สถาบันสุขภาพเด็กฯ เปิดฉีดวัคซีนเด็กเล็ก วันแรก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็ก 5-11 ปี วันแรก ที่เปิดฉีดให้กับกลุ่มเด็กเสี่ยง มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดฉีดวัคซีนให้กับเด็กเล็ก 5-11 ปี โดยกลุ่มแรก เป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว7กลุ่มโรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรวมทั้งโรคหอบหืดที่มีอาการปานกลางรุนแรง

โรคหัวใจและหลอดเลือดโรคหลอดเลือดสมองโรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็ง และภาวะภูมิคุ้มกันต่ำโรคเบาหวานกลุ่มโรคพันธุกรรมรวมทั้งกลุ่มอาการดาวเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรงเด็กที่มีพัฒนาการช้า



ข้อมูลประชากรของประเทศไทย มี เด็ก 5-11 ปี จำนวน 5.8 ล้านคน เป็นเด็กป่วยโรคเรื่อรัง 7 กลุ่มโรค จำนวน 9 แสนคน


โดยที่สถาบันสุขภาพเด็กฯ วันนี้มี เด็กเข้ารับวัคซีนทั้งสิ้น 150 คน จาก กลุ่มเด็กที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังซึ่งทำการรักษาที่สถาบันเด็ก ฯ 4 พันคน โดยวัคซีนที่ใช้เป็นวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ ฝาสีส้ม กำหนดให้รับวัคซีน 2เข็ม ห่างกัน 8 สัปดาห์ ส่วนขั้นตอนในการฉีดวัคซีน ของกลุ่มเด็กเล็กก็เป็นเช่นเดียวกับผู้ใหญ่หลังการฉีดต้องนั่งพักสังเกตุอาการ 30 นาทีด้วย


นางชณารัศมิ์ เรืองมงคลวิชญ์ ผู้ปกครองของ ด.ช.จิราเมศร์ อร่ามมงคลวิชัย อายุ7 ขวบ ซึ่งมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับ หัวใจ และระบบทางเดินหายใจ ที่ได้สอบถามจากแพทย์ประจำตัวผู้ทำการรักษาก่อนจะตัดสินใจให้ลูกเข้ารับวัคซีนในวันนี้ เพราะเธอเชื่อว่า การเข้ารับวัคซีนจะช่วยลดการเจ็บป่วยหนักหากลูกติดเชื้อได้




ทั้งนี้จากข้อมูลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังการรับวัคซีน ได้แก่ปวดบวมแดงเฉพาะจุดบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อยร่างกายและอาจมีไข้ ซึ่งทางบุคลากรได้ให้คำแนะนำผู้ปกครองในการเฝ้าระวังสังเกตอาการของบุตรหลานหลังการรับวัคซีนรวมไปถึงขั้นตอนการดูแลหากมีอาการข้างเคียง



หลังดำเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มต่อไปกลุ่มเด็กเล็กในระบบสถานศึกษาซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการจัดการฉีดวัคซีน เป็นลำดับต่อไป



เสร็จจากการเยี่ยมชมการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กนายอนุทิน ระบุ ขอให้ความมั่นใจต่อผู้ปกครองว่าวัคซีนที่จัดมานั่นมีความปลอดภัย มีมาตรฐาน ส่วนอาการข้างเคียงอาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่อาการที่เป็นอันตราย ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีวัคซีนที่ใข้สำหรับเด็กแรกเกิดในอนาคตประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆที่จะได้ฉีดวัคซีนคลอบคลุมทุกกลุ่มอายุ และจะเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม3 เข็ม 4 ให้คลอบคลุมด้วยเช่นกัน



สำหรับวัคซีนไฟเซอรที่ใช้กับกลุ่มเด็ก 5-11 ปีนั่น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการจัดซื้อจัดหาไว้เบื้องต้น10 ล้านโดส ซึ่งทางผู้ผลิตจะทอยอยส่งมอบให้ประเทศไทยสัปดาห์ละ 3 แสนโดส และได้มีการเจรจาจัดหาเพิ่มเติมจากทางไฟเซอร์ อยู่





นายอนุทินกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี่ทางผู้ลิต วัคซีนซิโนแวคได้ขอจดทะเบียนการใช้วัคซีนซิโนแวคได้ตังแต่ 3 ขวบขึ้นไป ซึ่งเป็นวัคซีนแบบเดียวกับที่ใช้กับผู้ใหญ่อยู่แล้ว ทั้งนี้ในส่งการใช้ต่องดูข้อบ่งชี้ปริมาณและการใช้งานอีกครั้ง

หวังว่าในสัปดาห์หน้าจะมีวัคซีนที่คลอบคบุมตั้งแต่เด็ก 3 ขวบขึ้นไปจนถึงสิ้นอายุไข

สิ่งสำคัญคือขอให้ทุกกลุ่มเข้ารับวัคซีน ซึ่งช่วยลดการป่วยหนักหรือการเสียชีวิตหากติดเชื้อ





ขณะที่บริเวณด้านหน้าอาคาร ที่ทำการฉีดวัคซีนในวันนี้มีกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เดินทางมา ถือป้ายเรียกร้องให้ หยุดการใช้เด็กเป็นกลุ่มทดลองการฉีดวัคซีน โดยนายอรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ตัวแทนกลุ่มระบุว่า ขอให้รัฐบาลหยุดดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับเด็กเล็ก เนื่องจากมีข้อมูลพบว่าวัคซีนที่ใช้อยู่นั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองและการศึกษา และขอให้มีการตรวจสอบกรณีที่พบว่ามีสถานศึกษาออกมาตรการหากนักเรียนไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเข้ามาเรียนภายในสถานศึกษานั้นได้ซึ่งเป็นนโยบายที่กิดกั้นสิทธิ์เด็ก รวมไปถึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนเด็กเล็กเพื่อให้ผู้ปกครองได้พิจารณาและตัดสินใจก่อนที่จะให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีน



ซึ่งมองว่า ในกลุ่มเด็กยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรับวัคซีนเนื่องจากการเจ็บป่วยความรุนแรงรวมถึงการเสียชีวิตในเด็กที่ติดเชื้อ โควิด-19 ยังมีน้อยมาก



โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาที่การในการขอให้ตรวจสอบสถานศึกษาที่ออกนโยบายกีดกันเด็กที่ไม่เข้ารับวัคซีนหรือไม่มีการตรวจ ATK ไม่สามารถเข้าเรียนในสถาน เพราะนั่นเป็นนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่ขัดต่อแนวทางหลักของกระทรวงศึกษาธิการ