เศรษฐกิจ
จ่อเลื่อนคนละครึ่ง เฟส 4 มาไวขึ้น บรรเทาของแพง - หอการค้าชี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับดีขึ้น
โดย thichaphat_d
14 ม.ค. 2565
1.1K views
วานนี้ (13 ม.ค. 65) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ม.ค.65 จะหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เรื่องการเลื่อนมาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ให้เร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะใช้ในวันที่ 1 มี.ค. - 30 เม.ย. 65 เนื่องจากประชาชนมีปัญหาค่าครองชีพแพงขึ้น
“การหารือวันนี้ (14 ม.ค.) นี้จะได้ข้อสรุปมาตรการคนละครึ่ง จะเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้นได้เมื่อไร รวมถึงวงเงินที่ต้องให้ เนื่องจากต้องขออนุมัติคณะกรรมการ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท” นายอาคม กล่าว
นายอาคม กล่าวว่า มาตรการคนละครึ่งผู้ได้สิทธิเดิมประมาณ 28 ล้านคน มาตรการคนละครึ่งเป็นแพ็คเกจพร้อมกับการให้วงเงินเพิ่มเติมกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน และกลุ่มเปราะบาง 2 ล้านคน พร้อมกันในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถบอกได้ว่าข้อสรุปจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้าทันหรือไม่ ต้องรอผลการอนุมัติงบเงินกู้ก่อน
ขณะที่ นายธวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนธ.ค. 2564 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นทุกรายการ ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 เป็นต้นมา
เนื่องจาก ศบค. ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเป็นการรองรับมาตรการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ส่งผลทางจิตวิทยาในเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ที่คาดว่าจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยในการบริโภค และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตลอดจนค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมีมากขึ้นในช่วงปลายปี
รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ที่จะเข้ามาหมุนเวียนเพิ่มเติมในระบบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจไทย และการจ้างงานปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ และโอมิครอนที่แพร่ระบาดในหลายประเทศ อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคตอันใกล้
ทั้งนี้มองว่า ผู้บริโภคเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในประเทศไทย จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่อาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน หลังจากวันหยุดยาวปีใหม่ 2565 แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันในประเทศไทยจะเริ่มมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับการฉีดวัคซีนในประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
รวมถึงการยกเลิกมาตรการเปิดประเทศภายใต้ระบบ Test &Go อาจส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการจับจ่าย ซึ่งต้องติดตามตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทยมากน้อยเพียงใด
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HKarEEk5uLw