถือเป็นประเด็นใหญ่ ซึ่งมีผู้แปรญัตติอยู่แล้ว ส่วนประเด็นการปรับให้ผู้รับเงินไม่มีความผิด ตนจะนำเรียนในที่ประชุมต่อไป และประเด็นระบบดิจิตอลบาท ต้องไปหารือกับตัวแทนพรรคการเมืองก่อน ที่สำคัญ ไม่สามารถนำมาหารือใน กมธ. เนื่องจากไม่มีหลักการ แต่การประชุมมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. อยู่ด้วย ตนจะนำข้อเสนอนี้ไปหารือต่อไป