ข้าวยาก หมากแพง สาวใจบุญควักเงินช่วยคุณตาวัย 80 ปี

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 19 ก.พ.65 น.ส.กมลชนก ศรีมงคล อายุ 32 ปี สาวผู้ใจบุญ อาชีพธุรกิจส่วนตัว เล่าว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาตนได้มาเดินชื้อของที่ตลาดบางบัวทอง ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในขณะที่ตนจอดรถและจะเดินเข้าตลาด ซึ่งในขณะที่ตนเดินอยู่ได้สังเกตุเห็นคุณตา อายุประมาณ 80 กว่าปีได้ ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จักมาก่อนใส่เสื้อสก็อตสวมหมวกเดินถือตระกร้าหมากซึ่งเป็นทองหลืองมา1 อันซึ่งไม่ใหญ่มาก และคุณตาเดินมุงหน้าไปที่สถานธนานุบาล (โรงรับจำนำของรัฐ) ซึ่งตนเห็นคุณตาแล้วเกิดความสงสารและได้ถามคุณตาว่าคุณตาจะไปไหนซึ่งคุณตาได้บอกกับตนว่าจะมาที่นี้แต่เขาเรียกไม่ถูกซึ่งเป็นโรงรับจำนำและคุณตาพูดว่าเอาอันนี้ไปฝากมันซึ่งเป็นตระกร้าทองเหลืองสวยงาม และตนได้ถามคุณตาว่าเอาไปฝากเขาได้เงินเท่าไรคุณตาได้บอกกับตนว่าเขาไม่รู้หรอกคงให้เป็นร้อยแหละตนได้ถามกับตาไปว่าตาใช้เงินเท่าไหร่คุณตาได้บอกกับตนว่า 500 บาท ตนจึงได้ถามคุณตาไปว่า ตาตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่เท่าไร คุณตาทำท่าหยิบถุงซิบที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาดู ในถุงซิบมีเงินอยู่เพียง30บาทเท่านั้น ตนจึงถามต่อไปว่า แล้วคุณตามาที่นี้ยังไง คุณตาตอบว่านั่งรถฟรีมาแต่ตนก็ไม่ได้ถามว่านั่งรถอะไรมา จากนั้นตนจึงได้มอบเงินให้คุณตาไปจำนวน 1,000 บาท คุณตาเหมือนจะหยิบอะไรออกมาให้ก็ไม่ทราบแต่ตนไม่ได้รับไว้ เหมือนจะเป็นพระหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ตนก็ปฎิเสธที่จะรับไว้

หลังจากนั้นคุณตาก็เดินกลับออกไปโดยที่ไม่ได้เอาตะกร้าหมากเข้าไปยังสถานธนานุบาล โดยก่อนหน้าคุณตาก็ได้บอกกับตนว่าตะกร้าดังกล่าวเป็นของยาย (ภรรยา)คุณตาที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ตนรู้สึกอึ้งมาก ตนไม่รู้ว่าตะกร้าหมากอันนั้นจะมีมูลค่ามากน้อยแค่ไหน แต่มันเป็นของคนรักที่อยู่ร่วมกันมาทั้งชีวิตและจากไปแล้ว มันคงมีค่าทางจิตใจมาก เลยคิดว่าอยากให้คุณตาเอากลับไปเก็บ และพอดีตนก็เคยมียายเหมือนกันแต่เสียชีวิตไปแล้ว พูดถึงตอนนี้น.ส.กมลชนก สาวผู้ใจบุญถึงกับจะร้องไห้เลยทีเดียว

ต่อมาทางผูู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานธนานุบาล (โรงรับจำนำของรัฐ)ที่คุณตาจะนำตระกร้าทองเหลืองเข้าไปจำนำ สอบถาม น.ส.ธัญญารักษ์ มั่นประสิทธิ์ อายุ55 ปี ผู้จัดการสถานธนานุบาล (โรงรับจำนำของรัฐ) เทศบาลเมืองบางบัวทองเล่าว่าในทุกวันนี้เศรษฐกิจแย่มากประชาชนได้รับผลกระทบกันทั่วหน้าในทุกๆวันได้มีประชาชนนำเครื่องมือทำมาหากินมาจำนำกันทั้งวันบางคนก็นำเตารีดมาจำนำบางคนก็นำสว่านมาจำนำบางคนก็เป็นเครื่องชักผ้าบ้างทีวีบ้าง ไมโคเวฟ ตู้อบขนมบ้าง แอร์ก็มี จักเย็บผ้าก็มีที่เอามาจำนำซึ่งตนก็คิดว่าเป็นสิ่งของที่มีค่ามากที่สุดของเขาแล้วที่เอามาจำนำเพื่อเอาเงินไปใช้จ่ายกับครอบครัวซึ่งตนเห็นแล้วก็สงสารทุกคนที่เดินเข้ามาแต่ทำยังไงได้ต้องกินต้องใช้ทุกครอบครัวย่อมมีภาระกันทั้งนั้นซึ่งบางครั้งมีคนเอาของมาจำนำ ได้ในราคา 100 บาทก็มี ตนก็ไม่รู้จะช่วยยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนสู้กับเศรษฐกิจที่แย่ลงทุกวันไหนจะเป็นช่วงโควิดระบาดอีกด้วย บางคนไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินก็อุ้มลูกเอาของมาจำนำมาอ้อนวอน เราเห็นก็สงสาร ซึ่งตามนโยบายของ สถานธนานุบาลทั่วประเทศ คือเราต้องให้ความช่วยกับทุกคนที่เข้ามา จะมากจะน้อยยังไงเราก็ต้องช่วย