สังคม

รวบแล้ว 2 โจร สวมรอยกล่องสุ่มพิมรี่พาย หลอกเหยื่อโอนเงิน

โดย sitanan_k

2 ก.พ. 2565

316 views

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 65 ที่สภ.ปากเกร็ด พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษมผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสอบสวนภาค 1 พัน พล.ต.ต.ไพศาลวงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการ ภ.จว.จังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผู้กำกับสส.สภ.ปากเกร็ด และนายรณณรงค์  แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายปุณณพัฒน์ อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 73/2565 ลงวันที่ 31 ม.ค.65 และนางสาวฟรี ย้อน ชอง อายุ 22 ปี สัญชาติไทย-มาเลเซีย ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 72/2565 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองคน "ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"  






โดยจับกุม นายปุณณพัฒน์ ได้ที่ทำคอนโดลาดพร้าว ลาดพร้าวซอย 101 แขวงคลองจั่น เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ส่วนนางสาวฟรีย้อนช่อง จับกุมตัวได้ที่บริเวณร้านกาแฟริมถนนพัทยาใต้ สาย 3 ตำบลหนองปรืออำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ตรวจยึดของกลาง 3 รายการ 1.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น iPhone 12 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPad mini 5








ทั้งนี้ก่อนถูกจับกุม ตัวผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความขอรับเงินคืนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 65 ใน Application facebook ชื่อ "พิมรี่พายขายทุกอย่าง" จากนั้นได้มีคนร้ายซึ่งใช้ application facebook สวมชื่อ ของเพจพิมรี่พายติดต่อมายังผู้เสียหายและแอบอ้างว่าตนเองเป็นแอดมินของเพจดังกล่าว จากนั้นได้ส่งคิวอาร์โค้ดมาให้ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นการรับคืนยอดจากบริษัทจำกัดพิมรี่พาย กรณีไม่พอใจสินค้าที่อยู่ในกล่องสุ่ม ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สแกนคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจำนวน 2 ครั้งเป็นเหตุให้เงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของนางสาวฟรี ย้อน ชอง จากนั้นนางสาวฟรี ย้อน ชอง ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวของผู้เสียหายไปยังบัญชีของนายปุณณภัทร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายปุณณพัฒน์ เคยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายรายและมีประวัติต้องโทษทางคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์อีกจำนวน 3 คดี คือ 1. ในเขต สภ.พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีฉ้อโกงทรัพย์ 2.สภ.ทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช คดีลักทรัพย์ และ 3 สน.หนองค้างพลู คดีฉ้อโกงประชาชน จึงได้รวบรวมหลักฐานทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ได้ดังกล่าว



ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ฝากเตือนถึงผู้ที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีหรือนำบัญชีของตนเองโดยใช้บัญชีเงินผ่านของกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้กระทำผิดกฎหมายซึ่งจะต้องรับโทษตามกฎหมายเทียบเท่าผู้กระทำความผิดโดยปัจจุบันพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำนวนมากทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวโดยใช้มาตรการลงโทษทางกฎหมายในฐานความผิดชั้นสูงสุดและดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินเพื่อเป็นแบบอย่างมิให้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวแก่สุจริตชนคนทำมาหากินและจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย

คุณอาจสนใจ

Related News